การประชุมประจำปีผู้ถือหุ้นของบริษัท Berkshire Hathaway ในปี 1998 หรือเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว มีคนถามปู่ Warren Buffett ว่า ปู่มีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับการมองอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าว่า บริษัทที่เขาเลือกที่จะลงทุนนั้น จะเป็นอย่างไร จะเติบโตแค่ไหน และทำไมถึงเลือกที่จะลงทุนในบริษัทดังกล่าว
โดย Warren Buffett ตอบว่า เขาไม่ได้มองไกลขนาด 10 ปีว่าธุรกิจที่เขาลงทุนนั้นจะเป็นอย่างไร เพราะสิ่งที่เขามองหาคือธุรกิจที่ดี โดยเขาจะมองหาอยู่ 2 สิ่งก็คือ
- Important
- Knowable
ธุรกิจบางอย่าง Important มาก แต่เขากลับไม่มี Knowable หรือรู้จักธุรกิจนั้นดีพอ เขาก็จะไม่เข้าไปยุ่ง และเช่นเดียวกัน บางธุรกิจพวกเขารู้จักเป็นอย่างดี แต่ธุรกิจนั้นกลับไม่มีความสำคัญ ณ ขณะนั้น เขาก็จะไม่ตัดสินใจที่จะลงทุนในธุรกิจดังกล่าว
แล้วอะไรคือความหมายของคำว่า Important กับคำว่า Knowable กันแน่?
โดยปู่ Warren Buffett บอกว่า สิ่งใดก็ตามที่เป็นสิ่งสำคัญ เป็นประโยชน์ และสิ่งนั้นเขามีความรู้และรู้จักมันเป็นอย่างดี เขาก็จะกระทำการบางอย่างเพื่อให้บริษัท Berkshire Hathaway ได้รับผลประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
เพราะต้องยอมรับว่ามีสิ่งที่สำคัญอยู่เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด แต่เขาก็ไม่ได้รู้ไปซะทุกเรื่อง และหลายสิ่งหลายอย่างที่เขารู้จักมันเป็นอย่างดีหลายเรื่องก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากมายสักเท่าไหร่นัก
ดังนั้นการถามเขาว่า อีก 10 ปีข้างหน้าธุรกิจนั้นจะเป็นอย่างไร การแข่งขันในตลาดดังกล่าวจะมากหรือน้อยนั้น เขาไม่ถนัดเอาซะเลย
ไม่ว่าจะถามว่าบริษัทใดบ้างที่พวกเขาลงทุนอยู่ ณ ขณะนี้ ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ปู่เขาก็ตอบว่า เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
โดยปู่ให้เหตุผลว่า หากเขาไปโฟกัสว่าอีก 10 ปีข้างหน้าบริษัทนั้นจะเป็นอย่างไร มันอาจจะทำให้เขาพลาดบางสิ่งบางอย่างที่ควรให้ความสำคัญในปัจจุบันมากกว่าที่จะมองไปในอนาคตอันห่างไกล
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตอนที่บริษัท Coca Cola เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทมหาชนในปี 1919 โดยในปีแรกนั้น ราคาต่อหุ้นอยู่ที่ราว ๆ $40 และภายในสิ้นปีเดียวกันนั้นเอง ราคากลับตกลงกว่าครึ่งเหลืออยู่แค่หุ้นละ $19 เพราะในช่วงนั้นทาง Coca-Cola นั้นมีปัญหาในเรื่องของสัญญาการจัดหาขวดบรรจุภัณฑ์กับปัญหาการส่งน้ำตาลจากพาร์ทเนอร์
และถ้าหากคุณใช้การมองการณ์ไกลไปอีก 10 ปีข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผ่านการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เกิดเหตุการณ์ The Great Depression คือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ของโลก โดยเฉพาะกับประเทศในทวีปอเมริกาเหนือกับทวีปยุโรป ต่อจากนั้นก็เป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ผ่านการใช้ระเบิดปรมาณู(Atomic bomb) และระเบิดไฮโดรเจน(Hydrogen bomb) ที่เป็นระเบิดนิวเคลียร์ในการทำสงครามกัน
ดังนั้นหากคุณมองการณ์ไกลแบบนี้ คุณสามารถหาเหตุผลได้ต่าง ๆ นา ๆ ในการที่จะเลื่อนการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท Coca-Cola ออกไปก่อน และมันจะทำให้คุณพลาดที่จะเลือกมองในสิ่งที่สำคัญที่เกิดขึ้นกับบริษัท Coca-Cola ที่ ณ ปัจจุบัน บริษัทของพวกเขาขายน้ำอัดลมขนาด 8 ออนซ์ ได้มากกว่าพันล้านขวดในแต่ละวัน
แถมมันยังเป็นธุรกิจที่สร้างความสุขให้กับผู้คนทั่วโลกทุกครั้งที่ได้ดื่มแล้วสดชื่นกว่าพันล้านครั้งในแต่ละวัน โดยที่กำไรต่อขวดนั้นก็ไม่ได้มากมายอะไร
ดังนั้นเมื่อปู่เขาเล็งเห็นแล้วว่าบริษัท Coca-Cola มีทั้ง Important และ Knowable จึงส่งผลให้เขาตัดสินใจที่จะนำเงินปันผล(dividend)นำไป reinvest หรือลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท Coca-Cola ณ ตอนที่ราคาหุ้นลดลงจากหุ้นละ $40 มาเหลือแค่เพียงที่หุ้นละ $19
ดังนั้นการที่จะมองการณ์ไกลแบบกว้าง ๆ นั้น อาจทำให้คุณพลาดสิ่งสำคัญไป คุณควรพัฒนามุมมองที่เจาะจงและแคบลง ก็จะสามารถทำให้คุณมองเห็นสิ่งสำคัญของธุรกิจนั้น ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
และนี่ก็คือหลักคิดในการลงทุนจากปู่ Warren Buffett
Resources