Site icon Blue O'Clock

100 ข้อคิด จาก Tim Cook ซีอีโอ Apple | Blue O’Clock Podcast EP. 40

Tim Cook

Tim Cook ซีอีโอผู้บริหารบริษัท Apple ผู้ผลักดันให้ Apple กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ และนี่คือ 100 บทเรียน ที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเขา

  1. สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นก็คือสิ่งที่ผมรู้สึกได้ว่า ผมสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้
  2. ผมคิดว่ากุญแจสำคัญสำหรับผู้นำนั้นคือการโฟกัส และอีกสิ่งหนึ่งก็คือการทำให้เรื่องที่ดูเป็นปัญหาซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาได้
  3. ผมคิดว่าสิ่งสำคัญในการเป็นผู้นำนั้นก็คือ การทำให้มั่นใจว่าทุกคนในองค์กรเดินไปในทิศทางเดียวกันและทำในสิ่งที่ถูกต้อง
  4. พวกเราเชื่อว่า สาเหตุที่เราเกิดมาบนโลกใบนี้ก็เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาบนโลกใบนี้
  5. นวัตกรรมนั้นได้สร้างความแตกต่างระหว่างผู้นำกับผู้ตาม
  6. พวกเราเชื่อว่าการที่ได้ปฏิเสธโครงการอื่น ๆ นับพันโปรเจคนั้น ก็เพื่อที่เราจะสามารถโฟกัสในโปรเจคเพียงไม่กี่อย่างที่มันสำคัญและมีความหมายต่อเราอย่างแท้จริง
  7. ผมคิดว่ากุญแจสำคัญก็คือการที่ Apple นั้น เป็นบริษัทที่ทุกคนต่างร่วมมือกันทำงานได้ดีอย่างเหลือเชื่อ พวกเราทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม
  8. ผมเชื่อในพลังของความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์เราเป็นอย่างมาก ซึ่งผมคิดว่ามันคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์เรานั้นแตกต่างจากสัตว์อื่น ๆ ที่มีอยู่บนโลกนี้
  9. ผมคิดว่าผู้คน ต้องการทำในสิ่งที่ถูกต้อง และผมก็คิดว่าถ้าคุณให้โอกาสแก่พวกเขาเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง พวกเขาก็จะทำในสิ่งที่ถูกต้องเช่นกัน
  10. จงสนุกและมีความสุขไปกับชีวิตในระหว่างการเดินไปในเส้นทาง ไม่ใช่กับเป้าหมายที่ห่างไกล ความหมายก็คือ ความสุขไม่ใช่แค่การเดินไปถึงเป้าหมาย แต่สามารถมีความสุขได้ตลอดเส้นทางเดิน
  11. ชีวิตคนเรานั้นแสนเปราะบาง เราไม่สามารถการันตีได้ว่าจะมีวันพรุ่งนี้หรือไม่ ดังนั้นจงทุ่มเททุกอย่างที่มีในวันนี้ซะ
  12. แทนที่จะมัวจดจ่ออยู่กับอุปสรรคที่ขวางอยู่ข้างหน้า คุณควรมุ่งเน้นไปที่การหาวิธีเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น หรือการมองหาทางออกใหม่ ๆ เพื่อที่จะข้ามกำแพงที่ขวางกั้นไปให้ได้
  13. สำหรับการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ จงเชื่อในสัญชาตญาณของตัวคุณ แล้วพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่คุณสามารถทำได้ เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่คุณคิดนั้นมันถูกต้อง
  14. เป้าหมายของเราไม่ใช่การทำให้ดีที่สุด เพราะพวกเราทำดีที่สุดมาเป็นปกติเสมอมาอยู่แล้ว
  15. ค่านิยมของเราก็คือ เราคิดว่าผู้คนย่อมมีสิทธิในความเป็นส่วนตัว และลูกค้าไม่ใช่สินค้าของเรา
