Jeff Bezos คือผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Amazon.com เว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เขาสามารถขึ้นเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกได้หลายต่อหลายครั้ง และนี่คือ 100 บทเรียน ที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเขา
- ผมมักจะได้รับคำถามว่า อีก 10 ปีข้างหน้าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่งเป็นคำถามที่น่าสนใจมาก
- แต่อีกคำถามหนึ่งที่ผมมักจะไม่ค่อยได้รับก็คือ “ในอีก 10 ปีข้างหน้า อะไรจะไม่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง?” ซึ่งคำถามนี้น่าสนใจ เพราะคุณสามารถสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจในสิ่งดังกล่าวในช่วงเวลาที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นได้อย่างไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น ในธุรกิจค้าปลีก Amazon.com นั้น เรารู้ดีว่า ลูกค้าต้องการราคาสินค้าที่ต่ำและการส่งสินค้าที่รวดเร็ว ซึ่งอีก 10 ปีข้างหน้า ก็จะยังคงเป็นเช่นนี้อยู่อย่างแน่นอน
- และการที่เรารู้สิ่งที่เราลงแรงไปนั้น ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในอีก 10 ปีข้างหน้า เราก็สามารถทุ่มเทให้กับสิ่งเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่ เพราะมันจะไม่มีการสูญเปล่า
- เราโชคดีอย่างไม่น่าเชื่อที่มีกลุ่มพนักงานที่อุทิศตนและหลงใหลในการสร้าง Amazon.com ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
- หากเราสามารถทำให้คู่แข่งคอยจดจ่อจดจ้องอยู่ที่เรา ในขณะที่เราโฟกัสที่ลูกค้า ซึ่งเป็นผลดีต่อเรา
- ในการทำธุรกิจ ถ้าคุณไม่ยืนหยัดนานพอ คุณก็จะล้มเลิกไปในไม่ช้า และถ้าคุณไม่มีความยืดหยุ่น คุณก็อาจจะเครียดจนเอาหัวโขกกำแพงเพราะหาทางออกในการแก้ไขปัญหาตรงหน้าไม่เจอ
- เรายืนหยัดในเรื่องของวิสัยทัศน์ และเรายืดหยุ่นในรายละเอียด
- การสร้างแบรนด์ของบริษัท ก็เหมือนกับการสร้างชื่อของบุคคล คุณจะได้รับชื่อเสียงจากการที่บริษัทพยายามทำในสิ่งที่ยากให้มันได้ดี
- แบรนด์ของคุณคือสิ่งที่ผู้คนพูดถึงคุณในที่ลับหลัง
- เราไม่สามารถอยู่ในโหมดเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ ได้ เราจำเป็นที่จะต้องอยู่ในสถานะแห่งการเติบโต
- Work Hard, have fun, make history. ขยันทำงาน สนุกไปกับการทำงาน เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ให้จารึกเอาไว้
- เรามองลูกค้าว่าเป็นแขกที่ได้รับเชิญมางานปาร์ตี้ และเราก็เป็นเจ้าภาพที่ดี ดังนั้น งานของเราก็คือการทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ สิ่ง ๆ ในทุก ๆ วัน
- ถ้าคุณไม่อยากโดนด่า โดนว่า โดนวิจารณ์ ก็อย่าพยายามทำในสิ่งใหม่ ๆ
- ในเรื่องของการตัดสินใจ ให้ตัดสินใจที่เป็นไปตามข้อเท็จจริง อย่าเอาลำดับชั้นของตำแหน่งงานมาบดบังการตัดสินใจ
- ในโลกธุรกิจยุคเก่า คุณใช้เวลา 30% ไปกับการสร้างบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า และอีก 70% ใช้เวลาไปกับการบอกเล่าเกี่ยวกับการบริการ แต่ในโลกยุคใหม่นั้น คุณจะต้องทำกลับกัน คุณจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสร้างบริการที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า
