Graham Stephan ยูทูปเบอร์สายอสังหาริมทรัพย์ การเงินและการลงทุนชื่อดัง เจ้าของช่อง Graham Stephan ที่มีผู้ติดตามกว่า 3 ล้านคน และช่อง The Graham Stephan Show ที่มีผู้ติดตามกว่า 7 แสนคน ที่ ณ ปี 2021 เขามีทรัพย์อยู่ที่ $8 ล้านเหรียญฯ หรือราว ๆ 250 ล้านบาท จะมาแชร์อุปนิสัยที่เขาทำเป็นประจำ เพื่อก้าวสู่การเป็นเศรษฐีเงินล้าน
อุปนิสัยที่ 1 – Read for 30 minutes อ่านหนังสืออย่างน้อยวันละ 30 นาที
Graham เล่าว่า เขาได้เห็นข้อมูลจาก Thomas Corley ผู้เขียนหนังสือ “Rich Habits: The Daily Success Habits Of Wealthy Individuals” ที่เขาใช้เวลา 5 ปี ในการศึกษาชีวิตของเหล่าบรรดามหาเศรษฐีทั่วโลก ถึงอุปนิสัยที่พวกเขามีเหมือน ๆ กัน ซึ่ง 1 อุปนิสัยในนั้นก็คือ เหล่าบรรดามหาเศรษฐีล้วนแล้วแต่อ่านหนังสือกันวันละไม่ต่ำกว่า 30 นาที
แต่อย่างแรกสุดเหล่าบรรดามหาเศรษฐี พวกเขาไม่ได้อ่านนิยายซีรี่ย์ยอดฮิตทั้งวัน แต่สิ่งที่พวกเขาอ่านนั้น เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่พวกเขาทำอยู่ ที่จะช่วยมาพัฒนาและส่งเสริมให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโตได้
ส่วน Graham นั้นเขาก็อ่านเหมือนกัน โดยเขาจะใช้เวลาในการอ่านและค้นคว้าหาข้อมูลเฉลี่ยวันละ 1-2 ชั่วโมง แต่การอ่านของเขานั้น จะไม่ได้จำกัดอยู่ที่ตัวของหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่เขาอ่านนั้นจะรวมไปถึง การอ่านข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต อ่านคอมเม้นท์ที่สามารถเอามาทำคอนเท้นต์ใหม่ ๆ หรือเอามาปรับปรุงคอนเท้นต์บนช่อง Youtube ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นก็ยังมีการอ่านข่าวบน Reddit ที่เป็นโซเชียลมีเดียยอดนิยมของต่างประเทศ รวมไปถึงเว็บไซต์ข่าวเทรนด์ของโลก ข่าวการเมือง ข่าวการเงิน ข่าวธุรกิจ
และสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากการอ่านข้อมูลของคนอื่น ๆ บนโลกอินเตอร์เน็ตนั้น มันจะมีคนที่มีความคิดที่คุณเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งสิ่งที่คุณควรทำก็คือ คุณควรรับฟังกับความคิดของคนที่เห็นต่างโดยปราศจากอคติ ไม่ใช่จ้องจะเสพย์แต่คนที่คุณเห็นด้วย และประโยชน์ของการทำแบบนี้ คุณอาจจะได้มุมมองใหม่ ๆ ข้อคิดใหม่ ๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน และข้อมูลนั้นอาจส่งผลดีอย่างคาดไม่ถึงต่อตัวของคุณก็เป็นได้
อุปนิสัยที่ 2 – Daily Exercise ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ
คนรวยกว่า 76% จะใช้เวลาในการออกกำลังกายเฉลี่ยอย่างน้อยวันละ 30 นาทีขึ้นไป
โดย Graham พบว่า หลังจากที่เขาออกกำลังกายในทุก ๆ วัน เขากลับมีพลังมากขึ้น สดใสมากขึ้น ความเครียดลดลง และมีแรงทำงานอย่างกระปี้กระเป่าในทุก ๆ วัน และผลพลอยได้จากการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้คุณเริ่มใส่ใจกับการดูแลรักษาสุขภาพของตนเองมากขึ้น และส่งผลให้คุณเริ่มหันมากินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากยิ่งขึ้นด้วย
และด้วยอุปนิสัยการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ไม่เกี่ยวข้องกับความรวยอะไรเลย แต่มันกลับส่งผลให้ทุก ๆ ด้านในชีวิตดียิ่งขึ้น เพราะอย่าลืมว่า หากร่างกายคุณไม่แข็งแรง คุณก็ไม่มีแรงไปทำงาน ดังนั้นจงใส่ใจและให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
