Site icon Blue O'Clock

100 ข้อคิด จาก Peter Thiel หนึ่งใน Paypal Mafia | Blue O’Clock Podcast EP. 42

Peter Thiel

Peter Thiel นักธุรกิจ นักลงทุน หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง paypal แพลตฟอร์มจ่ายเงินออนไลน์ระดับโลก และนอกจากนั้นยังเป็นนักลงทุนรายแรก ๆ บน facebook, Airbnb, SpaceX และสตาร์ทอัพอื่น ๆ อีกมากมาย และนี่คือ 100 บทเรียน ที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเขา

  1. ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย ในโลกยุคที่เปลี่ยนแปลงเร็วเช่นนี้ ซึ่งกลยุทธ์เดียวที่จะการันตีความล้มเหลวได้นั้นก็คือ การไม่ยอมเสี่ยง
  2. การแข่งขันมีไว้สำหรับผู้แพ้ หากคุณต้องการสร้างบริษัทที่มีมูลค่าที่ยั่งยืนนั้น คุณจะต้องสร้างบริษัทที่สามารถผูกขาดในตลาดนั้นได้
  3. การล้มเหลวนั้นไม่ใช่เรื่องแย่ แต่เรื่องที่แย่ก็คือการที่ไม่แม้แต่จะพยายามทำอะไรเลย
  4. คุณจำเป็นต้องคิดในเรื่องที่ใหญ่ ในขณะที่กำลังทำในเรื่องเล็กอยู่ เพื่อให้เรื่องเล็ก ๆ ทั้งหมดนั้น ดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
  5. ตัวคุณมีพลังในการทำบางสิ่งบางอย่างบนโลกนี้ ที่คุณสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้
  6. สิ่งที่ดีที่สุด ที่ธุรกิจสามารถทำได้ก็คือ การสร้างสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ที่สามารถดึงดูดใจและความคิดของผู้คนขึ้นมาได้
  7. การมีการวางแผนที่แย่ ย่อมดีกว่าการไม่มีแผนอะไรเลย และแผนการที่ดีก็ย่อมดีกว่าแผนการที่แย่
  8. Bill Gates คนต่อไปจะไม่สร้างระบบปฏิบัติการอย่าง Microsoft, Larry Page และ Sergey Brin จะไม่สร้างเครื่องมือการค้นหาอย่าง Google, Mark Zuckerberg คนต่อไปจะไม่สร้าง Social Network อย่าง Facebook ซึ่งถ้าหากคุณลอกเลียนแบบคนเหล่านี้ นั่นแสดงว่าคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยจากพวกเขา
  9. มีความจริงที่สำคัญ ๆ อะไรบ้าง ที่มีน้อยคนนักที่จะเห็นด้วยกับคุณ สิ่งนั้นแหละคือโอกาส
  10. ธุรกิจที่มีค่าที่สุดในทศวรรษหน้านั้น จะถูกสร้างขึ้นโดยผู้ประกอบการที่พยายามสร้างอำนาจให้กับผู้คน มากกว่าที่จะพยายามทำให้พวกเขาตกยุค
  11. ความคิดที่เฉียบแหลมนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง แต่ความกล้าที่จะลงมือทำสิ่งนั้นให้เป็นจริงกลับมีน้อยยิ่งกว่า
  12. ผู้คนมักคิดมากเกินไปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ในขณะที่ผู้คนกลับคิดเรื่องที่เกี่ยวกับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์น้อยเกินไป
  13. คุณควรโฟกัสไปในสิ่งที่คุณสามารถทำได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนหน้านั้นคุณจะต้องคิดให้ดีเสียก่อนว่า สิ่ง ๆ นั้นจะมีคุณค่าในอนาคตหรือไม่
  14. ปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขนั้น คือสถานที่ที่คุณจะพบกับโอกาส ซึ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมพลังงานนั้นมีปัญหาที่เร่งด่วนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอยู่
  15. อย่ามัวไปกังวลว่าการที่คุณคิดที่จะเปิดร้านอาหารเป็นแห่งที่ 10,000 ในเมืองนั้น เพราะคุณจะต้องหาบางสิ่งบางอย่างทำ เพราะถ้าคุณไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง มันก็ไม่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
