Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associate ที่เป็น hedge fund กองทุนป้องกันความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนี่คือ 100 บทเรียนจากเขา
- ทุกครั้งที่คุณกำลังเผชิญกับความเจ็บปวด นั่นหมายถึงว่า คุณกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในชีวิตของคุณ ซึ่งคุณมีโอกาสที่จะเลือกได้ว่าต้องการมีสุขภาพที่ดีที่มาพร้อมกับความเจ็บปวด หรือต้องการมีสุขภาพที่แย่ แต่อยู่อย่างสะดวกสบาย
- ถ้าคุณยังทำสิ่งนั้นไม่สำเร็จ อย่าได้ไปเที่ยวบอกใครต่อใครว่าควรจะต้องทำอย่างไร
- ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่คุณสามารถมอบให้คนอื่นได้ก็คือ การช่วยให้ใครสักคนประสบความสำเร็จ โดยการมอบโอกาสให้แก่พวกเขา
- จงจำเอาไว้ว่าการเป็นหุ้นส่วนที่ดีแก่กันนั้น คือการเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน และมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความเมตตาต่อกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันค่ามากยิ่งกว่าเงิน
- โฟกัสไปที่การทำ pie ให้มันมีชิ้นใหญ่ขึ้น มากกว่าที่จะโฟกัสวิธีการที่จะตัดแบ่งชิ้นพายนั้นให้ได้เยอะ ๆ ความหมายก็คือ ให้โฟกัสไปที่การทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับธุรกิจของเรานั้นมันมีขนาดใหญ่ขึ้น จะดีกว่าการคอยจ้องที่จะหาส่วนแบ่งทางการตลาด เพราะถ้าชิ้นพายมันใหญ่มากพอกินนิดเดียวก็อิ่ม แต่ถ้าชิ้นพายมันเล็ก กินทั้งชิ้นก็ยังไม่อิ่ม
- คนที่คอยทำงานให้คุณ พวกเขาควรแย้งคุณอยู่เรื่อย ๆ ความหมายก็คือ ถ้ามีคนแต่พูดว่า ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน มันจะทำให้เรามองเห็นมุมมองจากเราแค่เพียงคนเดียว ถ้าทำถูกก็ดีไป แต่ถ้าผิดก็ดันไม่มีใครกล้าแย้งซะนี่
- ฮีโร่ทุกคนมักจะต้องเผชิญกับความล้มเหลวครั้งใหญ่อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ซึ่งมันจะบททดสอบว่า พวกเขามีความสามารถในการ com back กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ด้วยความเฉลียวฉลาดกว่าเดิม มีความมุ่งมั่นมากกว่าเดิม ได้หรือไม่
- ผมกลัวความเบื่อหน่ายและชีวิตแบบธรรมดา มากกว่าการกลัวความล้มเหลวซะอีก
- ความพึงพอใจในความสำเร็จนั้นไม่ได้มาจากการที่คุณสามารถทำเป้าหมายให้สำเร็จ แต่มันมาจากการผ่านความยากลำบากนั้นมาได้ ผ่านชีวิตที่ดิ้นรนมาได้มากกว่า
- อย่าได้พูดถึงคนอื่นในลับหลัง หากคุณไม่คิดที่จะพูดต่อหน้าพวกเขา และอย่าได้เที่ยวไปนินทาใครต่อใคร
- พยายามอย่ายึดติดในรายละเอียดกับสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวคุณ
- จงทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง การจัดการในภาพกว้าง, การจัดการในระดับย่อย และการไม่จัดการอะไรเลย
- คนดี ๆ นั้นหายาก ดังนั้นจงอย่าลืมคิดหาวิธีที่จะรักษาพวกเขาเอาไว้ได้อย่างไรด้วย
- วิวัฒนาการคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลนี้ มันคือสิ่งที่คงอยู่ถาวรและเป็นแรงขับเคลื่อนในทุกสรรพสิ่ง
- คอยทบทวนและเตือนตนเองอยู่เสมอว่า การได้รับคำวิจารณ์ติเพื่อก่อนั้น คือคำติชมที่ดีที่สุดที่คุณได้รับ