อุปนิสัยที่ 3 – Surround Success จงรายล้อมไปด้วยคนที่ประสบความสำเร็จ
คำถามแรกที่ขึ้นมาในหัวของเขาตอนที่สมัยยังเป็นวัยรุ่นอยู่ขึ้นมาทันทีเลยว่า น้ำหน้าอย่างฉันเนี่ย คนรวยที่ไหนจะคบค้าสมาคมด้วยล่ะเนี่ย เพราะแน่นอนว่า เมื่อตัวของคุณยังไม่มีคุณค่ามากพอ แล้วคนรวยและคนดี ๆ ที่ไหน จะมาเสียเวลากับคุณกันเล่า
แต่เขาก็เริ่มคิดได้ว่า อันที่จริงแล้ว ในช่วงแรกคนที่รายล้อมตัวคุณนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรวยเสมอไป แต่ขอให้คนเหล่านี้ เป็นคนดี เป็นคนที่ช่วยเหลือคุณ คอยสนับสนุนคุณ และที่สำคัญเป็นคนที่คิดบวกอยู่เสมอ และโดยทั่วไปแล้ว คนในกลุ่มนี้ มักจะเริ่มพากันพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นตามวันเวลาที่ผ่านไป และนั่นมันก็ทำให้กลุ่มคนที่คบค้าสมาคมกันมาตั้งแต่ในอดีต ก็มีค่าเฉลี่ยที่ดี ที่สูงขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น ณ ตอนนี้ คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งรีบหรือพุ่งเข้าใส่กลุ่มของคนรวยอย่างกระเหี้ยนกระหือรือขนาดนั้น แต่ให้คุณค่อย ๆ พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน
อุปนิสัยที่ 4 – Goal setting ตั้งเป้าหมาย
จากสถิติของเหล่าบรรดามหาเศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตนเองกว่า 61% นั้นมักจะตั้งเป้าหมาย วางแผนงาน วางกลยุทธ์ในทุก ๆ วัน ซึ่งการตั้งเป้าหมายที่ดีนั้น จะต้องตั้งเป้าหมายแบบ SMART GOAL คือ การตั้งเป้าหมายที่ดีจะต้องชัดเจน เจาะจง วัดผลได้ มีโอกาสทำได้จริง เหมาะสมกับตัวเราและมีการกำหนดระยะเวลาอย่างชัดเจน
อุปนิสัยที่ 5 – 5 hours of volunteering ช่วยเหลือสังคม 5 ชั่วโมงต่อเดือน
มหาเศรษฐีกว่า 72% จะใช้เวลาในเรื่องของช่วยเหลือสังคมอย่างน้อย 5 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นในทุก ๆ เดือน ซึ่งแม้ว่าสถิติในข้อนี้ ดูเหมือนจะไม่เห็นว่ามันเกี่ยวข้องกับความรวยตรงไหนเลยก็ตาม แต่คุณคงจะเคยได้ยินวลีสุดฮิตที่มีมานานแสนนานมาประมาณ “ยิ่งให้ ยิ่งได้”
ซึ่งเขาก็พบว่า มันก็มีส่วนจริง เพราะในช่วงแรก ๆ ที่เขาทำคอนเท้นต์ลงบนช่อง Youtube นั้น เขาไม่ได้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว ดังนั้น สิ่งที่เขาโฟกัสในช่วงแรกก็คือ ทำคอนเท้นต์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนให้ได้มากที่สุด แล้วเดี๋ยวเงินตามมาเอง
อุปนิสัยที่ 6 – Create multiple income sources สร้างแหล่งรายได้หลายช่องทาง
มหาเศรษฐีร้อยทั้งร้อยพวกเขาล้วนแล้วแต่มีรายได้มากกว่าหนึ่งช่องทาง และโดยทั่วไป พวกเขามักจะมีแหล่งรายได้จาก 7 ช่องทางดังนี้ก็คือ
Earned Income – คือรายได้จากงานประจำ ค่าจ้าง โดยใช้เวลาแลกกับเงิน
Business Income – รายได้จากธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าหรือบริการของบริษัท
Interest Income – รายได้จากดอกเบี้ย ยกตัวอย่างเช่น เงินฝาก
Dividend Income – เงินจากปันผลจากการถือหุ้นของบริษัท
Rental Income – รายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน ยกตัวอย่างเช่น ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์
Capital Gains – รายได้จากการขายหน่วยการลงหุ้น เช่น การขายหุ้นหรือขายกิจการที่ลงทุนเอาไว้
Royalties / Licensing – รายได้จากลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ลิขสิทธิ์หนังสือ นวัตกรรม เป็นต้น
