Site icon Blue O'Clock

15 บทเรียนชีวิตและธุรกิจ by Bedros Keuilian | Blue O’Clock Podcast EP. 28

Bedros Keuilian

Bedros Keuilian คือผู้ประกอบการ เจ้าของแบรนด์ Fit Body Boot Camp และธุรกิจแฟรนไชส์ฟิตเนส ที่มีทรัพย์สินรวมราว ๆ $200 ล้านดอลล่าร์ฯ ในวัย 45 ปี และนี่คือคำแนะนำที่เขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา

บทเรียนที่ 1 – Take your girls out on a date

ในชีวิตการทำธุรกิจ คนทำธุรกิจมักจะหมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการเปลี่ยนโลก จนมีเวลาให้กับคนรอบตัวน้อยลง โดยเฉพาะแฟน คู่สามีภรรยา และลูก ๆ

โดยเขาได้เรียนรู้ว่า หากเราให้ความใส่ใจกับคนในครอบครัว คนรอบ ๆ ตัวเรา นั้น จะทำให้ชีวิตคู่และชีวิตในการทำธุรกิจนั้น มีความสุข และคุณจะได้คู่ชีวิตที่แฮปปี้และพร้อมที่จะซับพอร์ททั้งตัวคุณและธุรกิจของคุณ

โดยวิธีการก็คือ ให้คุณลงตารางเวลาไปเลยว่า คุณจะชวนแฟนไปออกเดทวันไหน ไปดินเนอร์วันที่เท่าไหร่ หรือจะพาลูก ๆ ไปท่องเที่ยว ใช้เวลากับพวกเขาวันใดบ้าง

แล้วจากนั้น ก็ให้คุณค่อยวางตารางงาน ตารางการทำธุรกิจ รอบ ๆ กิจกรรมเหล่านั้นอีกทีหนึ่ง

บทเรียนที่ 2 – Raise your son to become a modern-day knight

ส่วนตัวเขาเติบโตมาที่ไม่ได้เป็นผู้ชายที่ดีเลิศเลออะไร เพราะในช่วงวัยรุ่นนั้น เขาเคยถูกเจ้าหน้าที่ไล่ล่าด้วยเฮลิคอปเตอร์ ในระหว่างที่เขาหลบหนี้จากการเป็นขโมยขึ้นบ้านคนอื่นมาก่อน แต่โชคดีที่เขาได้รับการให้อภัยจากสังคมแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่

สาเหตุที่เขาเป็นแบบนั้นก็เป็นเพราะ ในช่วงวัยเด็ก เขาไม่ได้รับการสั่งสอนที่ดีมากพอ เขาไม่รู้ว่าจะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้อย่างไร

ดังนั้น เขาจึงเรียนรู้ได้ว่า หากวันนี้คุณมีลูก ๆ โดยเฉพาะลูกชายที่ยังเล็กอยู่ จงสอนให้พวกเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นสุภาพบุรุษ รู้จักการให้เกียรติผู้อื่น โดยเฉพาะกุลสตรี รู้จักปกป้องคนที่คุณรักราวกับอัศวินที่สามารถขี่ม้าขาวไปช่วยพวกเธอได้ทุกที่ทุกเวลา

บทเรียนที่ 3 – Never seek approval from anyone

อย่าเรียกร้องขอความเห็นใจจากผู้อื่นด้วยการทำตัวเองให้น่าสงสาร น่าเวทนา น่าเห็นใจ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่น่าดู ไม่ใช่สิ่งที่มีเกียรติมีค่า มันทำให้เป็นคนที่ดูอ่อนแอ

ดังนั้น ถ้าหากเราต้องการให้ใครต่อใครหันมาสนใจ ให้ความสนใจ ให้ประทับใจแล้วล่ะก็ สิ่งที่คุณควรทำก็คือ การทำตัวของคุณเองให้เป็นคนที่ดี ที่เก่ง ที่เจ๋งที่สุดในแบบของคุณเอง

ซึ่งไม่น่าจะเป็นในวงการไหนก็ตาม หากคุณขึ้นเป็นตัวท็อปได้ ทุกคนในวงการจะหันมาให้ความสนใจในตัวคุณเอง

ดังนั้นคุณไม่จำเป็นที่จะต้องไล่ตามใครต่อใคร เพื่อให้พวกเขาหันมาสนใจ แต่จงทำให้ตัวเองนั้นเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด จนคนอื่น ๆ หันมาติดตาม หันมาให้ความสนใจในตัวคุณ