- จงชื่นชมและจงคิดใคร่ครวญ ไตร่ตรองในศิลปะแห่งความขัดแย้ง อย่างรอบคอบ ความหมายก็คือ ความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับตัวคุณนั้น จะทำให้คุณมองเห็นมุมมองของเหรียญอีกด้านหนึ่ง
- การมีเป้าหมายที่ยังไม่บรรลุนั้น มักจะดึงดูดเหล่าบรรดาฮีโร่ เพื่อเข้ามาช่วยกันทำให้มันสำเร็จเป็นจริงได้
- การมี Principles หลักการที่ดี ก็เหมือนกับการมีสูตรสำเร็จที่ดี
- สิ่งหนึ่งใความคิดของผมในการเป็นผู้นำที่ดีนั้นก็คือ จะต้องไม่เป็นคนจอมบงการ
- จงเลือกอุปนิสัยที่ดี เพราะอุปนิสัยที่ดีนั้นคือเครื่องมือที่ทรงพลังมากที่สุดของสมองของคุณ
- คุณเชื่อไหมว่า ในท้ายที่สุด ความเจ็บปวดจะหายไป และมีโอกาสใหม่ ๆ รอคุณอยู่ข้างหน้าเสมอ
- คอยเฝ้าระวังคนที่แยกไม่ออกระหว่างเป้าหมายกับงานที่ต้องทำ เพราะถ้าหากพวกเขาไม่สามารถแยกแยะได้ คุณก็ไม่สามารถไว้วางใจในเรื่องความรับผิดชอบของคน ๆ นั้นได้
- เนื่องจากระบบการศึกษาในบ้านเมืองเรานั้น มักยึดติดกับความเที่ยงตรงมากเกินไป เพราะมันเป็นกระบวนการที่ขัดขวางให้ผู้คนฝึกคิดนอกกรอบ
- จงจำเอาไว้ว่า จุดอ่อนของคุณนั้นมันไม่สำคัญเลยแม้แต่น้อย ตราบใดที่คุณหาวิธีการแก้ไขมันได้ ความหมายก็คือ คุณจะมีจุดอ่อนก็ไม่เป็นไร ก็ให้ทำการหาคนที่ทำส่วนนั้นได้ดีมาทำแทน
- ประสบการณ์ในการผ่านความล้มเหลวของผมนั้น ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองไป จากเดิมที่เคยพูดว่า “ผมคิดถูก” เปลี่ยนเป็น “ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าผมคิดถูก?”
- จงจำเอาไว้ว่า อย่าได้มั่นใจในตัวเองมากจนเกินไป เพราะมันมีความเป็นไปได้ว่าสิ่งที่คุณคิดนั้นมันผิด
- ผมต้องการคำตอบที่ถูกต้อง ซึ่งผมไม่สนว่าคำตอบดังกล่าวจะมาจากผมหรือไม่ก็ตามที
- อย่าใส่ใจในสิ่งที่ผู้คนกำลังทำอยู่ แต่ให้ดูว่า เพราะเหตุใดพวกเขาจึงทำเช่นนั้น ความหมายก็คือ ให้ไปโฟกัสที่เหตุ ที่ทำให้เกิดผลที่ตามมา
- มันเป็นการฉลาดกว่า ถ้าคุณเริ่มต้นคิดในสิ่งที่คุณต้องการจริง ๆ เป้าหมายที่คุณต้องการจริง ๆ แล้วจากนั้น ค่อยไปหาวิธีเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านั้น
- เมื่อคุณมี Principles หรือมีหลักการพื้นฐานบนความเป็นจริง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการมาแล้วนั้น คุณจะสามารถใช้หลักการดังกล่าวได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน มันจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้นในครั้งต่อ ๆ ไป
- ชีวิตมันก็มีทั้งขึ้นและลง ซึ่งการต่อสู้ดิ้นรนในแต่ละครั้งนั้น นอกจากจะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นกว่าเก่าแล้วนั้น มันยังทำให้ชีวิตคุณตกต่ำน้อยลงอีกด้วย
- การที่ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังนั้น มันจะช่วยลดความเครียด ความกดดัน และช่วยสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน
- การปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเหมาะสมนั้น คุณจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติแตกต่างออกไปในแต่ละตัวบุคคล ความหมายก็คือ แต่ละคนมีความต้องการแตกต่างกัน ดังนั้นก็จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นแตกต่างกันออกไป
- การปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกันทั้งหมดเลยนั้น เป็นเส้นทางที่ออกห่างมากกว่าที่จะเข้าหาความเป็นจริง เพราะแต่ละคนต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อพวกเขาแตกต่างกันออกไป
- Pain + Reflection = Progress : ความเจ็บปวด บวกกับ ผลจากการกระทำ เท่ากับ ความก้าวหน้า
- การทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้มันออกมาดีนั้น ย่อมดีกว่าการทำสิ่งเล็ก ๆ ให้มันสมบูรณ์แบบ
- ให้พยายามแยกความแตกต่างระหว่างตัวคุณในฐานะที่เป็นคนออกแบบระบบ กับตัวคุณที่ทำงานอยู่ในระบบดังกล่าว
- ในการ Trade นั้น คุณจำเป็นที่จะต้องตั้งรับและรุกในเวลาเดียวกัน เพราะถ้าหากคุณไม่รุก คุณก็จะไม่ได้เงิน และถ้าหากคุณไม่ตั้งรับคุณก็จะเก็บเงินไม่อยู่
- การสร้างความท้าทายให้กับตนเองในระยะยาวนั้น จะช่วยส่งเสริมในเรื่องของการพัฒนาตนเอง
- การได้รับความสนใจจากสื่อเป็นจำนวนมากในฐานะที่กลายเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น เป็นตำแหน่งที่ไม่ดีเอาซะเลย ความหมายก็คือ จะเกิดความคาดหวังจากผู้คนที่มองมาที่ตัวเรานั้นจะสูงมาก และถ้าทำผิดพลาด ผู้คนก็จะผิดหวังในตัวเรามากเช่นเดียวกัน
- สิ่งที่คุณจะเป็นนั้นก็ขึ้นอยู่กับมุมมองที่คุณมี
- จงเรียนรู้จากทีมงานของคุณ และให้พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับตัวคุณ จากการสนทนาอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับความผิดพลาด เกี่ยวกับปัญหาที่แท้จริง ที่เกิดขึ้น
- มันเป็นเรื่องที่ปกติมากที่ผู้คนส่วนใหญ่มักปล่อยให้อีโก้ของตนนั้นมาขัดขวางในเส้นทางการเรียนรู้
- ความท้าทายคือบททดสอบที่จะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้าคุณยังไม่มีการล้มเหลวใด ๆ เกิดขึ้น นั่นแสดงว่า คุณยังผลักดันไปให้ขีดจำกัดของตัวเองยังไม่มากพอ และหากคุณยังไม่สามารถผลักดันให้ถึงขีดจำกัดของตนเองได้แล้วนั้น นั่นก็แสดงว่าคุณยังไม่ได้อยู่ในโหมดที่มีศักยภาพสูงสุด
- จงจำเอาไว้ว่า คุณภาพชีวิตที่คุณได้รับนั้น มันขึ้นอยู่กับคุณภาพของการตัดสินใจ ในการไล่ล่าเป้าหมายที่คุณตั้งเอาไว้
- เรื่องที่ยิ่งใหญ่ดีกว่าเรื่องที่แย่ แต่เรื่องที่แย่ดีกว่าเรื่องธรรมดาในระดับปานกลาง เพราะอย่างน้อยเรื่องแย่ ๆ ก็ยังทำให้ชีวิตมีสีสันมีรสชาติ
- อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กน้อย มาทำให้เสียงานใหญ่
- การได้คนที่ถูกต้องมารับบทบาทที่เหมาะสมนั้น คือกุญแจสำคัญที่จะนำพาคุณไปสู่เป้าหมายที่คุณตั้งใจที่จะพิชิตเอาไว้
- เงินเป็นเพียงผลพลอยได้จากความเป็นเลิศ มันไม่ใช่เป้าหมาย
- ถ้าหากคุณเปิดใจรับจุดอ่อนของตนเองได้ มันจะทำให้คุณมีอิสระมากขึ้น และช่วยให้คุณสามารถรับมือกับมันได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นผมแนะนำว่าจงอย่าได้เขินอายกับปัญหาของคุณ ให้คิดไปเลยว่าทุกคนก็มีปัญหาส่วนตัวกันทั้งนั้น
- การฟังคนที่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยนั้น มันแย่ยิ่งกว่าการไม่มีคำตอบใด ๆ เลยซะอีก
- อย่าให้ความกลัวในสิ่งที่คนอื่นคิดกับตัวคุณ มาขวางทางคุณ โดยคุณจำเป็นที่จะต้องลงมือทำบางสิ่งบางอย่างในแบบวิธีของคุณเองที่คุณคิดว่ามันเป็นวิธีที่ดีที่สุด
- คนโง่นั้น สามารถทำเรื่องธรรมดาให้กลายเป็นเรื่องที่ซับซ้อนได้ แต่ในขณะที่คนฉลาดนั้น สามารถทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้