- สัญญาณมรณะของธุรกิจใด ๆ ก็ตาม ก็คือการที่องค์กรนั้น ๆ มัวแต่เอาเชิดชูแต่ความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมา ที่แม้ว่ามันจะดีเลิศก็ตามที
- หากคุณตัดสินใจเลือกที่จะทำแต่ในสิ่งที่คุณรู้ว่ามันได้ผล นั่นหมายถึงว่า คุณกำลังทิ้งโอกาสอีกมากมายที่คุณยังไม่รู้
- การทดลองคือการทำในสิ่งที่คุณยังไม่รู้ผล แต่ถ้ารู้ผลอยู่แล้ว มันไม่ใช่การทดลอง
- เวลาทำธุรกิจ ให้เริ่มต้นที่ตัวของลูกค้า แล้วค่อยคิดวิธีการทำงานแบบย้อนกลับ
- คนที่รักในทุกศาสตร์ความรู้ทุกแขนง คือคนที่มองเห็นรูปแบบที่มีอยู่ในธรรมชาติได้ดีที่สุด ความหมายก็คือ คนที่ชอบการเรียนรู้ในทุก ๆ เรื่อง จะสามารถเชื่อมต่อเรื่องต่าง ๆ เข้าด้วยกัน มองเห็นภาพรวมทุกอย่างในธรรมชาติเข้าด้วยกันได้ดีที่สุด
- วัฒนธรรมในองค์กรของ Amazon.com ไม่ได้ถูกวางแผนไว้มากนัก เนื่องจากวัฒนธรรมขององค์กรเรานั้น ส่วนใหญ่มันวิวัฒนาการมาจากคนกลุ่มแรก ๆ ที่เริ่มต้นทำงานที่นี่
- จุดแข็งด้านวัฒนธรรมองค์กรอย่างหนึ่งในบริษัทของเราที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ หากคุณกำลังคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่ คุณก็กำลังหาวิธีทำลายนวัตกรรมก่อนหน้านี้อยู่ด้วยนั่นเอง
- การมีปริมาณกระแสเงินสดในธุรกิจอย่างมหาศาลนั้น สามารถบ่งบอกได้ถึงอนาคตของบริษัทว่าจะสามารถเติบโตได้ในระยะยาวได้
- ความสำเร็จของ Amazon.com นั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนการทดลองที่เราทำต่อปี ต่อเดือน ต่อสัปดาห์ ต่อวัน
- ถ้าหากคุณเพิ่มการทดลองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าต่อปี คุณก็จะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าต่อปีด้วยเช่นกัน
- เป้าหมายของเราคือ ไม่ว่าลูกค้าจะไปเจอสินค้าที่ไหนก็ตาม แต่สุดท้ายลูกค้าเลือกที่จะซื้อบนเว็บไซต์ของเรา
- ถ้าผมนัดสัมภาษณ์งานจำนวน 50 คน แล้วผมไม่ได้จ้างงานใครเลย มันยังดีกว่าจ้างคนที่ไม่ใช่เข้ามา
- การตัดสินใจในระดับผู้บริหาร การที่คุณได้รับค่าตอบแทนที่สูงนั้น คุณต้องตัดสินใจอย่างมีคุณภาพสูงในไม่กี่เรื่อง ไม่ใช่ตัดสินใจนับพันเรื่องแต่ไม่มีคุณภาพ
- บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ส่วนใหญ่นั้น มักจะโฟกัสและจับตาคู่แข่งมากเป็นพิเศษ พวกเขาคอยเล็งว่าคนอื่น ๆ กำลังทำอะไรกันอยู่ แล้วก็พยายามทำตามและพัฒนาให้ทันตามคู่แข่ง แต่ในขณะที่ Amazon.com นั้น พวกเราใช้เวลากว่า 90%-95% ในการสร้าง AWS หรือแพลตฟอร์มการประมวลผลแบบคลาวน์ ที่ให้บริการจัดเก็บข้อมูล สร้างฐานข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลบน cloud ต่าง ๆ นั้น ถูกขับเคลื่อนจากสิ่งที่ลูกค้าบอกเราว่าพวกเขาต้องการอะไร
- ผมรู้ว่าถ้าผมล้มเหลว ผมจะไม่เสียใจในเรื่องดังกล่าว แต่ผมจะเสียใจมากกว่าถ้าผมยังไม่เคยพยายามลองทำมันดูก่อนเลย
- ถ้าคุณกำลังทำอะไรบางอย่างที่น่าสนใจต่อโลกนี้ คุณจะหนีไม่พ้นจากคำวิจารณ์ของผู้คน จงอย่าหยุดทำ เดินหน้าต่อไป เพราะถ้าหยุดตอนนี้ มันไม่คุ้มกับเวลานอนหามรุ่งหามค่ำที่คุณเคยเสียไป