  16. Apple เป็นบริษัทเดียวที่สามารถทำ hardware, software และ services มาผสานรวมกันได้อย่างลงตัวสำหรับลูกค้าได้ ซึ่งคุณสามารถนำสิ่งนี้ไปปรับใช้กับตลาดอื่น ๆ ได้
  17. เมื่อเราทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ นั่นแสดงว่า เรากำลังดำเนินการกับผลิตภัณฑ์ถัดไปอยู่แล้ว
  18. ผู้คนรักในผลิตภัณฑ์ของเรา และรักในการใช้บริการของเรา และทั้งหมดนี้สำหรับผมแล้ว นี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
  19. ที่ Apple นั้นมีวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งแห่งการเป็นเลิศ ซึ่งผมคิดว่ามันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นสิ่งพิเศษเอามาก ๆ และผมจะไม่ยอมให้วัฒนธรรมเหล่านี้เปลี่ยนแปลงจางหายไป
  20. เราไม่เคยพูดว่าพวกเรานั้นเพอร์เฟ็คต์ แต่พวกเราก็พยายามแสวงหาสิ่งนั้น แต่ในบางครั้งพวกเราก็ทำพลาดพลั้งไป
  21. ผมคิดว่าแม้ว่า Steve Jobs จะไม่อยู่แล้ว แต่ Apple ก็ยังคงเป็นบริษัทของเขาอยู่ เพราะมันเกิดมาจากเขา และมันจะยังคงเป็นเช่นนั้น ซึ่งผมคิดว่าจิตวิญญาณของเขาจะกลายเป็น DNA ของบริษัทนี้ตลอดไป
  22. เราไม่ได้สร้างเครื่องเล่นเพลง, สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เป็นเจ้าแรก แต่คุณสามารถพูดได้ว่า เราได้สร้างสิ่งนี้เหล่านี้ที่มีความทันสมัยเป็นเจ้าแรกได้
  23. สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมในฐานะที่เป็น CEO นั้น คือความกล้าหาญ โดยเฉพาะถ้าหากคุณทำผิดพลาด คุณก็ต้องกล้าที่จะออกมายอมรับว่าคุณนั้นได้ทำผิดพลาดไป
  24. สัญชาตญาณในตัวคุณนั้นมีความสำคัญในแทบทุกสิ่งที่คุณทำ แต่ถ้าหากคุณไม่มีการเตรียมการ ไม่มีการเตรียมตัวและการลงมือทำอย่างไม่หยุดยั้งแล้วล่ะก็ สัญชาตญาณนั้นมันก็ไร้ความหมาย
  25. ผมคิดว่าการเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์นั้นจำเป็นสำหรับในทุก ๆ โรงเรียน เพราะมันก็เหมือนกับเป็นภาษาที่สองที่จำเป็นสำหรับโลกในยุคนี้
  26. สิ่งที่เราทุกคนต้องทำก็คือ การใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ในทางที่เป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ ไม่ใช่เพื่อสร้างความเสียหายต่อมวลมนุษยชาติ
  27. ผมคิดว่าบางคนในยุคนี้จะไม่ซื้อคอมพิวเตอร์แล้ว เพราะผมคิดว่าตอนนี้เราอยู่ในจุดที่ iPad สามารถทำในสิ่งที่บางคนต้องการทำกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกเขาได้แล้ว
  28. ผมคิดว่าสงครามครั้งต่อไปนั้นอาจเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความปลอดภัยในโลกไซเบอร์
  29. ผมได้เรียนรู้ว่าการโฟกัสคือกุญแจสำคัญ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่ในเรื่องของการบริหารบริษัทเพียงอย่างเดียว แต่มันหมายถึงการใช้ชีวิตส่วนตัวของตัวคุณเองด้วย
  30. ผมหวังว่า ผู้คนจะจดจำได้ว่าผมนั้นเป็นคนดีมีคุณธรรม ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น สำหรับผมแล้วนั่นคือความสำเร็จแล้ว
  31. ใครก็ตามที่พยายามที่จะกลายเป็นคนสำเร็จโดยที่ไม่ต้องทำงานหนักนั้น นั่นคือคนที่กำลังหลอกตัวเองอยู่ หรือแย่กว่านั้นก็กำลังหลอกคนอื่น ๆ อยู่ด้วย
