Robert Kiyosaki นักธุรกิจ นักลงทุน และนักเขียนชื่อดัง ผู้เขียนหนังสือ Rich Dad Poor Dad : พ่อรวยสอนลูก หนังสือขึ้นหิ้งขายดีตลอดกาล และนี่คือ 100 บทเรียน ที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเขา
- คนส่วนใหญ่อยากรวย พยายามที่จะรวย แต่พวกเขาเหมือนกับพยายามกำลังที่จะสร้างตึกสูงระฟ้าบนพื้นคอนกรีตที่กว้างขนาดเพียงแค่ 6 นิ้ว ความหมายก็คือ ถ้าอยากมีเงินเยอะ เราจำเป็นที่จะต้องมีพื้นฐานการเงินที่มั่นคง แข็งแรงเสียก่อน
- ขนาดของความสำเร็จของคุณ สามารถวัดได้จากแรงปรารถนา ขนาดของความฝัน และวิธีที่คุณรับมือกับความผิดพลาดในระหว่างเส้นทางไปสู่ความสำเร็จ
- ยิ่งเรามีความรู้เกี่ยวกับพลังของเงินตรามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งห่างเหินจากคุณครูและเพื่อนร่วมชั้นมากขึ้นเท่านั้น ความหมายก็คือ ในโรงเรียนส่วนใหญ่พวกเขาไม่สอนในเรื่องการเงินกัน
- คำอันตรายที่สามารถทำลายอนาคตของตัวคุณได้มากที่สุดก็คือคำว่า “พรุ่งนี้ค่อยทำ”
- Asset หรือทรัพย์สิน คือสิ่งที่จะทำให้เงินในกระเป๋าของผมเพิ่มขึ้น ในขณะที่ Liability หรือหนี้สินนั้น คือสิ่งที่คอยดึงเงินออกจากกระเป๋าของผม
- คน ๆ หนึ่ง สามารถได้รับการศึกษาในระดับสูงได้ และสามารถประสบความสำเร็จในอาชีพการงานได้ แต่พวกเขาก็อาจจะไม่มีความรู้ในเรื่องการเงินเลยก็เป็นได้
- เมื่อไม่มีความเข้าใจในเรื่องของการเงิน หลายคนจึงยอมสยบให้กับอำนาจที่คอยควบคุมพวกเขาให้ยอมจำนน
- คนที่ฉลาด มักจะจ้างคนที่ฉลาดกว่ามาทำงานให้
- เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น นั่นคือสัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้ว่า มันถึงเวลาที่จะต้องเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ในสิ่งที่คุณยังไม่เคยรู้มาก่อน
- เหตุผลหนึ่งที่คนรวยรวยขึ้น คนจนจนลง และคนชนชั้นกลางต้องดิ้นรนในการเป็นหนี้นั้น ก็เป็นเพราะ เรื่องของการเงินมักถูกสอนกันที่บ้าน ไม่ใช่ที่โรงเรียน ความหมายก็คือ คนรวยก็จะสอนเรื่องการเงินกับลูก ๆ พวกเขาอีกแบบหนึ่ง คนชนชั้นกลางก็สอนอีกแบบหนึ่ง คนจนก็สอนอีกแบบหนึ่ง ที่มีชุดความรู้ที่ไม่เหมือนกัน
- ผู้ชนะไม่กลัวการสูญเสีย แต่ผู้แพ้กลัว เพราะความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเดินไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ ดังนั้น หากผู้ใดที่หลีกเลี่ยงความล้มเหลว นั่นก็หมายถึงว่าคน ๆ นั้น กำลังหลีกเลี่ยงความสำเร็จด้วยเช่นเดียวกัน
- ผมต้องการที่จะพัฒนา IQ ในเรื่องของการเงิน นั่นก็เป็นเพราะ มันเป็นระบบเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ และผมก็ต้องการมีส่วนร่วมกับเกมการเงิน