- ปู่ของผมเคยนั่งมองมาที่ผมหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งว่า Jeff หลานรัก สักวันหลานจะเข้าใจว่า การเป็นคนใจดีนั้น ยากกว่าการเป็นคนฉลาด
- หากเลือกที่จะเป็นผู้ประกอบการแล้วนั้น คุณต้องเต็มใจที่จะถูกผู้อื่นเข้าใจผิดเป็นเวลานานแสนนาน ความหมายก็คือ ผู้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจหรอกว่าคุณกำลังพยายามทำอะไรอยู่
- จงทำตนให้ยึดติดกับบางสิ่งที่คอยกระตุ้นความสงสัย กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคุณ และสิ่งนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่คุณให้ความสนใจอยู่แล้ว
- ในขณะที่บริษัทเติบโตขึ้น ทุกสิ่งจำเป็นที่จะต้องปรับขนาดตามขึ้นไปด้วย รวมไปถึงเรื่องขนาดของการทดสอบที่ล้มเหลวที่ใหญ่ขึ้น เพราะถ้าหากขนาดของความล้มเหลวของคุณไม่เพิ่มขึ้น แม้แต่นวัตกรรมในการยกเข็มสักเล่มหนึ่งให้ลอยขึ้นมาได้นั้นก็ไม่มีทางทำได้หรอก
- คนฉลาดนั้นมีค่าเล็กน้อย และมีจำนวนไม่มากนัก แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าก็คือคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีจินตนาการ
- การได้รับคำวิจารณ์จากผู้คนที่หวังดีนั้น คุณต้องตั้งคำถามว่า สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้ามันเป็นเรื่องจริงและเป็นประโยชน์ คุณก็จำเป็นที่จะต้องปรับตัวตามที่พวกเขาวิจารณ์มา แต่ถ้าหากสิ่งเหล่านั้นมันไม่ถูกต้อง และถ้าคุณมีความเชื่อมั่นจริง ๆ ว่ามันไม่ถูกต้อง คุณก็ต้องเต็มใจที่จะไม่แก้ไข และถูกเข้าใจผิดจากผู้คนที่หวังดี ว่าทำไมคุณถึงไม่ปรับเปลี่ยนตามคำวิจารณ์ของพวกเขา ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างนวัตกรรม
- คุณจำเป็นที่จะต้องตระหนักว่า ถ้าคุณทุ่มทั้งเงิน เวลา และแรงกาย เป็นจำนวนมากเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอะไรบางอย่าง แล้วเก็บเงินจากผู้เสพย์ข้อมูลดังกล่าว แต่ในขณะที่เจ้าอื่น ๆ กลับสรุปข้อมูลของคุณได้อย่างกระชับภายในเวลาอันรวดเร็ว แถมให้เสพย์ฟรีอีกต่างหาก ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ผู้คนก็จะตั้งคำถามกับคุณว่า ทำไมพวกเขาต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้น ทั้ง ๆ ที่หาเสพย์ฟรีได้จากเว็บไซต์ทั่วไป
- ถ้าทุกสิ่งอย่างที่คุณกำลังทำอยู่ คุณจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการทำประมาณ 3 ปี นั่นหมายถึงว่า คุณกำลังแข่งขันกับคู่แข่งเป็นจำนวนมากอยู่ แต่ถ้าคุณเต็มใจที่จะลงทุนทำบางสิ่งบางอย่างในกรอบเวลา 7 ปี คุณจะมีคู่แข่งจำนวนน้อยลงมาก เพียงแค่ยืดระยะเวลาออกไป
- ผมคิดถึงภาพตอนตัวเองอายุ 80 ปี แล้วมองย้อนกลับมาในอดีตของตัวผมเองนั้น สิ่งที่ผมต้องการคือการลดจำนวนเรื่องที่ทำให้เสียใจน้อยที่สุด นั่นก็คือเรื่องที่ผมอยากทำแต่ยังไม่เคยลองทำดู
- ผมไม่เคยเสียใจเลย ที่ผมได้ทำในเรื่องที่มีส่วนร่วมกับโลกอินเตอร์เน็ต เพราะผมคิดในตอนนั้นว่าโลกอินเตอร์เน็ตมันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งถ้าในท้ายที่สุดผมล้มเหลว ผมก็จะไม่เสียใจเลย แต่ผมจะต้องเสียใจอย่างแน่นอนหากไม่ได้ลองทำเว็บไซต์ Amazon.com มันคงตามหลอกหลอนผมอยู่ทุกวี่ทุกวันเป็นแน่แท้