- หลักในการพัฒนา principles หรือหลักการนั้น จำเป็นต้องเขียนลงบนกระดาษ โดยเฉพาะเมื่อคุณทำงานร่วมกับผู้อื่น ความหมายก็คือ คุณจำเป็นที่จะต้องอธิบายสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาให้ผู้อื่นสามารถเข้าใจหลักการคิดของคุณได้ มันจึงจะสามารถพัฒนาหลักการดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้นได้
- หากคุณกำลังตั้งเป้าหมายเอาไว้แค่เพียงในสิ่งที่คุณรู้อย่างเดียวแล้วล่ะก็ คุณกำลังประเมินเกณฑ์ขั้นต่ำของคุณต่ำเกินไป
- อย่ามัวแต่กังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่ดี ให้ไปกังวลเกี่ยวกับการทำให้บรรลุเป้าหมายจะดีกว่า
- ผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมนั้น จริง ๆ แล้ว พวกเขาคือวิศวกรด้านการบริหารองค์กรดี ๆ นี่เอง
- อย่าจ้างคนเพียงเพื่อให้พวกเขาเข้ามาทำงานแรกที่ได้รับมอบหมายเพียงอย่างเดียว แต่จงจ้างคนที่ต้องการจะเข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การใช้ชีวิตกับคุณด้วย
- ความกล้าที่จำเป็นที่สุด ไม่ใช่การผลักดันให้ตัวคุณเองต้องอยู่เหนือผู้อื่น เอาชนะอื่น แต่มันคือการที่คุณซื่อสัตย์ต่อตัวตนที่แท้จริงของตัวคุณเอง ที่ไม่ว่าคนอื่นจะต้องการให้คุณเป็นอย่างที่พวกเขาอยากให้เป็นก็ตามที ความหมายก็คือ จงกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง
- คนที่ล้มเหลวคือคนที่มักจะติดกับความคิดแต่ในหัวของตัวเอง
- คนเราควรมีพื้นฐานความต้องการของชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับที่ดี การมีความสัมพันธ์ที่ดี การมีอาหารการกินที่ดี โดยสิ่งเหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่สุดที่เราจำเป็นต้องมี ซึ่งเมื่อคุณมีเงินเยอะขึ้นจนถึงจุด ๆ หนึ่ง สิ่งเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก หรือมีเงินน้อยลงก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ดังนั้นคนที่อยู่ในระดับบน ก็ไม่ได้มีความพิเศษมากกว่าคนที่อยู่ในระดับกลางหรือระดับล่างมากสักเท่าไหร่นัก ตราบใดที่ทุกคนมีพื้นฐานชีวิตที่ดี
- ผมได้เรียนรู้ว่าถ้าหากเราขยันทำงานและสร้างสรรค์มากพอ เราสามารถมีเงินไปซื้อทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการได้ แต่กระนั้นเราก็ไม่สามารถได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากทำได้ เพราะเมื่อคุณโตขึ้น คุณจะพบว่า คนที่มีวุฒิภาวะนั้นจำเป็นต้องปฏิเสธทางเลือกที่ดีอยู่หลายทาง เพื่อที่จะไปเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น
- เวลาเปรียบดั่งสายน้ำที่พัดพาเราไปสู่การเผชิญหน้ากับความจริงที่ทำให้เราต้องตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ อยู่เรื่อย ๆ โดยที่เราไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของเราในแม่น้ำสายนี้ได้ และเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านั้นได้ เราทำได้เพียงเดินหน้าเข้าหาเรื่องเหล่านั้นด้วยวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- หลักในการคุยกับตนเองให้กระจ่างชัดนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 ขั้นตอนก็คือ 1) ตัดสินใจว่าคุณต้องการอะไรในชีวิต, 2) แล้วอะไรคือข้อเท็จจริง, 3) คุณมีวิธีจัดการกับสิ่งเหล่านั้นอย่างไร
