100 ข้อคิด จาก Bernard Arnault LVMH | Blue O’Clock Podcast EP. 33
Bernard Arnault คือนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส เจ้าของบริษัทผู้เป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง Louis Vuitton ที่ควบรวมกิจการเข้ากับแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Moët Hennessy กลายเป็นบริษัท LVMH ที่มีบริษัทอยู่ในเครืออีกมากกว่า 70 แบรนด์ เช่น Dior, Jacobs, Celine, Bvgari เป็นต้น
และในปี 2022 นี้เขากับครอบครัวยังได้ขึ้นแท่นกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ของโลกแทนที่ Elon Musk อีกด้วย และนี่คือ 100 บทเรียน ที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเขา
- สินค้า Luxury เป็นสินค้าประเภทเดียวเท่านั้น ที่สามารถสร้างกำไรได้อย่าง Luxury
- ผมคิดว่าในการทำธุรกิจ คุณจำเป็นจะต้องเรียนรู้ที่จะอดทน แม้ว่าตัวของผมนั้นจะเป็นคนที่ไม่ค่อยอดทนสักเท่าไหร่นัก แต่ผมคิดว่าผมได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากการที่เราสามารถอดทนรอคอยบางสิ่งบางอย่างและได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในเวลาที่เหมาะสม
- หากคุณสามารถควบคุมการกระจายสินค้าได้ คุณก็สามารถควบคุมภาพลักษณ์ได้
- ผลิตภัณฑ์ที่ดีจะคงอยู่ตลอดไป
- เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างที่จำเป็นต้องทำ จงลงมือทำมันซะ เพราะในประเทศฝรั่งเศสเรานั้นเต็มไปด้วยไอเดียอย่างเยอะแยะมากมาย แต่มีน้อยอย่างมากที่เรานำไปเอาทำจริง ๆ
- ความหรูหราในราคาประหยัด – สองคำนี้มันไม่สามารถไปด้วยกันได้
- ผมชอบการผสมผสานกันระหว่างความคิดสร้างสรรค์และกระบวนการที่สร้างสรรค์ และองค์กรที่ใช้แนวทางแบบนี้ในธุรกิจล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จระดับโลกกันทั้งสิ้น
- ในธุรกิจแฟชั่น การมี designer ที่มีความสามารถอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เพราะผู้บริหารนั้นจำเป็นที่จะต้องได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบนั้น ๆ ด้วย โดยกระบวนการใช้ความคิดสร้างสรรค์นั้นมักไร้กฎเกณฑ์ แต่ในขณะที่กระบวนการผลิตนั้นจำเป็นที่จะต้องหลักการแบบมีเหตุมีผลเป็นอย่างมาก
- เมื่อคุณอยู่ในฝ่ายของการจัดการเป็นผู้บริหาร คุณจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจความละเอียดอ่อนในด้านของงานศิลป์ เพื่อที่คุณจะสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนที่อยู่ในฝั่งครีเอทีฟได้
- เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้ซาบซึ้งและรักในผลงานที่เหล่าบรรดาครีเอทีฟได้สร้างขึ้นอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิธีคิดของพวกเขา ที่มักจะออกมาในแบบที่คาดเดาไม่ได้และหาเหตุผลไม่ได้แล้วล่ะก็ เมื่อนั้นคุณก็จะสามารถเริ่มทำความเข้าใจกับพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น และในท้ายที่สุดคุณก็จะสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในจิตใจและภายใน DNA ของพวกเขาได้