- ชีวิตนั้นสั้นเกินกว่าที่จะไปสุงสิงกับคนที่ไม่มีปัญญา
- วิธีเดียวที่ความคิดจะออกจากกล่องใบแคบ ๆ ได้ก็คือ การคิดค้น ประดิษฐ์ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อที่จะออกจากจุด ๆ นั้น
- สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำคือการไปในทิศทางเดียวกับอนาคตเสมอ คุณต้องลอยไปตามกระแสลม ไปตามกระแสของโลก ไม่ใช่สวนกระแสโลก คุณจำเป็นที่จะต้องคิดหาวิธีการปรับตัวให้เข้ากับโลก และลงมือทำมัน เพราะการเอาแต่บ่นนั้นไม่ได้ช่วยอะไร
- ที่ Amazon.com เรามีแนวคิดสำคัญอยู่ 3 ประการหลัก ๆ ที่เราได้ยึดมั่นมานานมากกว่า 18 ปี ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ก็คือ ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก จากนั้นก็คิดค้นหาวิธีการที่จะทำให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด และสุดท้ายก็คือ จงอดทน
- มีบริษัทอยู่สองประเภทใหญ่ ๆ ก็คือ บริษัทประเภทแรกจะพยายามเรียกเก็บเงินจากลูกค้าให้มากขึ้น และบริษัทประเภทที่สองจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อเรียกเก็บจากลูกค้าให้น้อยลง ซึ่งบริษัท Amazon.com ของเราจะเป็นบริษัทประเภทที่สอง
- ถ้าหากให้เหตุผลว่า ทำไมที่บริษัท Amazon.com นั้นทำได้ดีกว่าคู่แข่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาบนโลกอินเตอร์เน็ตได้นั้น นั่นก็เป็นเพราะเราให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในการใช้งานของลูกค้าเป็นอย่างมาก ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ในการทำทุก ๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ที่การบอกแบบปากต่อปากนั้นมันทรงพลังเอามาก ๆ
- เพื่อน ๆ ต่างแสดงความยินดีกับผมหลังจากที่บริษัทประกาศผลประกอบการในไตรมาสนั้น แต่ผมก็จะตอบกลับไปแบบไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนักว่า ผลประกอบการไตรมาสที่เห็น คือสิ่งที่ผมวางแผนและลงมือทำตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว
- ส่วนที่ยากที่สุดในการทำตามวิสัยทัศน์ก็คือ ในบางครั้งคุณเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนที่ว่าวิสัยทัศน์ของคุณจะเกิดขึ้นจริง ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่เราขายหนังสือบนเว็บไซต์ Amazon.com เราก็ไม่รู้เหมือนว่า อีกนานแค่ไหนที่กระแสการซื้อ e-book ออนไลน์จะมา เราทำได้แค่เพียงอดทนรอคอย และดื้อรั้นมากพอ
- ทุกวันนี้ Amazon.com ยังคงเป็นผู้เล่นรายเล็กในวงการการค้าปลีกทั่วโลก นั่นก็เป็นเพราะกว่า 90% ของการค้าปลีกทั่วโลกยังคงเป็นการค้าขายแบบออฟไลน์ที่มีการขายหน้าร้านเป็นหลัก
- สำหรับพวกคุณอาจจะนึกภาพในช่วงที่ตอนผมเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ ๆ ได้ยากว่ามันมีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่สำหรับผมนั้น ภาพวันนั้นยังคงชัดเจน ในวันที่ผมกำลังขับรถไปส่งของให้ลูกค้าที่ไปรษณีย์ด้วยตัวเอง แล้วหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะสามารถซื้อรถยกได้สักคันเพื่อเอาไว้ใช้ขนพัสดุ