- ถ้าคุณไม่เคยมองตัวเองย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมาในทำนองว่า “โอ้ว เมื่อปีที่แล้ว ทำไมฉันโง่อย่างนี้” นั่นแสดงว่าในปีที่ผ่านมา คุณไม่ค่อยได้เรียนรู้อะไรมากมายเลย
- จงจำเอาไว้ว่า จุดประสงค์อย่างเดียวของเงินก็คือ มันสามารถซื้อในสิ่งของที่คุณอยากได้มาครอบครองได้ แต่ในขณะที่สิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินไม่สามารถใช้เงินซื้อได้นั้น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการความสัมพันธ์ที่ดี ๆ กับผู้อื่น มีเงินมากเท่าไหร่ก็ไม่พอจ่าย
- อย่าพึ่งสนใจงานของคุณตรงหน้า แต่ให้ใส่ใจก่อนเลยว่างานของคุณจะเสร็จสมบูรณ์ได้อย่างไร แม้ว่าตัวของคุณจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นก็ตามที
- บางคนใช้ชีวิตทั้งชีวิตในการเก็บรวบรวมความคิดเห็นทุกสิ่งอย่างราวกับตัวเองเป็นก้อนสำลีที่ดูดซับในทุกสิ่ง แทนที่พวกเขาจะเลือกเก็บเฉพาะในสิ่งที่พวกเขาต้องการ เพราะพวกเขามีความวิตกกังวลในรายละเอียดมากเกินไป กังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่สำคัญมากเกินไป
- ถ้าคุณยังไม่มีทองคำเป็นของตัวเอง แสดงว่าคุณไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับในเรื่องของประวัติศาสตร์และเรื่องของเศรษฐกิจโลก
- มีสองแนวทางกว้าง ๆ ที่คุณสามารถใช้ในการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ก็คือ อย่างแรก คือการตัดสินใจด้วยหลักฐานจากการพิสูจน์และตรรกะ ซึ่งเป็นการตัดสินใจโดยใช้สมองในระดับสูงของมนุษย์ กับอย่างที่สอง คือ การตัดสินใจด้วสัญชาตญาณและอารมณ์ ซึ่งเป็นการใช้สมองระดับล่างสุดที่มาจากสัตว์
- จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมนั้น เวลาที่ตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ผมจะจดเอาไว้ว่า ผมตัดสินใจเรื่องดังกล่าวด้วยกฎเกณฑ์ใด ซึ่งการจดเรื่องเหล่านี้ ผมทำมันจนเป็นนิสัยที่ทำอยู่ทุกครั้ง เพราะมันจะทำให้เรารู้ว่าเราควรพัฒนาหลักการของเราให้ดีขึ้นได้อย่างไร
- อย่าปล่อยให้ความต้องการของคุณอยู่เหนือความจริง เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
- ผมเชื่อว่าโดยพื้นฐานของคนในองค์กรมักจะมีคนอยู่สองประเภทใหญ่ ๆ ก็คือ ประเภทแรก คือคนที่ทำงานเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจขององค์กร และประเภทที่สอง คือคนที่ทำงานเพื่อแลกกับค่าจ้างเท่านั้น
- ผู้คนภายในบริษัทส่วนใหญ่นั้น พวกเขาจะต้องทำงานด้วยกันอยู่สองงานหลัก ๆ ก็คือ อย่างแรก คือการทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย กับอย่างที่สอง คือการทำให้ผู้จัดการหรือหัวหน้าของพวกเขาประทับใจ
- ไม่มีอะไรที่จะสามารถขวางกั้นคุณจากความสำเร็จได้ ตราบใดที่คุณมีความยืดหยุ่นและมีความรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง
- หลักการพื้นฐานของการทำงานก็คือ จงทำให้สิ่งที่คุณชอบกับเรื่องของงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับคนที่คุณอยากที่จะทำงานด้วย
- โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่ได้มีการเตรียมเด็ก ๆ ให้มีความพร้อมให้พวกเขาสำหรับก่อนที่จะออกไปใช้ชีวิตจริงข้างนอกโรงเรียน นอกเสียจากทำตามคำแนะนำจากคุณครูเพื่อให้ผู้อื่นพอใจ ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมนักเรียนส่วนใหญ่จึงประสบความสำเร็จในโรงเรียน แต่กลับล้มเหลวในชีวิตจริง
- ทุก ๆ เกม ล้วนแล้วแต่มีหลักการกันทั้งนั้น ดังนั้นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จ คือผู้เล่นที่รู้หลักการดังกล่าว และทำให้ตนเองเชี่ยวชาญในการใช้หลักการนั้น เกมชีวิตก็มีหลักการของมันเช่นเดียวกัน
- ผมคิดว่ากลยุทธ์ในการลงทุนครั้งแรกเลยก็คือ การผสมผสานกันระหว่างทรัพย์สินที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะหากตัวคุณนั้นยังไม่รู้ว่าอนาคตของโลกเศรษฐกิจนั้นจะเป็นอย่างไร แล้วค่อยไปปรับพอร์ทเอาในภายหลัง
- ถ้าเป้าหมายของคุณคือการเป็นเลิศในสิ่งที่คุณทำอยู่ คุณจำเป็นที่จะต้องได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ตลอดเส้นทางดังกล่าว
- โดยทั่วไปแล้ว ธรรมชาติจะให้ในสิ่งที่ตัวคุณสมควรได้รับ
- ในการทำเงินจากตลาด คุณจำเป็นที่จะต้องคิดอย่างเป็นกลางและเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่เสมอ
- จงรู้ในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน และจงเปิดใจยอมรับที่จะเข้าใจในสิ่งที่คุณนั้นทำผิดพลาดและจุดอ่อนของตัวคุณเอง
- จงมองหาคนที่สามารถตั้งคำถามที่ยอดเยี่ยมได้อย่างมากมาย เพราะคนที่ฉลาดมักจะเป็นคนที่ตั้งคำถามได้รอบคอบที่สุด มากกว่าที่การที่จะรู้คำตอบมากที่สุด ดังนั้น คำถามที่ยอดเยี่ยมจะเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จในอนาคตได้ดีกว่าคำตอบที่ยอดเยี่ยม
- คนที่มีความสุขที่สุดคือคนที่สามารถทำในสิ่งที่เข้ากับความเป็นธรรมชาติของตนเองได้เป็นอย่างดี
- คุณเลือกเส้นทางการใช้ชีวิตได้ว่า คุณต้องการที่จะมีชีวิตที่ยอดเยี่ยม โดยยอมเสี่ยงข้ามป่าลึกที่อันตรายเพื่อไปค้นพบกับสิ่งนั้น หรือคุณเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย โดยมีชีวิตที่แสนจะธรรมดา ดังนั้นให้ตัวคุณลองพินิจคิดดูว่า ในชีวิตของเรานั้น เราจะเลือกเดินในเส้นทางใด
- หากคุณมั่นใจในสิ่งที่คุณรู้มากเกินไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณก็คือ คุณจะเรียนรู้ได้น้อยลง เพราะคิดว่าตัวเองรู้มากเกินพอแล้ว และมันจะส่งผลให้การตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ มีประสิทธิภาพลดลง และส่งผลให้ตัวคุณมีศักยภาพลดลงตามลำดับ
- วิธีการจ้างงานของผมนั้น คือเมื่อจ้างเข้ามาแล้ว ผมจะทำการเทรนนิ่ง ทดสอบ จากนั้นก็ตัดสินใจว่าจะไล่ออกหรือเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะทำให้เราทราบได้ว่า เรากำลังจ้างคนที่ยอดเยี่ยมเข้ามาทำงานและไล่คนธรรมดา ๆ ออกไป ซึ่งจะทำกระบวนการนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนได้เปอร์เซ็นต์ของผู้คนที่ยอดเยี่ยมตามที่เราต้องการ
- เวลาจ่ายค่าจ้างนั้นให้จ่ายที่ความสามารถของตัวบุคคล ไม่ใช่จ่ายตามตำแหน่งงานเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าหากคนใดที่สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ก็จะต้องมีโบนัส มีเบี้ยเพิ่มให้กับพวกเขาด้วย