- ผมยินดีรับการเปลี่ยนแปลง มากกว่าที่จะยึดติดอยู่ในอดีต
- การตกงานครั้งใหญ่ในช่วงวิกฤตในแต่ละครั้ง ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนชนชั้นกลางนั้นมีฐานะการเงินที่สั่นคลอนมากเพียงใด
- ยิ่งคุณมีความฉลาดทางด้านการเงินมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งง่ายเวลาที่คุณจะพิจารณาข้อตกลงต่าง ๆ นั้นดีหรือไม่ดี
- คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักว่า ในวิตของคนเรานั้น มันไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณหาเงินได้มากเท่าไหร่ แต่มันอยู่ที่ว่า คุณสามารถเก็บเงินได้แค่ไหนต่างหาก
- คนที่รวยที่สุดในโลกมักมองหาและสร้างเครือข่าย สร้างคอนเนคชั่น สร้างความสัมพันธ์ แต่ในขณะที่คนส่วนใหญ่มองหางานทำ
- การที่ผมจะซื้อบ้านหลังใหญ่ขึ้น หรูหราขึ้นกว่าเดิมนั้น ผมตระหนักดีว่า นั่นมันไม่ใช่ทรัพย์สิน มันจะเป็นภาระหนี้สินที่คอยดึงเงินออกจากกระเป๋าของเรา
- เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามี Asset หรือทรัพย์สินมากพอในระดับหนึ่ง มันจะสามารถเติบโตได้ด้วยตัวมันเอง มันก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ที่หลังจากคุณรดน้ำให้มันเป็นเวลาหลายปี แล้ววันหนึ่งมันก็ไม่ต้องการการรดน้ำจากคุณอีกต่อไป
- ผู้คนมักทำงานหนักเกินความจำเป็น เพราะพวกเขาเรียนรู้วิธีการ การทำงานอย่างหนักมา แต่กลับไม่ได้เรียนรู้วิธีการใช้เงินให้ทำงานอย่างหนักเพื่อพวกเขา
- Cash flow หรือกระแสเงินสดนั้น บ่งบอกและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับที่คน ๆ นั้นจัดการกับเงิน
- หนี้ภายในประเทศส่วนใหญ่นั้น เกิดจากนักการเมืองที่มีการศึกษาสูง และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ตัดสินใจเรื่องการเงินนั้น ต่างได้รับการฝึกอบรมในเรื่องการเงินเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีความรู้ทางด้านการเงินเลย
- นักลงทุนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดีนั้น มักจะเข้าถึงการลงทุนที่ดีที่สุดก่อนคนที่ชอบเล่นแบบ play safe ปลอดภัยเอาไว้ก่อน
- คำพูดที่ออกจากปากของคุณ มีพลังน้อยกว่าเสียงที่คุณคอยกระซิบอยู่ในใจของตัวคุณเอง นั่นแหละคือเสียงที่ทรงพลังมากที่สุด
- โลกนี้หยิบยื่นโอกาสให้คุณอยู่เสมอตลอดช่วงชีวิตของคุณ มันมีโอกาสอยู่ในทุก ๆ วัน แต่บ่อยครั้งที่เรากลับมองไม่เห็นมัน
- ทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเราก็คือ จิตใจ ที่หากเราได้รับการฝึกฝนจิตใจมาเป็นอย่างดี มันก็จะสามารถสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมหาศาลได้ในทันที