- การโฟกัสไปที่การปรับลดต้นทุนในการซื้อสินค้าก็คือ การซื้อในปริมาณที่มาก ๆ ซึ่งการที่จะทำแบบนั้นได้ จำเป็นที่จะต้องมียอดขายที่สูงมากขึ้น และเมื่อยอดขายเพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้ต้นทุนลดต่ำลงเป็นอย่างมาก และก็ทำให้สามารถลดราคาสินค้าได้มากขึ้น และลูกค้าก็ชอบสิ่งนี้ และก็เป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงคาดหวังให้เราทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับสินค้าชิ้นอื่น ๆ
- Margin หรือส่วนต่างผลกำไรของคุณนั้น คือโอกาสของเรา ความหมายก็คือ ยิ่งสินค้าดังกล่าวมีช่วง margin ที่กว้างมากเท่าไหร่ โอกาสที่ Amazon.com จะประสบความสำเร็จนั้นก็มีมากขึ้นด้วยเช่นกัน
- อำนาจการต่อรองกำลังย้ายไปอยู่ในฝั่งของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นและออกห่างจากบริษัทมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสิ่งที่คุณสามารถทำในทางที่ถูกต้องกับการเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือ การทุ่มเทแรงกายแรงใจ มุ่งความสนใจ และทุ่มเงินส่วนใหญ่ไปกับการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ยอดเยี่ยม และใช้จ่ายในส่วนของการตลาดให้น้อยลง
- ความหมายโดยตรงของการเป็นผู้นำในตลาดหมายถึง การที่มีรายได้ที่สูงขึ้น มีความสามารถในการทำผลกำไรได้มากขึ้น ความเร็วของเงินทุนที่มากขึ้น และมี ROI : Returen On Investment หรือผลตอบแทนที่กลับคืนมาอย่างแข็งแกร่ง
- การตั้งคำถามด้วยประโยคที่ขึ้นด้วย WHY? หรือทำไมนั้น เป็นคำถามที่ดี แต่การที่ตั้งคำถามที่ดีพอ ๆ ในระดับเดียวกันด้วยนั่นก็คือคำถามที่ขึ้นด้วยประโยคว่า Why not? ทำไมจะไม่ลองทำมันดูล่ะ
- หากคุณไม่เข้าใจในรายละเอียดของธุรกิจของคุณแล้วนั้น คุณจะล้มเหลวอย่างแน่นอน
- ในมุมมองของผมนั้นมองว่า ทุกบริษัทจำเป็นที่จะต้องมีมุมมองแบบ long-term มีมุมมองในระยะยาว
- แต่ละบริษัทไม่ควรเสพย์ติดภาพความสำเร็จ ภาพที่สวยงาม ในช่วงที่ธุรกิจกำลังรุ่งโรจน์ เพราะสิ่งเหล่านั้นมันไม่จีรังยั่งยืน
- การสร้าง community การสร้างชุมชนนั้น จะช่วยสร้างตัวเลือกที่ดีกว่าในการที่จะมีพาร์ทเนอร์ที่ดี เพื่อที่จะสามารถสร้างผลกระทบต่อโลกนี้ได้ในระยะยาว
- สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราก็คือการโฟกัสไปที่ลูกค้า เป้าหมายของพวกเราคือการทำบริษัทให้เป็น customer-centric ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการทำธุรกิจ
- การที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางนั้น ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ เราสามารถปรับปรุงบริการภายในของบริษัทได้ในทันที โดยที่ไม่ต้องรอแรงกดดันจากภายนอกมาบีบบังคับให้เราต้องปรับปรุง
- การบริการลูกค้าที่ดีที่สุดก็คือ การที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องโทรหาคุณ ไม่จำเป็นต้องคุยกับคุณ นั่นแหละแสดงว่าการบริการมันเวิร์คแล้ว
- อย่ามัวแต่มองลูกค้าเก่า ให้มองหาลูกค้าใหม่ ๆ รวมไปถึงลูกค้า next generation ต่อไปด้วยว่าพวกเขาคือใคร ไม่เช่นนั้นคุณจะกลายเป็นคนที่ล้าสมัย เป็นธุรกิจที่มีความคิดล้าสมัย
- ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของบริการแบบบุฟเฟ่ต์ ที่สามารถ ใช้ได้ ทานได้แบบไม่อั้น เพราะมันง่ายกว่ามากสำหรับลูกค้า ความหมายก็คือ ลูกค้าจ่ายในราคาบุฟเฟ่ต์ ก็สามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการทั้งหมดได้ในคราวเดียว ยกตัวอย่างเช่น ที่ Amazon.com ก็มีหลายบริการที่จ่ายแบบรายเดือนแล้วก็สามารถใช้บริการใช้สินค้าทั้งหมดได้เลย
- ในมุมมองของเราก็คือ หากเราช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราก็จะขายสินค้าได้มากขึ้นด้วย
- ผมไม่ชอบเลยเวลาที่เห็นโฆษณาจากธนาคารที่ชอบโฆษณาชวนให้ผู้คนเอาบ้านไปจำนอง แล้วเอาเงินสดไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดสุดสัปดาห์ นั่นมันเป็นโฆษณาที่ไม่ดีเอาซะเลย
- ถ้าหากคุณเก่งในเรื่องการแก้ไขปัญหา การทำผิดพลาดอย่างรวดเร็วนั้น อาจมีค่าเสียหาย มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าที่คุณคิด และการทำอย่างเชื่องช้านั้น อาจมีค่าใช้จ่ายมากกว่าที่คุณคิด ความหมายก็คือ หากคุณใช้เวลานานกว่าที่จะลงมือทำอะไรสักอย่างเพราะกลัวที่จะผิดพลาดแล้วนั้น ขอให้ตระหนักเอาไว้ว่า เวลานั้นแพงกว่าและหาเพิ่มไม่ได้
- ในการตัดสินครั้งสำคัญ ๆ ในธุรกิจและชีวิตส่วนตัวของผมนั้น ล้วนแล้วเกิดจากการตัดสินใจด้วยความกล้า ด้วยสัญชาตญาณ ตัดสินด้วยใจ ไม่ใช่ตัดสินจากการวิเคราะห์
- ถ้าคุณสามารถตัดสินใจด้วยการวิเคราะห์ได้ คุณก็ควรทำแบบนั้น แต่ในชีวิตจริงการตัดสินใจที่สำคัญ ๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะตัดสินใจด้วยสัญชาตญาณ ความชอบส่วนตัว และใช้ใจ อยู่ดี
- การชนะครั้งใหญ่แค่ครั้งเดียว ก็สามารถชดเชยกับความพ่ายแพ้ทั้งหมดที่เคยผ่านมาได้
- ในยุคตื่นทองคุณอาจจะรู้สึกแย่ เพราะนับวันการขุดหาทองคำจะมีแต่หายากขึ้นเรื่อย ๆ มีน้อยลงเรื่อย ๆ แต่ในขณะที่ในยุคโลกาภิวัฒน์นี้ คุณกลับสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อยู่ตลอดเวลา มันไม่เคยหมดสิ้น ไม่เคยขาดแคลน มีโอกาสใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
- สิ่งที่เป็นอันตรายต่อธุรกิจก็คือ การไม่ยอมพัฒนา ไม่คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ไม่ปรับปรุงการสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้าให้แฮปปี้มากขึ้น
- มีอยู่ 2 วิธีในการต่อยอดธุรกิจก็คือ อย่างแรกให้ต่อยอดจากสิ่งที่คุณทำได้ดี อย่างที่สองให้ศึกษาว่าอะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ แล้วทำงานแบบย้อนกลับ ซึ่งอาจจะต้องใช้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ ยกตัวอย่างจาก Amazon.com ก็คือ เราพัฒนา Kindle ที่เป็นเครื่องอ่านอีบุ๊ค ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
- หากคุณทำการทดลองอยู่ตลอดเวลา คุณจะพบว่า มีการค้นพบนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยบังเอิญอยู่เสมอ