  16. การเป็นผู้ประกอบการนั้น จะต้องรับมือกับความไม่แน่นอนมากกว่าคนที่เป็นมือโปรที่มีบทบาทและตำแหน่งงานในหน้าที่ที่ชัดเจน
  17. เมื่อคุณเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ อย่าพึ่งมุ่งไปที่ตลาดขนาดใหญ่ แต่ให้มุ่งไปที่ตลาดขนาดเล็กแล้วครอบครองตลาดนั้นให้ได้อย่างรวดเร็วเสียก่อน ความหมายก็คือ ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ การเป็นปลาใหญ่ในบ่อเล็กดีกว่าการเป็นปลาเล็กในบ่อใหญ่
  18. เมื่อคุณได้คิดค้นนวัตกรรมสิ่งใหม่ ๆ แต่กลับไม่ได้คิดว่าจะขายมันยังไงนั้น นั่นคือธุรกิจที่แย่ เพราะต่อให้มีผลิตภัณฑ์ที่ดีแค่ไหน ถ้าขายมันไม่ได้ก็จบเห่
  19. ทุก ๆ ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนั้น คือธุรกิจที่สามารถทำในสิ่งที่บริษัทอื่นทำไม่ได้
  20. ตลาดที่มีขนาดเล็กมากหลายแห่ง มักถูกประเมินค่าต่ำเกินไป
  21. ประเภทของธุรกิจในโลกนี้มักถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทก็คือ ประเภทแรกคือธุรกิจที่มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ กับประเภทที่สองคือธุรกิจที่มีการผูกขาด
  22. กฎการลงทุนในช่วงแรก ให้ลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในการที่จะคืนมูลค่าผลตอบแทนของกองทุนทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งอย่างกรณีของ Peter Thiel เขาได้นำเงินลงทุนในบริษัท Facebook จำนวนกว่า $500,000 แล้วหลังจากที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ เขาก็ทำการขายหุ้น Facebook เป็นจำนวนเกือบทั้งหมด ที่ได้กำไรหลายเท่ามาก ๆ จากเงินต้น
  23. หากผลิตภัณฑ์ของคุณต้องการการโฆษณาหรือพนักงานขายจำนวนมากเพื่อทำการขายแล้วล่ะก็ แสดงว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมันยังไม่ดีพอ เพราะเทคโนโลยีหัวใจหลักของมันก็คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ไม่ใช่การจัดจำหน่าย
  24. สมาร์ทโฟนทุกเครื่องบนโลกในปัจจุบันมีพลังในการประมวลผลมากกว่าคอมพิวเตอร์ที่นำนักบินอวกาศขึ้นไปยังดวงจันทร์หลายพันเท่า
  25. ในโลกปัจจุบันที่ทรัพยากรต่าง ๆ เริ่มหายากแล้วนั้น ถ้าหากโลกในยุคโลกาภิวัตน์ปราศจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ แล้วนั้น มันจะเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน
  26. คนที่ประสบความสำเร็จจะมุ่งไปในสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่อยู่แค่ค่าเฉลี่ยหรือแค่เรียกว่าดี แต่ต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แล้วลงมือทำมัน
  27. เมื่อคุณเก่งขึ้นมากกว่าเดิม 10 เท่า คุณจะออกจากวงจรการแข่งขัน เพราะคนอื่นตามคุณไม่ทันแล้ว
  28. ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท งานแรกของคุณคือทำสิ่งแรกให้ถูกต้อง ติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก เพราะคุณจะไม่สามารถสร้างบริษัทที่ยิ่งใหญ่บนรากฐานที่ง่อนแง่นไม่มั่นคง มีแต่ข้อบกพร่องได้ จึงเป็นที่มาของกฎของ Thiel นั่นก็คือ สตาร์ทอัพที่มีรากฐานที่ผิดพลาดตั้งแต่แรก ไม่สามารถแก้ไขได้
  29. วิธีดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จให้เริ่มต้นจากความต้องการของผู้คนก่อน จากนั้นให้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน ต่อมาให้นำพาผู้คนจำนวนมากเข้ามาถึงตัวของผลิตภัณฑ์ แล้วจากนั้นจึงค่อยสร้างรายได้