- ถ้าคุณต้องการรวย จงอย่าปล่อยให้ตัวเองมีข้ออ้างอย่างมากมาย
- อย่าเสพย์ติดเงิน แต่จงทำงานเพื่อเรียนรู้ อย่าทำงานเพื่อเงิน
- เครื่องมือที่ผมเลือกใช้ในการสร้างการเติบโตทางด้านการเงินให้บรรลุเป้าหมายนั้นก็คือ อสังหาริมทรัพย์
- การมีความฉลาดในการแก้ไขปัญหาได้นั้น จะสามารถสร้างเงินขึ้นมาได้ ในขณะที่หากมีเงิน แต่ไม่มีความเฉลียวฉลาดทางด้านการเงิน ในไม่ช้าเงินนั้นก็จะหมดไป
- หากผู้คนมีการเตรียมตัวความพร้อมที่จะสามารถยืดหยุ่น และเปิดใจที่จะเรียนรู้ พวกเขาจะเติบโตมากยิ่งขึ้น ร่ำรวยมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบากตามมาก็ตามที
- บ่อยครั้งที่คุณหาเงินได้มากขึ้น คุณก็ใช้จ่ายเงินมากยิ่งขึ้นด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณไม่รวยขึ้นสักกะที เพราะสิ่งที่ทำให้คุณรวยนั้น Asset คือทรัพย์สิน ต่างหาก
- ถ้าคุณต้องการมั่งคั่งร่ำรวยและสามารถรักษาความมั่งคั่งเอาไว้ได้นั้น สิ่งสำคัญก็คือจะต้องมีความรู้ทางด้านการเงินเป็นอย่างดี
- คนจนและคนชนชั้นกลางนั้นทำงานเพื่อนเงิน แต่คนรวยนั้น เงินทำงานเพื่อพวกเขา
- ความกลัวที่จะแตกต่างนั้น ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่มักไม่แสวงหาวิธีการใหม่ ๆ ในการแก้ไขปัญหาของพวกเขาเอง
- ในทุกวันนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะกระตุ้นให้เด็ก ๆ ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน นั่นก็เป็นเพราะว่า พวกเขานั้นรู้แล้วว่า การประสบความสำเร็จในสายอาชีพนั้น มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประสบความสำเร็จในชีวิต
- คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากที่สุดก็คือคนที่ชอบตั้งคำถาม เพราะพวกเขาเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และพวกเขาเติบโตอยู่ตลอดเวลา
- การกระทำสำคัญกว่าคำพูด เวลาดูคน จงดูในสิ่งที่พวกเขาลงมือทำมากกว่าสิ่งที่เขาพูด
- เงินนั้น มันทำให้เห็นข้อบกพร่องในตัวของคนเราว่า คน ๆ นั้น มีความไม่รู้ในเรื่องการเงินมากแค่ไหน
- ถ้าคุณยังคงทำในสิ่งที่รุ่นคุณพ่อคุณแม่พร่ำสอนกันมาว่า ไปโรงเรียน ตั้งใจทำงาน แล้วออมเงิน นั้น ก็เท่ากับว่า คุณได้เป็นผู้แพ้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- การสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือการสูญเสียโอกาส
- ข้อแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจนก็คือ ให้ดูวิธีการที่จัดการกับเวลาของพวกเขา
- คนรวยมักใช้เงินไปลงทุนก่อน แล้วค่อยนำเงินที่เหลือมาใช้จ่าย แต่ในขณะที่คนจนนั้นนำเงินไปใช้จ่ายก่อน เหลือเท่าไหร่ค่อยเอามาลงทุน