- สิ่งที่บริษัทในเครือของพวกเราทำนั้นตรงกันข้ามกับสิ่งที่โลกาภิวัตน์ทำกันก็คือ พวกเราผลิตสินค้าขึ้นที่อิตาลีและฝรั่งเศสและพวกเราขายให้ประเทศจีน แต่ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ ผลิตสินค้ากันที่ประเทศจีนแล้วส่งขายทั่วโลก
- เงินเป็นเพียงแค่ผลลัพธ์ ผมมักจะพูดกับทีมอยู่เสมอว่า อย่าได้กังวลมากเกินไปเกี่ยวกับการสร้างผลกำไร ถ้าคุณทำงานได้ดี เดี๋ยวผลกำไรจะตามมาเอง
- สิ่งที่ทำให้ Louis Vuitton มีชื่อเสียงโด่งดังนั้นมาจากการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ไม่ใช่เพราะการทำ marketing พวกเราสร้างสินค้าที่ได้รับการยอมรับจากในวงการการออกแบบและเหล่าบรรดาช่างฝีมือทั่วโลก
- ผมจำเป็นที่จะต้องจัดการกับความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา โดยผมสนุกมากที่ได้พยายามเปลี่ยนจากความคิดสร้างสรรค์ไปเป็นธุรกิจจริง ๆ บนโลกจนได้ ซึ่งการที่จะทำแบบนี้ได้นั้น คุณจำเป็นที่จะต้องเชื่อมโยงกันระหว่าง innovators กับ designers หรือนักประดิษฐ์ กับ นักออกแบบ เข้าไว้ด้วยกันได้โดยที่ยังคงความเป็นไอเดียของพวกเขาทั้งสองฝั่งเอาไว้ได้อยู่ และทำให้เป็นกลายเป็นรูปธรรมขึ้นมา
- ผมชอบที่จะเป็นผู้ชนะ และผมก็ชอบการเป็นที่หนึ่ง
- พวกเราค่อนข้างโชคดีเป็นอย่างมากที่เราได้มีหลายต่อหลายแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมอยู่ในเครือ แต่ก็ต้องระวังเอาไว้ว่า อย่ารีบเร่งทำให้มันเติบโตเร็วมากจนเกินไป เติบโตได้แต่ต้องเติบโตตามตลาดโดยที่พวกเรายังคงความสามารถได้การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีได้อยู่
- ในธุรกิจ ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การวางตำแหน่งทางธุรกิจของตัวคุณเองในระยะยาว และไม่ใจร้อนจนเกินไป ซึ่งปกติผมเป็นคนใจร้อน และผมจำเป็นที่จะต้องควบคุมตัวเอง
- บุคคลที่ผมชื่นชอบมากที่สุดในวงการธุรกิจก็คือ Warren Buffett ซึ่งเขาเป็นนักลงทุนในระยะยาวและเขามีความคิดที่ยอดเยี่ยม และเขาก็ยึดมั่นในสิ่งนั้นมาโดยตลอด
- การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น คุณจำเป็นที่จะต้องมีการผสมผสานกันระหว่างความทันสมัยและไร้กาลเวลาเข้าไว้ด้วยกัน
- การที่กลุ่มบริษัทในเครือของเราประสบความสำเร็จได้นั้นก็เป็นเพราะ การมีผลิตภัณฑ์ที่ดี และการมีผลิตภัณฑ์ที่ดีก็มาจากช่างฝีมือที่ยอดเยี่ยม และช่างฝีมือที่ยอดเยี่ยมของพวกเรานั้นก็ล้วนแล้วมาจากกลุ่มหญิงชายที่ทำงานร่วมกับเรา
- พยายามหลีกเลี่ยงการลงทุนเมื่อทุกสิ่งอย่างเริ่มแพงเกินไป
- สิ่งที่ผมสนใจคือการโปรโมทแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ไม่ใช่การโปรโมทตัวผม
- เมื่อตอนที่ผมได้เข้ามาดูแลรับช่วงต่อของแบรนด์ Louis Vuitton นั้น ทุกคนต่างพูดว่า “แบรนด์นี้มันใหญ่มากอยู่แล้ว” “คุณจะไปทำอะไรให้มันใหญ่กว่านี้ได้อีก?” และนับตั้งแต่นั้นมา พวกเราก็สามารถทำให้แบรนด์นี้เติบโตเพิ่มขึ้นได้มากกว่าสิบเท่าเข้าไปแล้ว
- เป้าหมายของบริษัทสตาร์ทอัพจะไม่ใช่เพื่อเป็นบริษัทสตาร์ทอัพต่อไปเรื่อย ๆ แต่เป้าหมายของบริษัทสตาร์ทอัพ คือการทำให้มันเติบโตไปเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ถ้าเป็นไปได้