บทเรียนที่ 4 – Always keep your word

พูดในสิ่งที่ทำ และจงจำในสิ่งที่พูด คำพูดของคุณจะดูศักดิ์สิทธิ์ มีแต่คนเชื่อถือ เพราะคุณพูดจริง ทำจริง

จงเป็นคนที่รักษาสัญญา พูดแล้วต้องทำให้ได้

บทเรียนที่ 5 – Be who you are

จงเป็นตัวของตัวเอง ทั้งในที่สาธารณะและในเบื้องหลัง ปกติแล้วคุณอยู่ที่บ้านคุณเป็นคนอย่างไร เวลาออกนอกบ้านก็แสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าคุณเป็นคนอย่างนั้น เพราะไม่เช่นนั้นแล้วคุณจะกลายเป็นคนเสแสร้งแกล้งทำ ต่อหน้าอีกอย่างลับหลังอีกอย่าง มันไม่เป็นผลดีเอาซะเลย

บทเรียนที่ 6 – Be clear on your vision and mission

มีวิสัยทัศน์ มีเป้าหมาย มีภารกิจในชีวิตที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก นักร้อง ชื่อดังอย่าง Justin Timberlake ที่เป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดให้แก่องค์กรการกุศลเกี่ยวกับโรงพยาบาลที่ช่วยเหลือเด็ก

ดังนั้นเขาจึงทำทุกอย่างเพื่อให้ไปจุด ๆ นั้นบ้าง ซึ่งตอนนี้เขาช่วยอุปการะเด็ก ๆ อยู่ด้วยกันประมาณ 97 คน และเป้าหมายของเขาก็อยากจะช่วยเหลือเด็กที่ยากไร้นับพัน นับหมื่นคน

เขาจึงออกแบบและผลักดันธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ทำการตลาดมากยิ่งขึ้น เพิ่มยอดขายมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้มีเงินไปบริจาคแก่เด็ก ๆ ได้มากยิ่งขึ้น

ดังนั้น เอาให้ชัด เอาให้เคลียร์ว่า ภารกิจในชีวิตนี้ของคุณคืออะไร เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว จะมีคนมากำหนดเป้าหมาย กำหนดภารกิจให้คุณแทน

บทเรียนที่ 7 – Pay your dues and earn it

การที่คุณลงมือทำอะไรสักอย่างด้วยตัวของคุณเอง ด้วยความมุมานะ ด้วยความอุตสาหะ ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านความเจ็บปวด ผ่านความยากลำบาก ผ่านการทำงานอย่างหนัก เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ ผ่านความล้มเหลวมาหลายต่อหลายครั้ง บาดแผลเต็มตัว เคยลำบาก เคยไม่มีเงินกินข้าว เคยเป็นคนไร้บ้าน มาก่อนนั้น

สิ่งที่คุณสมควรได้รับในวันนี้ คุณสมควรได้รับมัน ทั้งชื่อเสียง เงินทอง ลาภ ยศ ได้รับการสรรเสริญ ความสุข ความอิ่มเอมใจ อย่างไม่ต้องสงสัย

บทเรียนที่ 8 – Good Leader

การเป็นผู้นำที่ดี การเป็นผู้ประกอบการที่ดี การเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มักจะแก้ไขปัญหาให้กับผู้คนได้ ยิ่งปัญหาดังกล่าวมีความซับซ้อนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำเงินได้มากขึ้นเท่านั้น และนอกจากนั้นผู้นำที่ดี ยังสามารถสื่อสารในสิ่งที่พวกเขาอยากนำเสนอได้เป็นอย่างดี สุดท้ายคือผู้นำที่ดีมักตัดสินใจได้เด็ดขาด รวดเร็วและแม่นยำ

บทเรียนที่ 9 – Be humble

อ่อนน้อมถ่อมตน นอบน้อมต่อผู้อื่น เวลาเข้าหาผู้อื่นจงเข้าหาเพราะอยากช่วยพวกเขาจริง ๆ อย่าเข้าหาเพียงเพื่อที่จะหวังผลประโยชน์อยู่ท่าเดียว

บทเรียนที่ 10 – Have hight standard of expectation

จงตั้งระดับความคาดหวังในระดับสูง อย่าลดมาตรฐานลง ทั้งต่อตัวคุณเองและคนรอบตัว ทั้งในด้านของสุขภาพ mindset ไม่ว่าจะเป็นคู่สมรส ลูก ๆ เพื่อน พาร์ทเนอร์ ลูกค้า