- ในขณะที่ผมโกรธและหงุดหงิดใส่คนอื่นในสิ่งที่พวกเขาเลือกตัดสินใจบางอย่าง ซึ่งผมมาตระหนักได้ว่า สิ่งที่พวกเขาทำไปนั้น ไม่ใช่เป็นเพราะพวกเขาต้องการต่อต้านหรือต้องการงัดข้อ แต่เป็นเพราะพวกเขาทำไปตามที่สมองสั่งการ
- จงค้นหาคนที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ และพยายามทำความเข้าใจเหตุผลของพวกเขา ซึ่งการพูดคุยแบบเปิดใจกับคนเหล่านี้ เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเรียนรู้และเป็นวิธีการเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
- ผู้นำทุกคนต้องตัดสินใจบางอย่างระหว่าง อย่างแรกคือการกำจัดคนที่ชอบแต่ไร้ความสามารถในการพาไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และอย่างที่สอง คือ การรักษาคนดีเอาไว้ แต่ไร้ความสามารถและไม่สามารถทำเป้าหมายให้บรรลุได้ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจหรือไม่ก็ตาม แต่การตัดสินใจดังกล่าวมันจะส่งต่อความสำเร็จของคุณ
- อย่าเป็นพวกที่ติด perfect มากเกินไป เพราะการเป็น perfectionist นั้น มักจะใช้เวลาเยอะเกินไปกับในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ค่อยสำคัญ แถมยังส่งผลเสียในส่วนที่สำคัญมากกว่าอีกด้วย ดังนั้นจงเป็นคนที่ไม่เพอร์เฟ็คท์ แต่มีประสิทธิภาพสูงจะดีกว่า
- ผมเชื่อว่า การที่เราจะสามารถเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นนั้น เราจำเป็นที่จะต้องศึกษาและมองวิธีการทำงานของโลกนี้ แล้วจากนั้นก็ให้ค้นหาวิธีการที่จะดำเนินการให้สอดคล้องกับโลก เพื่อช่วยให้โลกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
- การเผชิญหน้ากับปัญหาโดยตรงนั้น ย่อมดีกว่าการหลีกหนีปัญหา เพราะการเผชิญหน้ากับปัญหานั้น ตัวของคุณจะค่อย ๆ หาวิธีที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว แต่ถ้าไม่ ปัญหาก็จะยังคงอยู่ต่อไป
- ความผิดพลาด คือหนทางสู่ความก้าวหน้าในชีวิต
- หากคุณทำการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น มันจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาอีกนับพันครั้งในการเผชิญหน้ากับปัญหาที่มีลักษณะคล้าย ๆ กันในอนาคต ซึ่งถ้าหากคุณมองว่าความผิดพลาดนั้นคือโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้ เพื่อที่จะได้นำไปปรับปรุงให้ตัวเราดีขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วนั้น คุณควรจะตื่นเต้นกับความผิดพลาดเหล่านั้น แต่ถ้าคุณมองว่าความผิดพลาดมันเป็นสิ่งไม่ดี มันก็จะทำให้ทั้งตัวของคุณเองและผู้อื่นนั้นเป็นทุกข์ และตัวคุณก็จะไม่เติบโตก้าวหน้า
- เมื่อคุณกำลังคิดว่าสิ่งที่คุณทำอยู่มันยากเกินไป จงจำเอาไว้ว่าในระยะยาวนั้น การทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อไปสู่ความสำเร็จนั้น มันง่ายกว่าการทำให้ล้มเหลวซะอีก
- ข้อผิดพลาดที่ยิ่งใหญที่สุดสำหรับนักลงทุนก็คือ พวกเขามักคิดว่า การลงทุนที่ได้ผลดีในอดีตนั้น เป็นการลงทุนที่ดีอยู่ในปัจจุบัน
- ผมสังเกตได้ว่า ตนเองก่อนและหลังการนั่งสมาธินั้นมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก จนผมตระหนักได้ว่า การนั่งสมาธิคือหนึ่งในสูตรความสำเร็จที่สำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้
Resources