  32. ความคิดสร้างสรรค์คือการที่คน ๆ หนึ่งมีความใส่ใจมากพอที่จะคิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง จนกระทั่งพวกเขาพบกับความเรียบง่ายที่สุดที่จะทำในสิ่งนั้น
  33. เราไม่ควรยึดติดกับสิ่งที่เราไม่มี เราควรถอยออกมาสักก้าวหนึ่งแล้วดูข้อมูลทั้งหมดที่เรามีอยู่ แล้วคุณจะพบว่า มันมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราอย่างมากมายมหาศาล
  34. ยิ่งประชุมนานมากเท่าไหร่ โอกาสในการประสบความสำเร็จก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
  35. เรื่องของราคาผลิตภัณฑ์นั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เพราะเมื่อสินค้าที่ราคาถูก ๆ ที่โดนซื้อไปนั้น บางคนจะรู้สึกดีตอนที่จ่ายเงิน แต่พอกลับไปที่บ้านแล้วได้ใช้ผลิตภัณฑ์ราคาถูกดังกล่าวแล้วนั้น ความสุขก็ได้จากไป ความหมายก็คือ ของราคาถูกมักไม่ใช่ของดี
  36. บริษัทบางบริษัทสับสนคิดว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการทำรายได้ให้สูง ๆ หรือทำให้ราคาหุ้นให้มันสูง ๆ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว คุณต้องโฟกัสไปในสิ่งอื่นที่ส่งผลให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นต่างหาก
  37. นักลงทุนที่เรามองหาคือนักลงทุนที่ชอบลงทุนในระยะยาว เพราะนั่นคือวิธีการตัดสินใจของเรา
  38. ผมคิดว่า iPhone เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว เพราะคุณจะไม่คิดออกจากบ้านโดยที่ไม่มีมันติดตัวไปด้วยได้
  39. หากคุณตระหนักได้ว่าสิ่งที่คุณสามารถทำได้นั้นไม่มีขีดจำกัด คุณก็สามารถทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่คุณมีให้กับจักรวาลนี้ได้ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้
  40. พวกเราเป็นคนธรรมดา ๆ ที่บริษัท Apple โดยพวกเราโฟกัสไปที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกเพื่อยกระดับชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น
  41. หน้าที่ของ Apple คือการมอบในสิ่งที่แม้แต่ตัวคุณก็ไม่รู้หรอกว่าคุณต้องการอะไร แต่เมื่อคุณได้รับมันแล้ว คุณจะไม่สามารถนึกภาพชีวิตของคุณออกได้เลยว่าถ้าขาดมันไปชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร และคุณก็สามารถวางใจได้เลยว่า Apple จะทำเช่นนั้นกับคุณ
  42. ผมคิดว่ากลุ่มคนที่มีความหลากหลายมากที่สุดที่รวมตัวกันนั้น จะทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดขึ้นมา ซึ่งผมเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก
  43. สำหรับที่ Apple นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พวกเราสามารถทำได้ก็คือ การยกระดับให้กับผู้คน ด้วยการให้เครื่องมือแก่พวกเขา ในการรังสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาได้
  44. คุณสามารถที่จะเอาเครื่องปิ้งขนมปังกับตู้เย็นรวมเข้าไว้ด้วยกันได้ แต่สิ่งเหล่านี้มันอาจจะไม่ถูกใจผู้ใช้งานสักเท่าไหร่นัก ความหมายก็คือ การออกแบบดีไซน์นั้นนอกจากจะออกแบบได้ดีแล้ว ยังต้องถูกใจลูกค้าด้วย