ยกตัวอย่างเช่น อย่างตัวของเขาเอง ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเข้าไปในร้านขายของแล้วเจอกับพนักงานขายที่สุภาพ บริการอย่างดี มีระดับ ตัวของเขาเองพร้อมที่จะซื้อทุกสิ่งอย่างจากนักขายคนนี้ เพราะเขาประทับใจในบริการ

หรืออย่างตัวของเขาเอง เขาจะรักษาความสะอาดอยู่เสมอ เสื้อผ้าหน้าผมต้องดูสะอาดสะอ้าน รถยนต์ต้องดูสะอาดไร้ฝุ่น

สามารถพักโรงแรมห้าดาวได้ สามารถกินอาหารระดับภัตรคารได้โดยสามารถจ่ายไหว และคนในครอบครัว รวมถึงคนรอบ ๆ ตัวเขา ก็สมควรได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด สมควรได้รับสินค้าและบริการในระดับสูง

แต่อย่าเข้าใจผิดว่า ให้ใช้เงินฟุ่มเฟือยหรือสุรุ่ยสุร่าย เพราะสิ่งที่เขาพูดมานั้น คือการพาตัวเองให้ไปอยู่ ณ จุดที่เขาสามารถจ่ายได้ เขาสามารถจ่ายไหว โดยที่ไม่ได้กระทบต่อการเงินส่วนบุคคล

บทเรียนที่ 11 – Make a ton of money

หากคุณยังคงใช้ชีวิตอยู่ในสังคม คุณยังคงจำเป็นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อเข้าถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่มีคุณภาพสูงที่มีอยู่ในท้องตลาด และมันอาจใช้เงินมากกว่าที่คุณคิดเอาไว้ซะอีก

ตามสโลแกนที่เราเคยได้ยินเลยว่า เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นเกือบทั้งหมดล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินแทบทั้งสิ้น

บทเรียนที่ 12 – Stay fit

จงทำให้ทั้งร่างกายฟิต ความคิดเฉียบคม และจิตใจสงบนิ่ง อยู่เสมอ เพราะเป้าหมายของเขาคือการอยู่อายุยืนยาวถึงร้อยปี ดังนั้น เขาจึงจำเป็นที่จะต้องทำให้ร่างกายแข็งแรง ออกกำลังอยู่สม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ รายล้อมไปด้วยผู้คนที่ดี ผู้คนที่คิดบวก เลิกเสพย์ข่าวเชิงลบ เลิกเสพย์เรื่องที่ไร้สาระ

เพราะเมื่อเรามีร่างกายที่แข็งแรง และจิตใจที่แข็งแกร่ง เราก็มีแรงทำงานได้เยอะ คิดโปรเจ็คใหญ่ ๆ หาเงินได้มาก บริจาคเงินช่วยเหลือสังคมได้มากขึ้นด้วย

บทเรียนที่ 13 – Show respect

ให้ความเคารพแก่ผู้อื่น แล้วผู้อื่นจะให้ความเคารพเรากลับคืนมา เพราะเมื่อเรามีความอ่อนน้อมถ่อมตน จิตใจดี เป็นผู้รับฟัง และช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ผ่านการกระทำให้ผู้อื่นได้รับรู้

แต่แน่นอนว่าในบางครั้งจะมีคนที่ไม่ให้เกียรติคุณ ไม่เคารพคุณ ไม่ว่าคุณจะให้เกียรติพวกเขาแค่ไหนมากก็ตามที สิ่งที่คุณสามารถทำได้เลยก็คือ การให้ความเคารพในตนเอง แล้วเดินถอยหลังออกจากพวกที่ไม่เคารพคุณเหล่านั้นออกมา

บทเรียนที่ 14 – Don’t line, don’t spread rumors or jealous

ไม่พูดโกหก ไม่นินทา ไม่แพร่ข่าวลือ ไม่อิจฉาริษยาในความสำเร็จของผู้อื่น เพราะถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเป็นคนพูดไม่ดี ก็จะไม่มีใครอยากคบหาสมาคมกับคุณ

บทเรียนที่ 15 – Challenge yourself

เขาเชื่อในการที่เราพยายามเรียนรู้และฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น แม้ว่าเขาจะมีอายุ 45 ปีแล้ว แต่เขาก็พยายามฝึกฝนการวิ่งทุกวันเพื่อไปแข่งขันวิ่งมาราธอนจนได้ แม้ว่าร่างกายเขาจะไม่เอื้ออำนวยก็ตามที จงท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเพื่อให้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเมื่อวานอยู่เสมอ

และเขาก็เชื่อว่าใครก็ตามที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเขา จะมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

Resources

Exit mobile version