  30. อย่าไปทนทำงานกับกลุ่มคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันล่ะ
  31. ความสำเร็จไม่เคยเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ
  32. มูลค่าของธุรกิจในวันนี้ คือผลรวมของจำนวนเงินทั้งหมดที่สามารถสร้างได้ในอนาคต
  33. แทนที่จะโฟกัสในเรื่องของการทำเงิน ให้คุณโฟกัสไปที่เรื่องของการสร้างความมั่งคั่ง ความหมายก็คือ การทำเงินนั้นคุณไม่ต้องสร้างมูลค่าใด ๆ ก็ได้ อาจแค่ทำการเก็งกำไรเอา แต่การสร้างความมั่งคั่งนั้น คือกระบวนการคิดของคนที่เป็นผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่แก้ไขและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน จะสร้างความมั่งคั่งให้กับผู้ประกอบการคน ๆ นั้นได้อย่างมากมาย
  34. ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเป็นไวรัลราวกับไฟลามทุ่งได้นั้น จะต้องมีฟังก์ชั่นการกระตุ้นให้ผู้ใช้งานอยากเชิญชวนเพื่อน ๆ ผู้ใช้งานคนอื่น ๆ มาใช้ร่วมกัน
  35. ผมมองว่าการศึกษาในสถาบันส่วนใหญ่นั้นคือฟองสบู่ ซึ่งความหมายของคำว่าฟองสบู่ก็คือ มันมักจะใช้เรียกในสิ่งที่มีค่าแพงเกินไป แต่ผู้คนก็ยังเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่าสิ่ง ๆ นั้นมันมีค่ามาก
  36. ถ้าผมรู้ตั้งแต่แรกว่าการเริ่มต้นทำในสิ่งใหม่ ๆ นั้นยากเพียงใด ผมคงไม่คิดที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมการชำระเงินออนไลน์ ผมคงไม่ได้เริ่มทำ paypal แน่ ๆ ซึ่งนั่นคือเหตุผลว่าทำไม คนที่ทำงานในแวดวงธนาคารมาอย่างยาวนานจึงไม่คิดจะทำกัน ดังนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องไร้เดียงสามากพอที่จะคิดว่าสามารถทำในสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นจริงได้
  37. บริษัทของคุณจำเป็นต้องขายมากกว่าผลิตภัณฑ์ คุณต้องขายบริษัทของคุณให้กับพนักงานและนักลงทุนเชื่อมั่นด้วย พวกเขาจึงจะอยากทำงานกับบริษัทของคุณ
  38. คนกับเครื่องจักรเก่งกันคนละอย่าง สำหรับมนุษย์นั้นจะเก่งในเรื่องของการวางแผนและการตัดสินใจในสถานการณ์ที่มีความซับซ้อน แต่คนเรานั้นทำได้ไม่ค่อยดีนักกับการจัดการข้อมูลเป็นจำนวนมหาศาล ส่วนเครื่องจักรนั้นทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม คือพวกมันสามารถจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ดี แต่มีปัญหาในการตัดสินใจที่เป็นเบสิคขั้นพื้นฐานสำหรับมนุษย์
  39. มหาวิทยาลัยคือระบบที่ทำให้คนได้เรียนรู้ แต่ก็ดับอนาคตของอีกหลายคนด้วยการให้กู้หนี้ยืมสินเพื่อมาจ่ายค่าเล่าเรียน ทำให้คนรุ่นใหม่มีหนี้สินตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ
  40. ธุรกิจที่ยอดเยี่ยมถูกกำหนดโดยความสามารถในการที่จะสร้างกระแสเงินสดหรือ cash flow ในอนาคต
  41. แม้ว่าอัจฉริยะเพียงคนเดียวจะสามารถสร้างงานศิลปะหรือวรรณกรรมคลาสสิกขึ้นมาได้ แต่เขาเพียงคนเดียวไม่สามารถสร้างอุตสาหกรรมทั้งหมดขึ้นมาได้
  42. มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างจากเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ด้วยความสามารถในการสร้างปาฏิหริย์ได้ ซึ่งปาฏิหาริย์สิ่งนั้นก็คือ เทคโนโลยี
  43. คุณจะไม่สามารถสร้างบริษัทที่ยิ่งใหญ่ในระดับโลกอย่าง Facebook หรือ Google ได้ หากคุณได้ขายกิจการไปก่อนหน้านั้น
  44. หากคุณมีแผน 10 ปี ที่จะทำเพื่อไปยังเป้าหมายใดสักอย่าง คุณควรถามคำถามกับตนเองก่อนว่า ทำไมคุณจึงทำในสิ่งนั้นภายใน 6 เดือนไม่ได้?