- เงินไม่ใช่เป้าหมาย เงินไม่มีค่าอะไร เพราะคุณค่าที่แท้จริงมาจากความฝันที่เงินนั้นช่วยให้ฝันเป็นจริง
- ความแตกต่างระหว่างคำว่ายากจนกับการถังแตกนั้นก็คือ การถังแตกเป็นแค่เรื่องชั่วคราว แต่ความยากจนนั้นอยู่ชั่วกัลปาวสาน
- ถ้าหากคุณพูดว่า “ฉันไม่สามารถจ่ายได้” สมองของคุณจะถูกปิดกั้นในทันที แต่หากคุณเริ่มต้นด้วยประโยคคำถามที่ว่า “แล้วจะต้องทำอย่างไร ฉันถึงจะจ่ายไหว?” สมองจะเริ่มมองหาโอกาส มองหาความเป็นไปได้ และมีโอกาสเป็นจริงขึ้นมาได้
- ผู้คนส่วนใหญ่ชอบพูดว่า “ฉันไม่สนใจเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ หรอก” แต่คนที่พูดก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเพื่อทำงานวันละแปดชั่วโมงอยู่ดี
- ในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้น สำหรับคนที่ไม่ต้องการเสี่ยงอะไรเลย คือคนที่กำลังมีความเสี่ยง
- บ่อยครั้งที่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น คนที่ฉลาดไม่ได้เป็นคนที่นำหน้าคนอื่น แต่กลับเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียและใจถึง
- การมีทักษะจะทำให้คุณร่ำรวย ไม่ใช่มีแต่ทฤษฎี
- ไม่มีโอกาสในธุรกิจหรือการลงทุนใดที่แย่ แต่ที่แย่คือตัวของนักธุรกิจและนักลงทุนนี่แหละ
- การที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้นั้น คุณจำเป็นที่จะต้องมีอารมณ์ที่เป็นกลางไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ เพราะการแพ้หรือชนะนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเกม
- นักลงทุนมืออาชีพจะมีกลยุทธ์เพื่อหาทางออกก่อนที่พวกเขาจะเข้าทำการลงทุน ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่นักลงทุนทุกคนจำเป็นต้องมี
- คุณจำเป็นที่จะต้องไล่ลูกค้าที่ไม่ดีออกไป เช่นเดียวกับการไล่พนักงานที่ไม่ดีออกไป เพราะถ้าคุณไม่กำจัดพนักงานที่แย่ ในท้ายที่สุดพนักงานที่ดีพวกเขาก็จะออกไป และถ้าผมไม่ไล่ลูกค้าที่ห่วย ๆ ออกไป ไม่เพียงแต่ลูกค้าที่ดีจะหายไปด้วยแล้วนั้น ยังทำให้พนักงานดี ๆ ก็จะออกไปด้วยเช่นเดียวกัน
- การเพิ่มรายได้นั้นสำคัญกว่าการลดค่าใช้จ่าย มันก็เหมือนกับการเติมเต็มจิตวิญญาณในตัวคุณนั้นย่อมสำคัญกว่าการลดขนาดของความฝันของคุณ
- ผมกังวลว่าผู้คนจำนวนมากมักโฟกัสและให้ความสำคัญกับตัวเงินมากจนเกินไป ซึ่งมันไม่ใช่ความมั่งคั่งสูงสุดของพวกเขา เพราะความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาก็คือเรื่องของการศึกษา
- ในโรงเรียน เราได้เรียนรู้ว่าการทำผิดพลาดนั้นเป็นเรื่องไม่ดี และเราจะถูกทำโทษถ้าเราทำผิดพลาด แต่ในขณะที่มนุษย์เรานั้น ถูกสร้างขึ้นมาให้เรียนรู้จากความผิดพลาด ยกตัวอย่างเช่น เราเรียนรู้วิธีการเดิน จากการที่เราล้มลงแล้วลุกขึ้นเดินใหม่อีกครั้ง เราจะไม่สามารถเรียนรู้การเดิน จากการไม่เคยล้มไม่ได้