  45. ในฐานะที่ผมเป็น CEO ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องมีก็คือ การเลือกคนรอบตัวคุณที่ไม่เหมือนกับคุณ เพื่อเติมเต็มตัวคุณ เพราะเมื่อคุณสร้างโจทย์สักข้อขึ้นมา คุณก็คงไม่อยากได้คำตอบที่เหมือน ๆ กัน คุณอยากได้คำตอบที่แตกต่างกันออกไป
  46. โดยปกติแล้ว Apple จะเข้าซื้อกิจการของบริษัทอื่น ๆ ทุก ๆ 3-4 สัปดาห์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือซื้อบริษัททุก ๆ เดือน ซึ่งสิ่งที่เราซื้อคือเทคโนโลยีและบุคคลากรที่ยอดเยี่ยมในกิจการนั้น ๆ
  47. ผมมองว่าปัญหาอันดับต้น ๆ ของโลกที่เกิดขึ้นระหว่างคนที่มีอันจะกินกับคนที่ไม่มีกินนั้นก็ ต้นตอของปัญหาดังกล่าวก็คือเรื่องของการศึกษา
  48. CEO ของบริษัทแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่มักไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภค นั่นคือสาเหตุว่าทำไมลูกค้าของพวกเขาจึงจากไป
  49. คุณต้องหาจุดร่วมให้เจอระหว่างความหลงใหลของคุณกับการให้บริการแก่ผู้คนว่าอยู่จุดเหมาะสมที่ตรงไหน เพราะถ้าคุณหาไม่เจอมันจะทำให้คุณไม่มีความสุขเอามาก ๆ และถ้าใครหาไม่เจอ ผมก็จะขอค้านชนฝาเลยว่าไม่จริง มันมีอยู่ แต่คุณต้องหาให้เจอ
  50. ความเป็นผู้นำนั้นมันเกี่ยวกับการสร้างวิสัยทัศน์ การกำหนดกลยุทธ์ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้อำนาจแก่ผู้อื่นและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นเพื่อดำเนินการตามวิสัยทัศน์และกลยุทธ์นั้น
  51. คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ที่ผมรู้จักนั้น พวกเขาคือคนที่คอยมองหาวิธีในการพัฒนาตนเอง ทีมงานของพวกเขา และบริษัทของพวกเขาอยู่เสมอ
  52. ผู้นำจะต้องกล้าตัดสินใจในสิ่งที่คนส่วนใหญ่อาจไม่เห็นด้วย แต่เรื่องดังกล่าวจะเป็นประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร
  53. ความหมายของการเป็นผู้ประกอบการคือการกล้าที่จะยอมเสี่ยง เผชิญหน้ากับความล้มเหลว และเรียนรู้จากความล้มเหลวดังกล่าว แล้วพยายามทำมันต่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
  54. ผู้ประกอบการนั้น คือคนที่พร้อมและเต็มใจที่จะทำงานหนักกว่าใคร ๆ และไม่คิดที่ยอมแพ้
  55. เราไม่ได้อยู่ในธุรกิจผลิตของห่วย เราอยู่ในธุรกิจการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก
  56. เรามุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะสิ่งที่ง่ายที่สุดคือการลอกเลียนแบบจากสิ่งที่คนอื่นทำ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราทำที่ Apple
  57. สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในโลกที่อาจเกิดขึ้นกับคุณก็คือการที่คุณประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณไม่ชอบซะด้วยซ้ำ
  58. ผมคิดว่าเรื่องความโปร่งใสนั้นคือสิ่งสำคัญ เพราะผู้คนมีความไว้วางใจในบริษัทเมื่อพวกเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
  59. หากคุณเป็นวิศวกร สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณก็คือ การที่ใครบางคนเอารายชื่อของคุณออกไปจากสิ่งที่พยายามสละมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างมันขึ้นมาแล้วถูกเคลมผลงานโดยใครที่ไหนก็ไม่รู้