  45. หนึ่งในการลงทุนครั้งแรกสุดของผม ผมได้ลงเงินไปจำนวน $100,000 ดอลล่าร์ฯ ในบริษัทสตาร์ทอัพที่เกี่ยวกับการทำปฏิทินออนไลน์ และผมได้สูญเงินไม่เหลือสักดอลฯ เดียว
  46. สิ่งหนึ่งที่อันตรายที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับผู้ก่อตั้งบริษัทก็คือ การมั่นใจในผลงานในอดีตที่ผ่านมาของตนเองมากเกินไป มากจนเสียสติ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความประมาท
  47. การต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่แล้วนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การสร้างสิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อนนั้นยากกว่ามาก
  48. ในตลาดหุ้นมักให้ความสนใจในการทำกำไรในระยะสั้นมากจนเกินไป และให้ความสำคัญกับการทำกำไรในระยะยาวน้อยจนเกินไป
  49. มีความต้องการใช้ทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นในโลกอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อโลกของเราในระยะยาวและใหญ่หลวงที่เกิดจากโลกาภิวัฒน์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราต้องการเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อมาบรรเทาในเรื่องดังกล่าว
  50. ผมคิดว่าความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่ซับซ้อนอะไร เพราะถ้าคุณทำสิ่งที่มันใช้ได้ผล นั่นก็คือความสำเร็จแล้ว
  51. ในการเข้าถึงคนไม่กี่พันคนที่ต้องการผลิตภัณฑ์ของเราจริง ๆ นั้นง่ายกว่าการพยายามทำให้คนนับล้านคนที่กระจัดกระจายอยู่นั้นหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ของเรา
  52. สำหรับ founder หรือผู้ก่อตั้งบริษัทนั้นไม่สามารถบริหารบริษัทหลายสิบแห่งพร้อม ๆ กัน แล้วหวังว่าบริษัทใดบริษัทหนึ่งจะเป็นไปได้ด้วยดี มันก็เหมือนกับคนทำงานอาชีพทั่ว ๆ ไป ที่ไม่สามารถทำงานเป็นสิบอย่างได้ดีในเวลาเดียวกัน จำเป็นจะต้องโฟกัสงานใดงานหนึ่งให้ได้ดี
  53. ในธุรกิจ เงินคือสิ่งสำคัญที่แทบจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่บริษัทที่ประสบความสำเร็จจะคิดถึงสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากการทำเงินเพียงอย่างเดียว
  54. บริษัทสตาร์ทอัพที่ดีควรมีการออกแบบในการ scale หรือการขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว เข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  55. บริษัทต่าง ๆ มักปล่อยให้เงินสดภายในบริษัทพอกพูนเพิ่มขึ้นโดยไม่คิดจะนำเงินไปลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ใด ๆ นั้นก็เป็นเพราะพวกเขาไม่มีแผนการสำหรับอนาคตที่เป็นรูปธรรม
  56. ผมมีความเชี่ยวชาญในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาก ๆ เพราะผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของความก้าวหน้าในโลกในช่วงศตวรรษนี้
  57. ทุกวันนี้เราสนใจการคาดการณ์ทางสถิติว่าประเทศจะเป็นอย่างไรในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า มากกว่าการคาดการณ์ด้วยวิสัยทัศน์ว่าประเทศจะเป็นอย่างไรในอีก 10 หรือ 20 ปี ข้างหน้านับจากนี้