- ถ้าคุณคิดในระยะสั้น ๆ แค่เพียงไตรมาสหรือภายในปีเดียว คุณจะพบว่า การลดราคาสินค้านั้น จะทำให้คุณทำเงินได้น้อยลง กำไรน้อยลง แต่หากคุณมองในระยะ 10 ปี คุณก็จะพบว่า ในระยะยาว ลูกค้าจะมีการซื้อที่ถี่ขึ้น ซื้อซ้ำบ่อยขึ้น ซื้อจำนวนเยอะขึ้น เป็นเพราะพวกเขามีความพึงพอใจเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
- วัฒนธรรมองค์กรที่ดี คือการที่แต่ละคนในองค์กรช่วยกันเสนอความคิด เสนอไอเดีย อย่างสร้างสรรค์ และมีผู้บริหารระดับสูงที่คอยสนับสนุนความคิดเหล่านั้น เพื่อให้ความคิดสร้างสรรค์เหล่านั้นเกิดผล โดยบริษัทจะต้องเต็มใจที่จะรอให้ออกดอกออกผลได้เป็นระยะเวลา 5-7 ปี ได้ แต่บริษัทส่วนใหญ่ไม่สามารถรอได้
- การสร้างแรงบันดาลใจต่อธุรกิจ คือการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้คนไว้วางใจในตัวผม, ลูกค้านับล้านไว้วางใจในเว็บไซต์ Amazon.com, นักลงทุนนับพันไว้วางใจในบริษัท และเรามีทีมงานนับล้านไว้วางใจซึ่งกันและกัน มันเป็นอะไรที่ดีเอามาก ๆ
- กุญแจความสำเร็จประกอบไปด้วย ความอดทน, ความขยันหมั่นเพียร และการใส่ใจในรายละเอียดอย่างหมกหมุ่น ทุ่มเท
- คุณรู้ดีว่า ถ้าคุณทำให้ลูกค้าไม่พอใจ พวกเขาจะไม่บอกเรื่องนี้เพียงแค่เพื่อน 5 คน แต่พวกเขาจะบอกเพื่อน 5,000 คน บนโลกออนไลน์
- คุณสามารถมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดได้, คุณสามารถมีโมเดลธุรกิจที่ดีที่สุดได้ แต่หากคุณไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ ไอ้ที่มีอยู่นั้นมันก็จะไม่มีความสำคัญเลยแม้แต่น้อย เพราะมันไม่มีใครเห็นธุรกิจคุณเลย
- พวกเราชอบที่จะนำเมล็ดพันธุ์ไปปลูก แล้วรอจนมันเติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่
- สาเหตุที่ผลิตภัณฑ์หลายอย่างล้มเหลวนั้นก็เป็นเพราะ มัวแต่เอาวิจัยการตลาด คาดการณ์ว่าลูกค้าน่าจะชอบแบบนั้นแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว ลูกค้าไม่ได้ต้องการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเลยด้วยซ้ำ
- เวลาจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง ขอแค่มีข้อมูลอยู่ราว ๆ 70% ก็ให้เริ่มตัดสินใจได้เลย เพราะถ้ามัวรอข้อมูลให้มากกว่า 90% แล้วนั้น อาจจะกินเวลานาน และเป็นช่วงเวลาที่ตัดสินใจช้าเกินไป ไม่ทันการเสียแล้ว
- ในโลกธุรกิจหากคุณสามารถนำพามันขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้ มันสามารถสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาได้นับพันเท่า
- คุณสามารถเลือกที่จะทำงานเพียงเพื่อให้ได้เงิน หรือทำงานเพื่อพัฒนาสู่จุดสูงสุดในสายอาชีพ หรือทำเพราะอยากสร้างบางอย่างที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อโลกใบนี้ก็ได้
- การตัดสินใจที่จะทุ่มเททั้งเวลาและแรงกายให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตของคุณเลยก็ว่าได้
- คนที่ฉลาดที่สุดนั้น พวกเขามักจะใช้เวลาในการทบทวนความคิด ความเข้าใจในวิธีการแก้ไขปัญหาที่พวกเขาคิดมันมาได้อยู่เสมอ และเปิดรับมุมองใหม่ ๆ ว่าจะมีแนวคิดใดที่สามารถหักล้าง และท้าทายวิธีคิดของพวกเขาเองได้
- ในท้ายที่สุด ตัวเราคือสิ่งที่เราเลือกเอง เราสร้างเรื่องราวสร้างเส้นทางด้วยตัวของเราเอง