- งานของผมคือการช่วยให้นักประดิษฐ์คิดค้นและนักออกแบบเข้าใจความหมายของการนำความคิดสร้างสรรค์ไปออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง นั้นก็คือ การที่ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นผู้คนจะต้องชอบและสามารถใช้งานมันได้จริงด้วย
- ทุกครั้งที่โลกเกิดวิกฤต เรามีส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ
- คุณต้องยอมรับว่า ในบางครั้ง ในบางเรื่อง คุณก็ไม่สามารถทำให้มันประสบความสำเร็จได้
- ผมจำได้ว่ามีคนเคยบอกผมว่า “มันไม่เมคเซ็นต์เอาซะเลยที่จะรวมแบรนด์ต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน” และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะผมก็แยกแบรนด์แต่ละแบรนด์ในเครือออกจากกัน มันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
- เหตุผลสำคัญของความสำเร็จในช่วงเริ่มต้นจำเป็นต้องมีก็คือ ไอเดีย, ไอเดียที่สร้างสรรค์ และต่อมาพัฒนาเป็น ไอเดียที่เป็นนวัตกรรม
- ผมมองว่าตัวผมคือฑูตทางมรดกและทางวัฒนธรรมของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสิ่งที่พวกเราได้สร้างขึ้นนั้นมันเชื่อมโยงถึงพระราชวังแวร์ซายอะไรทำนองนั้น
- ในธุรกิจ luxury นั้น คุณจำเป็นต้องสร้างมันขึ้นมาจากสิ่งที่หลงเหลือมรดกตกทอดที่สืบทอดต่อกันมา จากประวัติศาสตร์ ซึ่งมันไม่ใช่ธุรกิจที่ทำกันได้ง่าย ๆ มันเป็นธุรกิจที่จะต้องเกิดมาจากความหลงใหลและจำเป็นต้องใช้เวลา แต่เมื่อมันทำได้อย่างถูกต้องได้แล้วนั้น จะเกิดศักยภาพอย่างมหาศาล
- กลยุทธ์ของพวกเราคือการไว้วางใจเหล่าบรรดา creator ที่สร้างสรรค์ผลงานออกมา
- การหา creator หรือผู้สร้างสรรค์ผลงานที่ดีนั้น หาได้ยากมาก มันไม่สามารถหาได้ด้วยการสัมภาษณ์งานแบบปกติ ๆ ทั่วไป มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากที่กว่าจะได้ creator ฝีมือยอดเยี่ยมมาสักคน
- ความ luxury คือการผสมผสานกันระหว่างคุณภาพกับความคิดสร้างสรรค์
- การที่จะสามารถขายสินค้าในราคาที่ค่อนข้างสูงได้นั้น คุณจำเป็นที่จะต้องนำเสนองานฝีมือและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพควบคู่กันไป
- คำที่สำคัญที่สุดในธุรกิจของเราก็คือคำว่า “Desire” คือความปรารถนา ที่ใครต่อใครก็อยากมีไว้ในครอบครอง
- คุณกล้าพูดไหมว่าในอีก 20 ปีข้างหน้าในอนาคต ผู้คนจะยังคงใช้ iPhone กันอยู่? คำตอบคืออาจจะไม่ เพราะตอนนั้นอาจจะมีผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ แต่ที่ผมรู้แน่ ๆ ในวันนี้ก็คือ ในอีก 20 ปีข้างหน้า ผมค่อนข้างเชื่อว่าผู้คนจะยังคงดื่มแชมเปญที่บ่มมาเป็นเวลาหลายสิบปีกันอยู่
- ผมคิดว่า การเตรียมความพร้อมในการเดินสู่เส้นทางสายอาชีพการทำงานใดก็ตาม จำเป็นที่จะต้องมีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
- เมื่อตอนที่ผมได้ทำงานครั้งแรกในอาชีพเกี่ยวกับการออกแบบก่อสร้างทางวิศวกรรมนั้น สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ การได้ทำงานร่วมกันระหว่างสถาปนิกมีออกแบบอาคารด้วยความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งนั่นมันทำให้พวกเขาสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
- I am never bored. ผมไม่เคยเบื่อในการทำธุรกิจเลยสักครั้งเดียว