  58. มีธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศสหรัฐอเมริกาน้อยกว่า 1% ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Venture Capital ที่มีสัดส่วนน้อยกว่า 0.2% ของ GDP แต่บริษัทสตาร์ทอัพเหล่านั้น กลับสร้างงานเป็นสัดส่วนมากถึง 11% ของภาคเอกชน แถมพวกเขายังสร้างรายได้ต่อปีเทียบเท่ากับ 21% ของ GDP ของประเทศอย่างน่าประหลาดใจ
  59. พวกเราสอนให้เด็ก ๆ ทุกคนด้วยวิชาเดียวกัน และด้วยวิธีเดียวกัน โดยไม่คำนึงถึงความสามารถและความชอบของแต่ละคนเลย
  60. ถ้าคุณกำลังทำอะไรบางอย่างที่ดูเป็นเรื่องใหม่ มันจะดูแปลก ๆ ในสายตาของคนอื่น ๆ อยู่เสมอ
  61. กว่าร้อยละ 70 ของโลกนั้นถูกปกคลุมไปด้วยน้ำ และมันมีอะไรอีกมากที่เราสามารถทำได้กับมหาสมุทร
  62. ไม่มีบริษัทเทคโนโลยีใดสามารถสร้างแบรนด์ได้ด้วยการพยายามปั้นแบรนด์เพียงอย่างเดียว มันต้องมีองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างรวมเข้าด้วยกัน
  63. คุณสามารถเป็นเจ้าของบริษัทด้วยการถือหุ้นเพียงคนเดียวเต็ม 100% ได้ แต่หากคุณล้มเหลว คุณก็จะไม่เหลืออะไรเลย ในทางตรงกันข้าม การเป็นเจ้าของหุ้นของบริษัท Google เพียง 0.01% มูลค่าก็มากกว่าพันล้านบาทแล้ว
  64. ลูกค้าจะยังไม่มาเพียงเพราะคุณพึ่งเริ่มต้นสร้าง แต่คุณต้องทำให้มันเกิดขึ้นจริงก่อน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมากกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีก
  65. การตั้งเป้าหมายมีอยู่ด้วยกันอยู่ 3 แบบก็คือ แบบที่ 1 – เป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ด้วยการใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย, แบบที่ 2 – เป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ด้วยการใช้ความพยายามอย่างจริงจัง และแบบที่ 3 – เป้าหมายที่ไม่สามารถบรรลุได้ ไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหนก็ตามที
  66. วิธีสอนให้ผู้คนลองทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนนั้นเป็นวิธีที่ท้าทายเป็นอย่างมาก
  67. ทุก ๆ บริษัทที่อยู่ในพอร์ทการลงทุนที่ดีนั้น ทุกบริษัทจะต้องมีศักยภาพที่จะประสบความสำเร็จได้ในวงกว้าง
  68. เมื่อผมได้คุยกับผู้ก่อตั้งบริษัท ผมมักจะถามคำถามกับพวกเขา ก่อนก่อตั้งบริษัทว่า “พวกคุณพบกันตั้งแต่เมื่อไหร่?” คุณทำงานมานานแค่ไหนแล้วก่อนที่จะเริ่มก่อตั้งบริษัท ซึ่งคำตอบที่ไม่ค่อยดีเลยก็คือ “เราพบกันที่งานสัมมนาแห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเราก็อยากเป็นผู้ประกอบการ” แค่ฟังดูก็รู้ได้ในแทบจะทันทีเลยว่า ทีมนี้ไม่น่าจะไปรอด
  69. หัวข้อเรื่องการต่อต้านวัยชรานั้น ยังเป็นเรื่องที่ขาดการวิจัยเป็นอย่างมากในโลกยุคปัจจุบัน
  70. เมื่อบริษัทสตาร์ทอัพล้มเหลว หลายคนมักมองว่าเป็นเพราะในตลาดมีการแข่งขันที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก แต่ทุกบริษัทมักมีการปะทะกันของคนภายในที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อภัยคุกคามจากภายนอก ซึ่งความขัดแย้งภายในบริษัทก็เหมือนกับเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง ซึ่งทางเทคนิคสาเหตุการเสียชีวิตอาจจะมาจากปวดบวม แต่สาเหตุที่แท้จริงจะยังคงถูกซ่อนไว้ไม่มีใครเห็น