- คุณจะยากจนก็ต่อเมื่อคุณถอดใจล้มเลิก ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการที่คุณได้ลงมือทำอะไรบางอย่างไป ในขณะที่คนส่วนใหญ่ได้แต่พูดเพ้อฝันว่าอยากรวยแต่กลับไม่ได้ลงมือทำอะไรสักอย่าง
- ถ้าคุณตระหนักได้ว่าตัวคุณคือปัญหา คุณสามารถทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวคุณเองได้ ด้วยการเรียนรู้บางอย่างและฉลาดเพิ่มมากขึ้น จงอย่าได้โทษคนอื่นหากสิ่งนั้นมันเป็นความผิดของคุณ
- ว่ากันว่าความกลัวในการพูดในที่สาธารณะนั้น เป็นความกลัวที่ยิ่งใหญ่มากกว่าความตายสำหรับคนส่วนใหญ่ซะอีก โดยจิตแพทย์ได้ให้เหตุผลว่า ความกลัวในการพูดในที่สาธารณะนั้น เกิดจากความกลัวการถูกเหยียดหยาม กลัวการโดดเด่น กลัวการถูกวิจารณ์ กลัวการเยาะเย้ย ซึ่งมันทำให้เจ็บช้ำน้ำใจมากกว่า
- ผมพบว่าผู้คนจำนวนมากต้องดิ้นรน และทำงานหนักขึ้น เพียงเพราะพวกเขายึดติดกับความคิดเก่า ๆ มากเกินไป พวกเขาอยากให้สิ่งต่าง ๆ เป็นอย่างที่เคยเป็น พวกเขาต่อต้านการเปลี่ยนแปลง โทษเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เขามาแทนที่พวกเขา และทำให้พวกเขาตกงาน แต่พวกเขาไม่เคยตระหนักเลยว่า วิธีคิดของเมื่อวาน ไม่สามารถใช้ได้ผลแล้วกับในปัจจุบัน
- ทุกคนล้วนแล้วมีศักยภาพในตัวอย่างมหาศาล แต่สิ่งที่รั้งเราเอาไว้ก็คือความสงสัยในตัวเอง ทำให้ไม่มั่นใจในตนเองมากพอ
- ความกลัวทำให้คนส่วนใหญ่ต้องทำงานอย่างหนัก เพราะกลัวที่จะไม่มีเงินใช้จ่าย กลัวที่จะถูกไล่ออก กลัวมีเงินไม่พอใช้ จนตกเป็นทาสของเงิน
- ความสำเร็จนั้นเป็นครูที่แย่ ความล้มเหลวเป็นครูที่ดี
- คนอื่นจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับตัวคุณนั่นมันไม่ใช่ปัญหาของคุณ เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ คุณคิดอย่างไรกับตัวคุณเอง
- คนส่วนใหญ่คิดว่าการซื้อบ้านคือทรัพย์สิน แต่หากบ้านหลังดังกล่าว มันเอาแต่ดึงเงินออกจากกระเป๋าของคุณ บ้านหลังนั้นคือหนี้สิน
- ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็มีความเสี่ยงอยู่เสมอ ดังนั้น จงเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเสี่ยงเหล่านั้น แทนที่จะหลีกเลี่ยงมัน
- ในโลกทุกวันนี้ ความมั่งคั่งซ่อนอยู่ในข้อมูลข่าวสาร และคนที่มีข้อมูลที่ถูกที่ถูกเวลามากที่สุดจะเป็นเจ้าของความมั่งคั่ง
- หลายต่อหลายคนตั้งหน้าตั้งตาตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อลุกขึ้นไปทำงานอย่างขยันขันแข็ง แต่กลับไม่ยอมสละเวลาสักนิด เพื่อตั้งคำถามกับตนเองว่า มันมีวิธีอื่นอีกไหม?
