Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to

4 บทเรียนล้ำค่าจาก Robert Herjavec มหาเศรษฐีพันล้าน ในรายการ Shark Tank

ถ้าพูดมหาเศรษฐีมาดเท่ รูปหล่อ แถมยังเต้นลีลาศไดแบบขั้นเทพ จากรายการ Shark Tank รายการที่เหล่าบรรดามหาเศรษฐีมองหาธุรกิจจากผู้ประกอบการที่มานำเสนอเพื่อขอเงินลงทุน ที่เล่นจริง ได้จริง เจ็บจริงแล้วล่ะก็ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Robert Herjavec ที่ ณ ปี 2020 เขามีทรัพย์สินอยู่ที่ $200 ล้านเหรียญฯ หรือราว ๆ 6,000 ล้านบาท

ซึ่ง Robert Herjavec ถือได้ว่า เป็นมหาเศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาด้วยลำแข็งของตัวเองจากศูนย์ โดยหากย้อนกลับไปเมื่อปี 1970 เมื่อตอนที่เขาอายุได้เพียง 8 ขวบ นั้น เขาได้นั่งเรืออพยพกับครอบครัวมาจากประเทศ Croatia มายัง Canada โดยทรัพย์สินเพียงอย่างเดียวที่มีติดตัวพวกเขามาก็คือเสื้อผ้ากับเครื่องนุ่งห่มเท่านั้น

โดยพ่อและแม่ของเขาทำงานอย่างหนัก เพื่อหาเงินส่งลูกเรียน จนกระทั่ง Robert สามารถเข้าเรียนในระดับชั้นมหาวิทยาลัยจนได้ และในปี 1990 เขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทที่เกี่ยวกับ Internet Security Company ที่เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยระบบอินเตอร์เน็ต จนกระทั่ง AT&T ได้ติดต่อขอเข้าซื้อกิจการไปในราคากว่า 30 ล้านเหรียญฯ หรือราว ๆ กว่า 900 ล้านบาท สู่การเป็นนักลงทุนในรายการ Shark Tank

และนี่คือสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทสัมภาษณ์ Robert Herjavec ในรายการ The Jeff Probst Show

บทเรียนที่ 1 – ใครก็สามารถเป็นเศรษฐีได้ แต่ไม่ใช่เป็นกันง่าย ๆ

คนรุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่รับชมรายการทีวีอย่าง Shark Tank นั้นมักเข้าใจกันว่าการหาเงินเยอะ ๆ เป็นเศรษฐี มันเป็นเรื่องง่าย ๆ เพราะเพียงแค่ออกรายการไม่กี่นาที บางคนก็ได้เงินลงทุนนับล้าน แม้กระทั่งลูกของ Robert Herjavec ในวัย 14 ปี เองที่มีพ่อเป็นเศรษฐีพันล้านนั้น เธอก็เข้าใจว่า พ่อคนอื่น ๆ ก็เป็นเศรษฐีพันล้านง่าย ๆ เหมือน ๆ กันหมด

ดังนั้นคนรับสารถ้าเป็นเด็กจะต้องมีผู้ใหญ่คอยแนะนำ และหากเป็นผู้ใหญ่รับชมรายการทีวีก็จะต้องไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนกับสารที่ได้รับมา

ซึ่งแม้ว่าการเป็นเศรษฐีพันล้าน มันไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ นั่นก็เพราะผู้คนส่วนใหญ่มองเงินว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย ชอบมองเงินในทางลบ ๆ และแน่นอนว่า เวลาที่คนเราไม่ชอบอะไรก็ตาม คนเรามักก็จะตีตัวออกห่างจากสิ่งนั้น ในขณะที่ตัวของ Robert เองนั้น เขาไม่เคยมองเงินในแง่ร้าย เขาไม่เคยกล่าวโทษหรือคิดลบกับการที่เขาประสบความสำเร็จเลยแม่แต่น้อย

และ Robert ก็เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ใครก็สามารถเป็นเศรษฐีได้ เพราะตัวของเขาเองก็เริ่มต้นมาจากศูนย์โดยที่พ่อและแม่ของเขาตอนที่อพยพจากโครเอเชียมาแคนาดานั้น ยังพูดภาษาอังกฤษยังไม่ได้สักกะคำเลยด้วยซ้ำ