  60. คุณจำเป็นต้องมีโฟกัสและมีระเบียบวินัยเป็นอย่างมากเพื่อที่จะทำสิ่งนั้นได้ และนั่นคือสิ่งที่เราพยายามปลูกฝังภายในองค์กรของเรา
  61. ผมอยากให้บริษัท Apple เป็นคนเขมือบบริษัท Apple เอง แทนที่จะเป็นคู่แข่ง ความหมายก็คือ แทนที่จะรอให้บริษัทคู่แข่งออกผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่อาจมาแข่งขันกับผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ ก็ให้ Apple เองนี่แหละพัฒนาขึ้นมาเพื่อล้มผลิตภัณฑ์และบริการเดิมของตัวเองซะเลย
  62. มีคนแนะนำว่าเราควรมี back door หรือประตูหลังบ้านที่สามารถกระโดดข้ามระบบความปลอดภัยของเครื่องดังกล่าวได้โดยทีมงานในทันที แต่ความจริงก็คือ ถ้ามี back door ขึ้นมาแล้วนั้น นั่นหมายถึงว่า มันสามารถเข้าได้ทั้งคนดีและคนเลว
  63. ผมคิดว่า Apple ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของธุรกิจผลิตเนื้อหาเอง ความหมายก็คือ เขาเชื่อว่า Apple สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการ แล้วร่วมมือกับบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมที่ผลิต content แทนที่จะพยายามแข่งขันกับพวกเขาโดยตรง
  64. ผมเกลียดการฟ้องร้องมาโดยตลอด และผมก็จะยังคงเกลียดมันต่อไป ความหมายก็คือ ส่วนตัวของเขานั้นมองว่ามันเป็นการเสียเวลาและทรัพยากรไปโดยเปล่าประโยชน์
  65. ในช่วงเวลาหนึ่งที่ผ่านมา คุณต้องเลือกว่า คุณต้องการทำเพื่อผู้บริโภคหรือเพื่อองค์กร แต่ความจริงในปัจจุบันนั้น องค์กรคือกลุ่มที่ก่อกำเนิดขึ้นได้เพราะผู้บริโภค
  66. เมื่อบริษัท Apple กำลังพิจารณาว่าหมวดหมู่ในอุตสาหกรรมดังกล่าวน่าเข้าร่วมหรือไม่นั้น เราจะตั้งคำถามประมาณว่า “อะไรคือเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้?” “แล้วเราจะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมด้วยสิ่งนี้ได้หรือไม่?” ซึ่งถ้าเราทำไม่ได้และไม่สามารถเป็นเจ้าของเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังของสิ่งนี้ เราก็จะไม่ทำ
  67. ผมสังเกตว่า ทุกคนในแวดวงเทคโนโลยีต่างดูเหมือนจะต้องการทำยอดตัวเลขสถิติต่าง ๆ ให้ได้จำนวนมาก ๆ เข้าไว้ แต่ในขณะที่ Steve Jobs นั้นเขากลับไม่เคยสนใจเรื่องดังกล่าวเลย เขาโฟกัสเฉพาะในเรื่องของการทำงานให้ดีที่สุดเท่านั้น
  68. ผู้คนชอบในสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ในตอนนี้เลย ไม่ใช่แค่อยู่ในเพียงความคิด
  69. ถ้าเราทำผลิตภัณฑ์และระบบนิเวศให้ดีมากพอ คนก็จะเปลี่ยนจาก Android ไปใช้ iOS มากขึ้น
  70. เมื่อไม่นานมานี้ผู้คนคิดว่า ไม่น่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับด้านสุขภาพอยู่ในสมาร์ทโฟน แต่ในปัจจุบันกลับมีข้อมูลทางด้านการเงิน มีบทสนทนาลับ มีความลับทางธุรกิจ มีข้อมูลลับส่วนตัวอยู่ในสมาร์ทโฟนมากกว่าเอกสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในบ้านของคุณเสียอีก
  71. ผมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า ในอุตสาหกรรมนี้ไม่ควรออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีอายุการใช้งานให้สั้น ๆ เพราะผมคิดว่าแนวคิดดังกล่าวมันไม่เป็นผลดีสำหรับใครเลย