- ผมเป็นคนฝรั่งเศส และเสียภาษีเหมือนกับประชาชนชาวฝรั่งเศสทุกประการ และผมจะปฏิบัติเกี่ยวกับทางด้านการเงินตามกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ เช่นเดียวกันกับชาวฝรั่งเศส
- ความสุขของผมคือการเป็นผู้นำทีม และถ้าเป็นไปได้ ผมจะนำพวกเขาขึ้นสู่จุดสูงสุดในเส้นทางดังกล่าว
- ผมมักจะพูดกับทีมอยู่เสมอว่า เราควรทำตัวให้เหมือนตอนที่พึ่งเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ ๆ อยู่เสมอ อย่าอยู่แต่ในออฟฟิศมากจนเกินไป ให้ติดดินเข้าไว้ พูดคุยกับลูกค้าบ่อย ๆ หรือไปพูดคุยในที่ทำงานกับ designer ซึ่งส่วนตัวของผมนั้นผมจะไปที่หน้าร้านทุก ๆ สัปดาห์ ผมมักจะเข้าไปพบปะพูดคุยกับผู้จัดการร้านอยู่บ่อย ๆ ได้เห็นพวกเขาทำงานที่หน้างานจริง ๆ ไม่ใช่เห็นพวกเขาทำงานเอกสารอยู่บนโต๊ะในออฟฟิศเพียงอย่างเดียว
- ผมชอบการแข่งขันมาก ๆ และผมก็มักจะเป็นฝ่ายชนะอยู่บ่อยครั้ง
- การมีตัวเลือกนั้นดี โดยเฉพาะการมีอิสระที่จะเลือก แต่มีสิ่งเดียวที่บีบบังคับให้ผมต้องเลือกที่จะต้องพูดอย่างเป็นทางการ อย่างมืออาชีพก็คือ วิสัยทัศน์ของผมในระยะ long-term ในระยะยาวเท่านั้น
- Louis Vuitton คือแบรนด์ luxury ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในแง่ของยอดขาย โดยวางแผนที่จะรองรับการขยายตัวไปทั่วโลก และโฟกัสในผลิตภัณฑ์ระดับ high-end เพื่อรักษาภาพลักษณ์เฉพาะตัวเอาไว้
- ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ลดคุณค่าและคุณภาพของ Hermès อย่างเด็ดขาด เพราะ Hermès สามารถเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมและเป็นธุรกิจที่ระดับแรร์หาได้ยากได้แน่ ถ้าพวกเขา สนใจร่วมงานกับพวกเรา
- อย่าวางใจกับการทำธุรกิจแบบเป็นเส้นตรง ตรงไปตรงมา เพราะตัวคุณก็เติบโตมาในแนวทางที่ไม่เหมือนใครอยู่แล้ว ความหมายก็คือ อย่าไปยึดติดกับตำราทำธุรกิจมากจนเกินไป เพราะที่คุณเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะคุณทำนอกตำราธุรกิจนี่แหละ
- ผมยินดีเสมอกับการลงทุนที่ผมทำกับเพื่อนของผมอย่าง Albert Frere ที่เคยเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ของประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งผมเสียใจมากที่ผมไม่ได้ติดตามเขาต่อ เพราะเขาจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่เช่นนั้นผมคงจะร่ำรวยกว่านี้อีกมากเลยทีเดียว
- ผมจะพบปะพูดคุยกับ designer บ่อยครั้งมาก พวกเราพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ พวกเขาโชว์ไอเดียแก่ผม และพวกเราก็หารือเกี่ยวกับการจัดทำแคมเปญโฆษณาและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่พวกเราสามารถทำได้ในอนาคต
- ในหลายต่อหลายครั้งวงออร์เคสตราอย่าง Vienna Philharmonic สามารถบรรเลงเพลงได้โดยไม่มีวาทยากรซะด้วยซ้ำ นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาเก่งมาก ๆ นั่นเอง
- ผมมักจะใช้เวลาสักพักเพื่อที่จะทำความสนิทสนมกับใครสักคน ซึ่งผมจะไม่เร่งรีบเข้าไปแบบกระโตกกระตากในทันทีทันใด มันจะต้องใช้เวลาทำความรู้จักกันก่อน
- เมื่อครั้นที่เราตัดสินใจสร้าง Tower ในเมือง New York ประเทศสหรัฐอเมริกา เราคิดว่าจะต้องเป็นตึกที่บ่งบอกในสิ่งที่เกี่ยวกับพวกเรา ซึ่งมันจะต้องสะท้อนถึงการผสมผสานกันระหว่างความทันสมัยและความคิดสร้างสรรค์ขององค์กรเรา มันคือ symbol มันคือ สัญลักษณ์ ของพวกเรา