บทเรียนที่ 2 – จงทำตัวเองให้เป็นคนที่น่าคบหา

Robert เล่าว่า ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขายังเด็ก เมื่อเขาไปโรงเรียนแล้วก็พบว่า เขาโดนล้อว่าเป็นคนต่างชาติที่อพยพมา พูดภาษาอังกฤษก็ไม่ได้เรื่อง แถมยังจนอีกต่างหาก ทำให้หลังจากเลือกเรียนเขาก็กลับมาที่บ้านแบบหงอย ๆ แล้วก็เอาแต่คร่ำครวญถึงความยากจนข้นแคนของครอบครัวของเขา จนกระทั่งพ่อของเขาเดินเข้ามาแล้วบอกกับเขาว่า “ไม่ต้องคร่ำครวญไปหรอก จงยิ้มสู้และร่าเริงเข้าไว้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็ตาม” และตั้งแต่นั้นมา Robert ก็เป็นคนที่ร่าเริง ยิ้มง่าย อารมณ์ดีอยู่เสมอ

เพราะ Robert อธิบายให้ฟังว่า เมื่อคุณเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ใคร ๆ ก็อยากเข้าหา เข้ามาทำความรู้จักกับคุณ อยากไปแฮ้งเอ้าท์กับคุณ ซึ่งคุณลองจินตนาการดูว่า หากคุณถูกเชิญไปงานเลี้ยงสังสรรค์แล้ว ทำหน้าบูด หน้าตึง ใครจะอยากเข้าหาคุณ และเมื่อผู้คนไม่อยากเข้าหาคุณ นั่นก็หมายถึง มันไม่มีโอกาสที่คุยเพื่อไปต่อยอดความสัมพันธ์ ต่อยอดธุรกิจ อะไรต่อได้เลย มันจะทำได้ยากมาก

บทเรียนที่ 3 – คุณรู้จักใครไม่เท่าใครรู้จักคุณ

Robert บอกว่าอนาคตของคุณขึ้นอยู่กับคนที่รู้จักคุณ ไม่ใช่คนที่คุณรู้จัก โดยเขาได้เล่าให้ฟังเมื่อตอนที่เขาอายุประมาณ 18 ปี ตอนที่เขารู้จักเพียงแค่พ่อกับแม่ โดยพ่อเขาทำหน้าที่ถูพื้นในโรงงาน ส่วนแม่ของเขาก็ทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับ

ซึ่ง Robert บอกว่าถ้ากฎแห่งความสำเร็จมันคือการที่คุณรู้จักใครเป็นจริงแล้วล่ะก็ เขาแย่แน่ เพราะตอนนั้นเขาก็รู้จักแค่พ่อกับแม่ของเขานี่แหละ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจตั้งแต่วันนั้นว่า เขาจะต้องเป็นคนที่ใคร ๆ ก็อยากรู้จักให้ได้

บทเรียนที่ 4 – การลงทุนต้องคาดหวังว่าต้องได้เงินคืนกลับมา

Robert ได้เล่าถึงเคสนึงที่เขาได้ลงทุนกับผู้ประกอบการในรายการ Shark Tank กับแบรนด์ที่ชื่อ Chord Buddy ที่เป็นอุปกรณ์ในการช่วยฝึกจับคอร์ดและเล่นกีต้าร์สำหรับผู้เริ่มต้น ที่สามารถทำให้มือใหม่เล่นกีต้าร์ได้ภายในเวลาไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้น

โดยก่อนที่ธุรกิจนี้จะได้เงินลงทุน เขามียอดขายอยู่ที่ประมาณ $150,000 ตีเป็นไทยก็ประมาณ 4.5 ล้านบาท แต่พอ Robert ได้ลงทุนกับธุรกิจนี้ หลังจากนั้นเพียง 9 เดือน ธุรกิจนี้ก็สามารถทำยอดขายได้กว่า $2 ล้านเหรียญฯ หรือกว่า 60 ล้านบาทเลยทีเดียว

โดย Robert บอกว่า เขาทุ่มเทและทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้เงินลงทุนก้อนนี้มา ดังนั้นมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อเขาให้เงินก้อนนี้กับใครสักคนไป เขาก็คาดหวังที่จะได้เงินก้อนนี้กลับคืนมา

แนะนอกเหนือจากเรื่องเงิน สิ่งที่เขารู้สึกปิติยินดีมากก็คือ การลงทุนของเขานั้น ช่วยให้ชีวิตของผู้ประกอบการนั้น ๆ เปลี่ยนไปในทางที่ขึ้น อย่างเจ้าของแบรนด์ Chord Buddy ก็เช่นกัน จากเดิมที่พวกเขาผลิตสินค้ากันเองบนโต๊ะอาหารภายในห้องครัว แต่หลังจากที่ Robert ได้ลงทุนไป ตอนนี้พวกเขาก็ได้สร้างโรงงานผลิตสินค้าขนาดใหญ่ ที่มีการจ้างพนักงานอีกกว่า 20 ชีวิต ให้ได้มีงานทำอีกด้วย

Resources