  72. ในทุก ๆ ประเทศทั่วโลก จะมีผู้คนอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่พวกเขาต้องการได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดอยู่เสมอ และนั่นคือสิ่งที่ Apple กำลังจะมอบให้แก่พวกเขาเหล่านั้น
  73. ตัวคุณมีพลังในการทำสิ่งต่าง ๆ มากกว่าที่ตัวคุณคิดเอาไว้ซะอีก
  74. ผมต้องการเป็นก้อนกรวดที่โยนลงในแอ่งน้ำเพื่อที่จะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ความหมายก็คือ เขาต้องการเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่ผู้สังเกตการณ์เฉย ๆ
  75. ชีวิตที่อยู่แต่เพียงข้างสนามนั้นไม่ใช่ที่ที่คุณควรอยู่ เพราะโลกนี้ต้องการให้คุณอยู่บนสนาม อยู่บนเวที
  76. เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ที่ใช้บริการอินเตอร์เน็ตเริ่มตระหนักได้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ใช้บริการออนไลน์แบบฟรี ๆ นั่นหมายถึงว่าคุณไม่ใช่กลุ่มลูกค้า แต่ตัวคุณกลายเป็นสินค้า
  77. องค์กรจะประสบความสำเร็จได้ในระยะยาวนั้น ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าพวกเขารักและภักดีต่อแบรนด์ของคุณมากแค่ไหน
  78. ความเป็นเลิศนั้นจะกลายมาเป็นอุนิสัยในที่สุด ความหมายก็คือ เมื่อคุณสามารถปลูกฝังนิสัยรักความเป็นเลิศในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้แล้วนั้น มันก็สามารถกลายเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงาน ดำเนินธุรกิจได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน
  79. ความปลอดภัยนั้นไม่ใช่แค่สิ่งที่ควรจะมี แต่มันเป็นรากฐาน พื้นฐานของทุกสิ่งต่างหาก
  80. ผมไม่ชอบการเมืองเอาซะเลย และเรื่องนี้ไม่มีพื้นที่ให้มันภายในบริษัท เพราะชีวิตผมนั้นสั้นเกินกว่าที่จะไปจัดการกับเรื่องเหล่านั้น
  81. ผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของการมี feature ที่หลากหลาย แต่ผลิตภัณฑ์ที่ดีมันคือการที่สิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดนั้น สามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
  82. สิ่งที่ทำให้ Siri นั้นดูเจ๋งก็คือ การที่เธอนั้นมีบุคลิกภาพส่วนตัวที่โดดเด่นกว่าใคร ๆ
  83. ของบางสิ่งบางอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ แต่บางครั้งพวกมันก็ถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี
  84. ในยุคนี้อะไรก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะเรายังอยู่ในยุคเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนเท่านั้นเอง
  85. ธุรกิจของผมไม่ใช่ธุรกิจที่แอบอ่านข้อความของคุณ เพราะมันขัดกับค่านิยมของผมที่จะทำเช่นนั้น ผมไม่ได้ต้องการอ่านเรื่องส่วนตัวของคุณ
  86. ถ้าคุณต้องการให้ผมทำในสิ่งต่าง ๆ เพียงเพื่อให้ได้ ROI : Return on Investment เพื่อให้ผลกำไรกลับคืนมาสูงสุดแล้วนั้น ผมแนะนำว่าคุณควรขายหุ้น Apple ทิ้งไปซะ
  87. กำลังมีผู้คนขนาดระดับองค์กรขนาดใหญ่กำลังบริหารองค์กรเพื่อแฮ็คและขโมยข้อมูลอยู่