- เห็นได้ชัดว่าในไม่ช้า ประเทศจีนจะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งที่ค่อนข้างชัดเจน เพราะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยศักยภาพอยู่แล้ว ด้วยประชากรจำนวนมหาศาลและมีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน
- Louis Vuitton เป็นผู้บุกเบิกมาโดยตลอด
- LVMH เราเป็นกลุ่มธุรกิจเดียวที่มีความสามารถในการจัดการกิจกรรมต่าง ๆ ที่ครอบคลุมธุรกิจ luxury ทั้งหมดได้
- เราจะไม่เชิญแขกเป็นพันคนเพื่อมาดูการแสดงชุดขบวนเสื้อผ้าแฟชั่นที่สามารถเห็นได้ทั่วไปจากราวแขวนเสื้อหรือจากห้องจัดแสดงสินค้า
- พวกเรามีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
- พวกเราไม่ชอบความล้มเหลว เราพยายามที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น นั่นคือเหตุผลที่ผลิตภัณฑ์จำนวนมากของพวกเราทำการผลิตในจำนวนจำกัด
- เหล่าบรรดา designer มักมีความเป็นศิลปินมากกว่าที่จะเป็นวิศวกร
- พวกเราจะไม่ทำให้ธุรกิจตกอยู่ในความเสี่ยงด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดอยู่ตลอดเวลา
- พวกเราได้เรียนรู้ว่าการเป็นอัจฉริยะนั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้
- คู่แข่งส่วนใหญ่มักจะจัดแสดงโชว์ catwalk โดยโชว์เสื้อผ้าที่จะวางขายในระดับ mass ทั่ว ๆ ไป ซึ่งเราไม่สนใจที่จะทำแบบนั้น
- ผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนโดยลูกค้านั้นมักไม่ใช่นวัตกรรม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะตั้งราคาสินค้าในระดับพรีเมี่ยมได้
- ยอดขายจากผลิตภัณฑ์ใหม่คิดเป็น 15% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนยอดขายส่วนใหญ่ที่เหลือมาจากผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิมที่ได้รับการพิสูจน์ ได้รับการยอมรับจากตลาดแล้ว
- คุณต้องพยายามทำความเข้าใจกับเหล่าบรรดาศิลปิน ที่บางครั้งก็เอาเวลาแน่นอนไม่ได้ บางครั้งพวกเขาก็มาทำงานสาย บางครั้งการออกแบบของพวกเขาก็ไม่มีเหตุมีผล และบางครั้งสุดยอดผลงานของพวกเขาก็ไม่ได้มาจากในออฟฟิศ
- เนื่องจากสินค้าของเรามีความต้องการในตลาดเป็นอย่างมาก ดังนั้นการขึ้นราคาสินค้าจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา
- เรายุติธรรมกับเหล่าบรรดาผู้บริโภคอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อค่าเงิน US dollar อ่อนลงเราค่อย ๆ ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นราว ๆ 5% และเมื่อค่า US dollar กลับมาแข็งค่าขึ้นเราก็พร้อมจะปรับราคาสินค้าลงมาที่เดิม
- ผมคิดว่าอุตสาหกรรม luxury นั้นคือกุญแจสำคัญของทวีปยุโรป
- หากคุณคิดและทำตัวเหมือนกับผู้จัดการทั่ว ๆ ไป เมื่ออยู่กับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เช่น มีกฎระเบียบที่เข้มข้น มีนโยบายที่รัดกุม มีข้อมูลอ้างอิงสถิติของลูกค้า มากดดันพวกเขาแล้วล่ะก็ ก็เหมือนกับคุณกำลังทำลายความสามารถของพวกเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- วิธีการบริหารในแต่ละแบรนด์ในเครือขององค์กรเรานั้นก็คือ แต่ละแบรนด์จะดำเนินการกันเองโดยผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของตนเอง
- ศิลปินที่แท้จริงที่ทำให้ LVMH ประสบความสำเร็จได้นั้นก็คือ คนที่ต้องการให้ผู้บริโภคได้สวมใส่เสื้อผ้า ได้ฉีดน้ำหอม ได้สะพายกระเป๋าที่พวกเขาออกแบบ
- ศิลปินส่วนใหญ่นั้น มักจะไม่ประกาศออกมาว่า “ฉันอยากประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์” พวกเขาส่วนใหญ่คงเกลียดที่จะพูดแบบนั้น
- การทำธุรกิจจะต้องสั่งสมประสบการณ์หลายต่อหลายปี มีการฝึกฝนอย่างมากมาย ลองผิดลองถูกอยู่หลายต่อหลายครั้ง แล้วคุณก็จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเหล่านั้น
- ผมเคยพูดกับ designer คนหนึ่งว่า “ทำไมคุณไม่ลองบินไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วดูว่า สาววัยรุ่นญี่ปุ่นเขาแต่งตัวในยามค่ำคืนกันยังไงบ้างดูล่ะ?” ซึ่งผมไม่ได้พูดว่า ให้ไปแล้วก็ดูว่าพวกเขาใส่รองเท้าอะไร แล้วก็ก้อปปี้พวกเขาซะ
- คุณไม่สามารถคิดราคาสินค้าในราคาพรีเมี่ยมได้ หากคุณให้ได้เท่าที่พวกเขาคาดหวัง ความหมายก็คือ คุณต้องทำได้ให้มากกว่าที่พวกเขาคาดหวัง
- การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มันไม่มีทางลัด แม้จะมีความสามารถมากแค่ไหนก็ตามที
- สำหรับผมแล้วเงินไม่ได้เป็นตัวแปรหรือสิ่งสำคัญใด ๆ เพราะสิ่งที่ผมหลงใหลคือการสร้างสรรค์งานศิลปะและการค้นหาความสมบูรณ์แบบในระดับสูงสุดมานานแล้ว
- ผมให้ความสนใจในตัวของ Marc Jacobs ดีไซน์เนอร์แห่งมหานครนิวยอร์กมากกว่าประธานาธิบดีซะอีก
- ในบางธุรกิจไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้
- การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ ขึ้น สำหรับทั้งบริษัทและประเทศต่าง ๆ
- คุณต้องท้าทายตัวเองอยู่เสมอ โดยวิธีการจัดการกับบริษัทของผมก็คือการทำให้ดูเหมือนว่าคุณนั้นกำลังตกอยู่ในสภาวะวิกฤตอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าคุณไม่ทำนั่นเท่ากับว่ารอวันหายนะได้เลย ความหมายก็คือ ผมจะระมัดระวังอยู่เสมอ เมื่อคุณทำงานในบริษัทที่ทุกอย่างดูไปได้สวย เพราะมันจะเป็นกับดักล่อลวงให้คุณชะล่าใจและตกอยู่ในความประมาท
- ที่เราตัดสินใจขายสินค้าบนโลกออนไลน์ก็เพราะมันคืออนาคต แต่ข้อเสียก็คือมักจะมีของปลอมทำเลียนแบบขายอยู่เกลื่อนกลาดด้วยเช่นกัน
- สิ่งที่ผมมักพูดกับทีมอยู่เสมอก็คือ ผมไม่สนใจตัวเลขในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้มากนัก เพราะสิ่งที่ผมสนใจมากกว่าก็คือความปรารถนาในตัวแบรนด์จะยังคงเหมือนเดิม
- ย้อนไปเมื่อตอนปี 1971 ผมได้มีโอกาสเดินทางไปที่สหรัฐอเมริกา แล้วก็ได้มีโอกาสคุยกับคนขับ taxi คนหนึ่งที่มารับผมที่สนามบิน สิ่งแรกที่เขาเอ่ยถึงเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศสก็คือ Dior ตั้งแต่นั้นมาผมก็เลยตระหนักถึงความสำคัญของชื่อแบรนด์ว่ามันทรงพลังมากแค่ไหนต่อคนทั่วโลก
- จากการที่ผมมีอายุมาอย่างยาวนานมากกว่า 70 ปี ผมสามารถบอกได้เลยว่า วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่นั้น มักจะเกิดขึ้นทุก ๆ 10 ปี อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งผมไม่สามารถบอกได้เป๊ะ ๆ ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่มันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น จงเตรียมตัว เตรียมธุรกิจของคุณให้พร้อมรับมือกับวิกฤตอยู่เสมอ