  71. คำถามแรกที่เราจะถามมนุษย์ต่างดาวเมื่อพวกเขาลงจอดบนดาวดวงนี้ เราคงไม่ถามคำถามประมาณนี้หรอกว่า “พวกเขาจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างไร?” แต่คำถามแรกมันควรจะเป็นว่า “พวกเขาเป็นมิตรหรือไม่เป็นมิตรกับเรา?” ต่างหาก ความหมายก็คือ เมื่อมนุษย์เรานั้นต้องรับมือกับสิ่งใหม่หรือสิ่งที่ไม่รู้จักนั้น คำถามที่สำคัญที่สุดมักจะเป็นคำถามพื้นฐานที่สุด ที่เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดและความปลอดภัย
  72. ความท้าทายในการสร้างบริการทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตนั้นก็คือ การที่จะทำให้ลูกค้าจำนวนมากเข้ามาสมัครใช้บริการของคุณ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ยากมาก
  73. จิตใจของคุณคือ Software จงตั้งโปรแกรมให้มัน ส่วนร่างกายของคุณคือเปลือกห่อหุ้ม จงเปลี่ยนมัน ความตายนั้นเป็นโรคภัย จงทำการรักษามัน และการสูญพันธุ์กำลังใกล้เข้ามา จงสู้มัน ความหมายก็คือ มุมมองของเขาเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีที่สามารถนำมาปรับปรุงชีวิตมนุษย์ให้มีอายุยืนยาวได้
  74. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในปัจจุบันนั้นจะนำไปสู่ทางตัน ส่วนเส้นทางที่ดีที่สุดนั้นคือเส้นทางใหม่ ที่ยังไม่เคยมีใครไปมาก่อน
  75. สิ่งที่เด็กเนิร์ดมักคิดไม่ถึงก็คือ การทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อทำให้การขายนั้นดูง่าย ความหมายก็คือ การที่เห็นว่าพนักงานขายที่ประสบความสำเร็จที่เห็นว่าพวกเขาปิดการขายได้อย่างง่ายดายนั้น เป็นผลมาจากที่พวกเขาทำงานอย่างหนักและทุ่มเทมากกว่าใคร ๆ
  76. เราไม่สามารถการันตีได้ว่าในอนาคตจะเป็นวันที่ดีกว่า และนั่นคือสาเหตุที่ว่าทำไมเราจึงต้องทำงานเพื่อสร้างอนาคตตั้งแต่วันนี้เลย
  77. ไม่มีบริษัทใดมีวัฒนธรรม เพราะทุกบริษัทคือวัฒนธรรม ส่วนจะดีหรือไม่ดีก็อีกเรื่องหนึ่ง
  78. ลูกค้าจะไม่สนใจเทคโนโลยีใด ๆ ยกเว้นเสียแต่ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะแก้ปัญหาได้เหนือชั้นกว่าสิ่งที่มีอยู่เดิม
  79. ในฐานะที่ผมเป็นนักลงทุนและผู้ประกอบการ ผมพยายามทำตัวให้แตกต่าง ต่อต้านความคิดส่วนใหญ่ของฝูงชน เพื่อมองหาโอกาสในที่ที่ผู้คนไม่คิดจะมองหามัน
  80. หากผู้คนมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี ก็คงไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับโลกอนาคต
  81. สังคมนุษย์ถูกขับเคลื่อนด้วยการขายอย่างลับ ๆ ความหมายก็คือ การขายไม่ได้จำกัดอยู่เรื่องของสินค้าบริการเท่านั้น แต่รวมไปถึงการโน้มน้าวและชักจูงให้ผู้อื่นเห็นด้วยกับสิ่งที่เรานำเสนอ
  82. หากคุณให้ความสำคัญกับการเติบโตในระยะสั้นเหนือสิ่งอื่นใด คุณจะพลาดคำถามที่สำคัญที่สุดที่คุณควรถามกับตนเองก็คือ “ธุรกิจนี้จะยังคงอยู่ในอีก 10 ปี ข้างหน้าต่อจากนี้หรือไม่?”