  88. ที่ Apple นั้นพวกเรารักการแข่งขัน เราคิดว่ามันทำให้พวกเราทุกคนดีขึ้น พัฒนาขึ้นกว่าเดิม แต่เราต้องการให้ผู้คนคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นของตนเองมากกว่าที่จะก้อปปี้จากเรา
  89. การเลือกปฏิบัติในทุกรูปแบบนั้น มันไม่เป็นผลดีต่อธุรกิจเลยแม้แต่น้อย
  90. รายได้ของ Apple กว่าร้อยละ 80 ในปัจจุบันนั้น มาจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เมื่อในอดีตยังไม่มีผลิตภัณฑ์เหล่านี้เลยซะด้วยซ้ำ ความหมายก็คือ Tim Cook เขาต้องการเน้นย้ำในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ Apple สามารถสร้างรายได้จากสิ่งเหล่านั้นได้
  91. ความน่ากลัวของการเข้าอ่านข้อความส่วนตัวได้ก็คือ หากผมสามารถอ่านข้อความคุณได้ ผมสามารถรู้ได้ว่า คุณกำลังจะไปที่ไหน อยู่กับใคร เพราะมันสามารถ track ได้จากปลายทางของข้อความที่ถูกส่งออกไป
  92. ผมแนะให้คุณทำในสิ่งที่คุณหลงใหล ซึ่งถ้าผมย้อนเวลากลับไปบอกตัวเองในอดีตได้ ผมก็จะบอกว่า มันแตกต่างอย่างมาก ระหว่างการทำงานที่รัก กับการรักงานที่ทำ
  93. การทำบางอย่างให้มันดีหรือแค่ดีพอนั้น ไม่ใช่ทางเลือกในปัจจุบันอีกต่อไป มันต้องเป็นมากกว่านั้น
  94. ผมมักจะได้รับพลังดี ๆ ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสพูดกับนักพัฒนาซอร์ฟแวร์หรือพบกับนักเรียนนักศึกษาในห้องเรียนที่พวกเขากำลังใช้เทคโนโลยีของเราเพื่อช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ได้เร็วและดียิ่งขึ้น และเฝ้าดูพวกเขาไล่ล่าทำตามความหลงใหลของพวกเขา
  95. ผมรักพิพิธภัณฑ์นะ แต่ผมไม่ได้อยากอยู่ในนั้น ความหมายก็คือ แม้ว่าตัวของเขาจะชื่นชมความสำเร็จในอดีต แต่เขาจะไม่จมปลักอยู่กับความสำเร็จเดิม ๆ ที่เป็นอดีตไปแล้ว
  96. ผมคิดว่าใครก็ตามที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ควรช่วยกันสร้างเครื่องมือบางอย่างที่จะช่วยลดปริมาณของ fake news หรือข่าวปลอมในโลกไซเบอร์ แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ข้ามเส้นแบ่งของคำว่า การมีเสรีภาพในการพูดและในฐานะของสื่อประชาสัมพันธ์
  97. ผมมีมุมมองว่าเครื่อง Mac นั้นจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับ Apple ในระยะยาว เพราะผมเห็นว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac นั้นจะเติบโตในระยะยาว
  98. เราคิดว่ารัฐบาลควรผลักดันให้มีการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยให้แก่ผู้คนมากยิ่งขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในยุคนี้มันสำคัญพอ ๆ กับแสงแดด อากาศและน้ำดื่มน้ำใช้กันเลยทีเดียว
  99. ผมคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ที่คิดว่าการทำธุรกิจคือการทำเงินให้ได้มากที่สุดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะต่อให้ธุรกิจของคุณทำเงินได้อย่างมหาศาล แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายถึงว่าธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่ดี
  100. ที่ Apple เราจะไม่ทำอะไรแค่เพียงทำเล่น ๆ นั่นเป็นกฎพื้นฐานทั่วไปของที่นี่

Resources

Exit mobile version