- ถ้าผมมีการตัดสินใจที่ดี 3 ครั้งต่อวัน นั่นก็เพียงพอแล้ว เพราะการตัดสินใจมันควรจะมีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ โดยเฉพาะการตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญ ๆ
- เราแต่ละคนนั้นล้วนมีความโดดเด่น แตกต่าง ไม่เหมือนใคร ทุกคนมีค่าในแบบฉบับของตนเอง จงเป็นตัวของตัวเอง ทำตัวเองให้เป็นต้นแบบที่ดี
- การพิมพ์ข้อความออนไลน์อย่างเช่นข้อความในอีเมลหรือโซเชียลมีเดียนั้น มีความสามารถพิเศษก็คือ มันสามารถปิดกั้นยีนความสุภาพในตัวมนุษย์ได้
- มนุษย์เรานั้นวิวัฒนาการไปพร้อม ๆ กับเครื่องมือต่าง ๆ เพราะเมื่อทำการทำเปลี่ยนเครื่องมือแตกต่างออกไป และเครื่องมือก็จะทำให้เราเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติในเวลาต่อมา
- ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่า หากพวกเขาทำงานอย่างหนัก พวกเขาสามารถที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ภายในครึ่งเดือน แต่ความจริงก็คือ อาจจะต้องใช้เวลาถึงครึ่งปีในการฝึกฝนทักษะดังกล่าวทุกวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าหากคุณคิดว่าทำได้ภายในครึ่งเดือน และคุณทำมันไม่ได้จริง คุณก็จะเลิกล้มความตั้งใจไปในที่สุด
- ที่ Amazon.com คือสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกที่จะทำเรื่องล้มเหลวได้ เพราะเมื่อมีการทดลองก็ย่อมมีการล้มเหลวเป็นของคู่กัน
- ในขณะที่ Elon Musk ผลักดันโครงการอวกาศที่ SpaceX ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ Jeff Bezos ที่ทำโครงการอวกาศที่ Blue Origin นั้น เขาได้คำแนะนำแก่ทีมงานว่า “จงเป็นเต่า ไม่ใช่กระต่าย” ความหมายก็คือ ค่อย ๆ เดินไปช้า ๆ แต่คืบหน้าตลอดเวลาอย่างมั่นคง
- ผมมักจะเตือนพนักงานของเราอยู่เสมอว่า จงตื่นขึ้นในทุกเช้าด้วยความหวาดกลัว แต่ไม่ใช่การหวดกลัวคู่แข่ง แต่เป็นลูกค้าของเรา เพราะลูกค้าคือคนที่ทำให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างที่มันเป็นจนถึงทุกวันนี้ พวกเราเป็นหนี้ลูกค้า และพวกเขาจะจงรักภักดีต่อแบรนด์ของพวกเรา จนกระทั่งมีเจ้าอื่นที่เสนอการบริการที่ดีกว่า พวกเขาก็จะจากพวกเราไป
- ผมให้ความสำคัญกับการนอนเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อวันมาก ๆ เพราะการนอนอย่างเต็มอิ่ม จะช่วยในเรื่องของการมีพลัง มีสมาธิในการโฟกัส มีความเฉียบคมในการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ได้ดีขึ้นมาก การนอนไม่พอจะทำให้คุณตัดสินใจได้ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการตัดสินใจเป็นเรื่องที่สำคัญของระดับผู้บริหารเป็นอย่างยิ่ง
- ในปี 1994 ในขณะที่ Jeff Bezos ทำงานเป็นพนักงานอยู่ เขาสังเกตเห็นการเติบโตของอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นกว่า 2,300% ในแต่ละปี เขาก็ตัดสินใจในทันทีว่าเขาจะกระโดดเข้าวงการนี้ โดยเริ่มจากการเปิดร้านค้าปลีกออนไลน์ และเลือกที่จะขายหนังสือเป็นอย่างแรกสุด เพราะในโลกอินเตอร์เน็ต คุณสามารถแสดงตั้งโชว์หนังสือได้นับล้านปก ในขณะที่ร้านหนังสือที่มีหน้าร้านปกติทั่วไปนั้นไม่สามารถทำได้
- ความอยากรู้อยากเห็นนั้น สำคัญกว่าความรู้
Resources