- คุณจะไม่มีวันรู้จักอิสรภาพที่แท้จริง จนกว่าคุณจะได้รับอิสรภาพทางการเงิน
- คุณคงเคยได้ยินกฎ 80/20 กันมาบ้าง ซึ่งในเรื่องของเงินมันก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น มีคนอยู่ไม่เกิน 20% เท่านั้น ที่ใช้เงินกู้เพื่อทำให้ตัวเองร่ำรวยขึ้น ในขณะที่คนอีกกว่า 80% นั้นใช้เงินกู้ทำให้ตัวเองจนลง มีหนี้สินล้นพ้นตัว
- เมื่อเงินได้เดินทางมาอยู่ในมือคุณแล้ว นั่นแหละคือเวลาที่คุณมีอำนาจในการกำหนดอนาคตทางการเงินของคุณ
- จงค้นหาเกมชีวิตที่คุณสามารถเอาชนะมันได้ จากนั้นก็ให้ทุ่มเทชีวิตของคุณเพื่อเล่นเกมดังกล่าว และจงเล่นเพื่อเป็นผู้ชนะในเกมนั้น
- ในโลกยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วแล้วนั้น สิ่งที่คุณเคยรู้นั้นมันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะสิ่งที่คุณเคยรู้มานั้นมันมักจะเก่าเกินไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ ตอนนี้คุณเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ไวแค่ไหน
- วิชาการเงิน การบัญชีนั้น อาจเป็นวิชาที่ซับซ้อนและน่าเบื่อที่สุดวิชาหนึ่งในโลก แต่ถ้าหากคุณต้องการร่ำรวยในระยะยาวแล้วล่ะก็ วิชานั้น อาจจะเป็นวิชาที่มีความสำคัญมากที่สุด
- บางครั้งการใช้ชีวิตก็ยากลำบาก เมื่อคุณเลือกทำในสิ่งที่ขัดกับสิ่งที่คุณเป็น
- ความมั่งคั่ง คือความสามารถของคนที่สามารถใช้ชีวิตรอดได้วันข้างหน้าได้อีกหลายต่อหลายวัน
- งานที่ใช้ความคิดนั้น เป็นงานที่ยากที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีคนเพียงเล็กน้อยที่จะทำมัน
- คนรวยนั้นมักซื้อของ Luxury ของแบรนด์เนมในตอนท้ายสุด แต่ในขณะที่คนจนและคนชนชั้นกลางนั้น พวกเขาซื้อของฟุ่มเฟือย หรูหรา เป็นอย่างแรกสุด
- ถ้าหากคุณต้องการเป็น Leader เป็นผู้นำของผู้คน คุณจำเป็นที่จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในสิ่งที่คุณพูด
- ชีวิตก็เหมือนกับการออกกำลังกาย ส่วนที่ยากที่สุดก็คือ การตัดสินใจที่จะลุกขึ้นแล้วตัดสินใจเข้าโรงยิม และเรื่องหลังจากนั้นมันก็ง่ายขึ้น
- พ่อรวยสอนผมว่า การที่ลองทำแล้วเจ๊งก่อนอายุ 30 ปี นั้น เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะล้มเหลว เพราะยังมีเวลาให้กลับฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ได้อยู่
- เมื่อพูดถึงเรื่องเงิน ทักษะเดียวที่คนส่วนใหญ่รู้ก็คือ การทำงานหนัก
- ทักษะที่สำคัญที่สุด 3 ทักษะ ในเรื่องของ management หรือการจัดการ ที่จำเป็นในการเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัวก็คือ อย่างแรก cash flow หรือกระแสเงินสด, อย่างที่สองการจัดการกับคน และอย่างที่สามคือการจัดการกับเวลาของตัวคุณเอง
- การขอคำแนะนำจากผู้อื่นนั้นหมายถึง การที่ให้คนอื่นบอกฉันว่า ฉันควรทำอะไร แต่ในขณะที่การแสวงหาความรู้นั้นหมายถึง การถามคนอื่นว่า ฉันควรเรียนรู้อะไร เพื่อที่ฉันจะได้รู้ว่าฉันควรจะต้องทำอะไร
- คนส่วนที่มองไม่เห็นโอกาสที่จะมั่งคั่งร่ำรวยได้นั้น เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ถูกรับการฝึกฝนทางการเงิน เพื่อให้มองเห็นโอกาสที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา
- ถ้าความฉลาดทางการเงินคุณต่ำ เมื่อเงินไหลเข้ามาหาคุณ มันจะฉลาดกว่าคุณ และเมื่อมันฉลาดกว่าคุณ คุณก็จะทำงานเพื่อมันทั้งชีวิต
- ในการที่จะเป็นนายของเงินนั้น คุณจะต้องฉลาดกว่ามัน จากนั้น เงินมันจะทำตามที่คุณบอก มันจะเชื่อฟังคุณ แทนที่คุณจะตกเป็นทาสของมัน คุณจะเป็นเจ้านายมัน นั่นแหละ คือความฉลาดทางการเงิน
- จงจำเอาไว้ว่า สิ่งที่สำคัญในชีวิต มักไม่สามารถเรียนรู้ได้จากในห้องเรียน คุณต้องเรียนรู้ด้วยการลองลงมือทำในสิ่งต่าง ๆ ได้ลองทำผิดพลาด แล้วทำการแก้ไขความผิดพลาด จากนั้นปัญญาก็จะเกิดขึ้น
- ถ้าคุณคิดว่าคุณทำแฮมเบอร์ได้เก่งและดีกว่าที่ McDonald’s แล้วนั้น แล้วทำไม McDonald’s ถึงทำเงินได้มากกว่าคุณ นั่นคือคำถามที่ผมได้ถามกับเพื่อนในชั้นเรียน
- การมีเงินมากขึ้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการเงินได้ คุณจะสังเกตุเห็นได้จาก หลายคนที่ได้รับมรดกหรือถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่ 1 ส่วนใหญ่นั้น พอพวกเขาได้เงินก้อนมา ในเวลาไม่นานเงินก็ได้หมดไป
- ความสามารถในการที่รู้ว่า เมื่อใดควรทำการตัดสินใจอย่างรวดเร็วนั้น เป็นทักษะที่สำคัญมาก
- มีแต่คนโง่เท่านั้น ที่คิดว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ตัวเองคิด
- การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น แม้จะเป็นการลงทุนในตลาดที่ขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาดเงินอื่น ๆ แต่มันก็ยังคงเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างกระแสเงินสดและสร้างความมั่งคั่งได้อย่างแท้จริง
- ชีวิตทั้งชีวิตของผู้คนถูกควบคุมอยู่ด้วยกันสองอารมณ์หลัก ๆ ก็คือ ความกลัวและความโลภ
- ความสามารถในการขาย เป็นทักษะในการสื่อสารระหว่างมนุษย์ด้วยกันอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า พนักงาน เจ้านาย คู่สมรส หรือลูก ๆ เราจำเป็นที่จะต้องขายตัวเองแก่คนเหล่านี้ให้ได้ มันเป็นทักษะพื้นฐานของคนที่ประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตและการงาน
- เมื่อคุณรู้ว่า คุณไม่มีความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้น ให้คุณเริ่มหาความรู้ด้วยตนเอง โดยให้หาผู้ที่เชี่ยวชาญในสาขานั้น หรือหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ
- คนรวยส่วนใหญ่เป็นเจ้าของบริษัท เพราะบริษัทสามารถทำในสิ่งที่บุคคลธรรมดาไม่สามารถทำได้ ยกตัวอย่างในเรื่องของภาษีที่บริษัทนั้น สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ก่อนแล้วค่อยนำเงินที่เหลือไปคำนวณภาษี แต่ในขณะที่พนักงานบริษัทนั้นพอมีรายได้จะถูกหักภาษีหนักกว่า แล้วก็ต้องพยายามใช้ชีวิตต่อไปกับเงินที่คงเหลืออยู่
- การทำงานนั้นเป็นเพียงวิธีการแก้ไขเรื่องของเงินในระยะสั้น แต่ผู้คนส่วนใหญ่กลับเอามันไปใช้แก้ไขปัญหาในระยะยาว เพราะถ้าหากคุณต้องการแก้ไขปัญหาการเงินในระยะยาวคุณจะต้องมุ่งสร้าง Asset มุ่งสร้างทรัพย์สิน
- จำเอาไว้ว่าการเลือกเส้นทางที่ง่าย มักจะกลายเป็นเรื่องยากในภายหลัง และการเลือกเดินในเส้นทางที่ยากมักจะกลายเป็นเรื่องง่ายในภายหลัง
Resources