  83. แนวคิดในการเป็นผู้ประกอบการเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีสอนกันภายในโรงเรียน แต่กลับเป็นสิ่งที่ผู้คนควรพยายามที่จะทำตั้งแต่เนิ่น ๆ
  84. ผมคิดว่าสิ่งใดก็ตามที่ต้องการความก้าวหน้าในระดับโลกอย่างแท้จริงนั้น ต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องในระดับหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถทำแค่เพียง part-time หรือเป็นเพียงแค่งานเสริมได้ คุณจำเป็นต้องทำแบบ full-time
  85. บริษัทจะทำผลงานได้ดีขึ้น เมื่อจ่ายค่าจ้างให้กับ CEO น้อยลง ความหมายก็คือ บริษัทควรให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้น แทนที่จะสร้างคุณค่าให้กับผู้บริหารระดับสูง
  86. ผมเชื่อว่าเรากำลังอยู่ในโลกที่นวัตกรรมต่าง ๆ ถูกตราหน้าว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ในตลอดระยะเวลากว่า 40 ที่ผ่านมา นั่นก็เป็นเพราะ ผู้คนมีความเกลียดและความกลัวเกี่ยวกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ
  87. Value Investor หรือนักลงทุนเน้นคุณค่านั้นพวกเขาจะมองไปที่ cash flow หรือกระแสเงินสด ซึ่งถ้าหากบริษัทดังกล่าว สามารถรักษา cash flow ไว้ในระดับเดียวกันกับปัจจุบันได้ไว้เป็นเวลา 5-6 ปี นั่นก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ดี
  88. เป้าหมายไม่ใช่การสร้างเป็นบริษัทแรก แต่เป็นบริษัทสุดท้ายที่ยังสามารถยืนหยัดได้
  89. การที่ Steve Jobs กลับมากอบกู้ Apple หลังจากที่เขาโดนไล่ออกจากบริษัทตนเองนั้น แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในธุรกิจคือการสร้างคุณค่าใหม่ขึ้นมา เพราะคุณค่าของสินค้าและบริการนั้น ไม่สามารถลดระดับลงได้ มันต้องดีขึ้นในทุก ๆ วัน นั่นจึงเป็นสูตรสำเร็จที่เหล่าบรรดามืออาชีพเขาใช้ในการทำงานกัน
  90. เมื่อคอมพิวเตอร์มีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกมันจะไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่พวกมันจะมาเติมเต็มในส่วนที่มนุษย์ยังขาดหายไป
  91. ผู้คนกลัวความลับเพราะกลัวที่จะทำผิด ถ้าเป้าหมายของคุณคือการไม่ทำผิดพลาดใด ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียวแล้วนั้น คุณก็ไม่ควรมองหาความลับอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น
  92. คำจำกัดความของการเป็นผู้ประกอบการสำหรับผมก็คือ คนที่พยายามก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหน้าทั้ง ๆ ที่ตาบอด ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นคนทั้งโลกก็กำลังเอาก้อนหินปาใส่หัวคุณที่พยายามก้าวไปข้างหน้า
  93. นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยสามารถมีทักษะพิเศษเฉพาะทางได้หลากหลายมาก แต่หลายคนไม่เคยรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับทักษะเหล่านั้นในโลกกว้างภายนอกสถาบันการศึกษา
  94. ถ้าคุณมองไปรอบ ๆ แล้วมองไม่เห็นพนักงานขายเลย แสดงว่าตัวคุณนั่นแหละคือพนักงานขาย ความหมายก็คือ ทุกธุรกิจคือการขาย ถ้าไม่มีพนักงานคุณก็ต้องขายเองให้ได้
  95. ผมเชื่อว่าโดยพื้นฐานแล้ว เรื่องของเสรีภาพส่วนบุคคลนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก
  96. จริง ๆ แล้วโลกของเราต้องการรถบินได้ แต่เราดันได้โซเชียลมีเดียที่พิมพ์ได้เพียงแค่ 140 ตัวอักษรมาแทน
  97. ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพใดก็ตาม หากคุณมีความสามารถในการขาย คุณจะกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ในวงการนั้นที่แตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไป
  98. คำถามที่ว่า มีความลับกี่ข้ออยู่ในโลกของเรา นั่นแหละคือจำนวนบริษสตาร์ทอัพที่ผู้คนสามารถเริ่มต้นทำมันขึ้นมาได้
  99. ถ้าคุณไม่รับผิดชอบและสร้างอนาคตขึ้นมาได้ด้วยตนเอง ไม่รับชีวิตของตัวคุณเอง ก็ไม่มีใครทำสิ่งนั้นเพื่อคุณ
  100. นักเรียน นักศึกษา ทุกคนควรคิดให้หนักเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ ซึ่งหากคุณมีไอเดียในการเริ่มต้นสร้างบริษัท มันไม่มีเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นทำมันหรอก แต่มันจะดีกว่ามากถ้าหากเริ่มต้นทำให้เร็วที่สุด อย่ามัวรอช้า

Resources

Exit mobile version