อุปนิสัยที่ 7 – Getting 7 hours sleep นอนเฉลี่ยวันละ 7 ชั่วโมง
มหาเศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตนเองกว่า 89% จะนอนเฉลี่ยวันละ 7 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นในทุก ๆ คืน
การนอน เป็นเรื่องที่หลายคน อาจมีคำถามในใจขึ้นมาโตแย้งอย่างทันควันว่า การนอนเนี่ยนะ จะทำให้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ มันต้องนอนน้อย ๆ ทำงานเยอะ ๆ สิถึงจะรวย หรือบางคนก็ตีความไปสุดโต่งเลยว่า งั้นฉันนอนทั้งวันไปเลย รวยแน่ ๆ
และแม้ว่ามหาเศรษฐีส่วนใหญ่กว่า 50% จะตื่นนอนแต่เช้าตรู่ ไม่ว่าจะเป็นเวลาตี 4 หรือ ตี 5 ก็ตามที ซึ่ง Graham เองก็ลองทำดูแล้วก็พบว่า มันดีมาก เพราะตอนที่เราตื่นแต่เช้ามืด มาทำงานก่อนใคร ณ ช่วงเวลานั้น คุณจะมีสมาธิในการโฟกัสเรื่องงานมาก ๆ เพราะไม่มีใครมารบกวนคุณ ณ เวลานั้นที่คนอื่น ๆ กำลังนอนหลับกันอยู่
แต่เขาก็พบว่า เขาตื่นแบบนี้ไม่ได้ทุกวัน ดังนั้น เขาจึงปรับเป็นตื่นนอนสักตอน 7 โมงเช้าก็กำลังดี และหลังจาก 9 โมง 10 โมงเช้า ก็ทำงานปกติ แต่เคล็ดลับสำคัญก็คือ พอถึงช่วงเวลาสักประมาณ 4 ทุ่ม ก็ต้องรีบเข้านอน เพราะถ้านอนดึกกว่านั้น ในเช้าวันต่อมาเขามักพบว่า วันทั้งวันของวันใหม่ จะไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานเลย ดังนั้นการนอนดึกของวันก่อนหน้าแค่นิดเดียว ก็อาจทำให้คุณเสียเวลาทั้งวันของวันใหม่ได้เลย
อุปนิสัยที่ 8 – Mentorship มีพี่เลี้ยงที่ปรึกษา
เหล่าบรรดามหาเศรษฐีมักมีพี่เลี้ยงช่วยให้ประสบความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น
แต่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่า จะต้องมีพี่เลี้ยงก่อนถึงจะประสบความสำเร็จ ซึ่งความเป็นจริงนั้นมันเป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เพราะการที่พี่เลี้ยงจะเข้ามาช่วยคุณนั้น พวกเขาจะดูคุณก่อนว่า คุณผ่านอะไรมาบ้าง คุณทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันมาก่อนหน้านี้บ้าง และคุณสมควรได้รับความช่วยเหลือหรือไม่ นั่นคือ อย่างแรกสุด คุณจะต้องทำให้ตัวเองอยู่ในจุดที่ที่มีคุณค่าในตัวเองเสียก่อน ก่อนที่จะให้คนอื่นเข้ามาช่วยเหลือ และโดยธรรมชาติแล้ว เมื่อคุณเดินทางมาถึงจุด ๆ หนึ่ง จะมีคนเข้ามาช่วยเหลือคุณและพวกเขาเหล่านั้นก็มักจะกลายมาเป็นพี่เลี้ยงคุณในที่สุด
อุปนิสัยที่ 9 – Help others success ช่วยให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จ
เมื่อคุณประสบความสำเร็จมาถึง ณ จุด ๆ หนึ่งแล้ว หากคุณมีโอกาสที่จะสอนและเผยแพร่ความรู้ที่คุณมีอยู่ให้กับผู้อื่น และช่วยให้พวกเขาเดินทางมาอยู่ ณ จุด ๆ เดียวกับที่คุณขึ้นมาได้แล้ว พวกเขาจะช่วยและส่งเสริมให้คุณนั้น ก้าวไปสู่จุดที่ประสบความสำเร็จในจุดที่สูงกว่าต่อ ๆ ไปได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น
อุปนิสัยที่ 10 – Never give up อย่ายอมแพ้เด็ดขาด
จงอย่ายอมแพ้ เป็นประโยคที่เราน่าจะได้ยินกันจนเบื่อ ดังนั้น Graham เขาจึงเลือกใช้คำอื่นที่น่าสนุกกว่านั่นก็คือ Enjoy the process จงสนุกไปกับการเดินทาง ซึ่งหากเราทำอะไรอะไรก็ตามด้วยความสนุก มันมีโอกาสที่เดินทางไปสู่ความสำเร็จได้ง่ายกว่า และคุณก็สามารถอยู่กับมันได้อย่างยาวนาน โดยที่ไม่เบื่อหรือล้มเลิกมันไปเสียก่อน
Resources