- ไอเดียนั้นไม่สำคัญเท่าการทำให้ไอเดียนั้นมันเกิดขึ้นจริง เพราะไม่ว่าใครก็มีไอเดียที่คล้ายกันเหมือนกันได้ แต่มีคนที่ทำให้ไอเดียเป็นจริงขึ้นมาได้นั้นมีอยู่แค่ไม่กี่คน
- ผมมักจะไม่ชอบใช้คำว่าสินค้า luxury สินค้าหรูหรา เพราะมันมักจะแฝงไปด้วยความหมายอีกนัยหนึ่งว่า เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย สินค้าไร้ค่า สินค้าไร้ประโยชน์ แต่ผมมักจะตีความว่าสินค้าที่มีราคาสูงได้นั้น ต้องมาจากสินค้าที่มีคุณภาพสูง บวกกับการใส่ความคิดสร้างสรรค์ ใส่นวัตกรรมใหม่ ๆ ลงไปในสินค้า นั่นคือความหมายของผลิตภัณฑ์ที่ดี
- อย่าเริ่มทำธุรกิจด้วย marketing หรือทำการตลาดก่อน เพราะสิ่งที่เราโฟกัสจริง ๆ ก็คือ การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดี สร้างสินค้าที่ผู้คนต้องการมากที่สุดก่อน
- ลงทุนในสตาร์ทอัพที่ต้องการเติบโต และให้เวลาพวกเขาเติบโต ยกตัวอย่างเช่น ผมลงทุนใน SEPHORA ตั้งแต่ปี 1997 ที่ ณ ปัจจุบันกลายเป็นร้านค้าปลีกเครื่องสำอางยี่ห้อชั้นนำที่น่าจะร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- ดูแลธุรกิจเหมือนคนในครอบครัว เพราะอย่างตัวผมเอง ผมก็ให้ลูก ๆ มารับช่วงทำงานต่อในธุรกิจ ส่วนเวลาที่คนอื่น ๆ ที่เข้ามาหาเรา พวกเขาก็มักจะเข้ามาในลักษณะที่ทำเป็นกิจการครอบครัวซะส่วนใหญ่
- การจ้างงานคนหนุ่มสาวนั้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีฝีมือในการเย็บปักถักร้อยมาก่อน แต่พอเรานำพวกเขามาฝึกอบรมจนเชี่ยวชาญแล้วนั้น พวกเขาสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ในอัตราเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 90 เลยทีเดียว
- พวกเราคือองค์กรที่อยู่บนพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมของพวกเรานั้นสร้างตลาดขึ้นมา ไม่ใช่ในทางกลับกัน
- AI ปัญญาประดิษฐ์นั้น จะเข้ามาช่วยพูดคุย ตอบโต้และมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น AI จะช่วยเลือกและแสดงผลการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางสีต่าง ๆ อย่างสีลิปติก หรือช่วยเลือกชุดแต่งกาย ที่สามารถทดลองใส่แล้วมองได้แบบรอบตัว
- ในปี 1991 ผมได้มีโอกาสไปเปิดร้าน Louis Vuitton ร้านแรกที่ประเทศจีน ที่ ณ เวลานั้นประเทศจีนยังไม่มีรถยนต์ มีแต่คนขี่แต่จักรยานซะด้วยซ้ำ ผมเลยถามทีมงานว่า แน่ใจนะว่าจะขายของที่นี่ได้ ซึ่งทีมงานก็ให้เหตุผลมาอยู่สองข้อ ข้อแรก มันเป็นการดีที่มาเปิดในประเทศที่ไม่มีคู่แข่งเลยแม้แต่รายเดียว และอย่างที่สองที่เขาแปลกใจมากก็คือ หลังจากเปิดร้านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ เราก็สามารถขายสินค้าที่มีราคาแพงที่สุดในร้านได้ ทั้ง ๆ ที่ในประเทศดังกล่าวมีแต่คนขี่จักรยาน
- ถ้าหากคุณเชื่อว่าวิสัยทัศน์ของคุณนั้นมันน่าจะใช้ได้ผล ดังนั้น คุณจงอยู่อย่างอดทนจนถึงตอนจบ
- คอยอัพเดทภายในบริษัทกับพนักงานอยู่เสมอ สำรวจทุกซอกทุกมุม อย่าปล่อยปละละเลย แม้ว่าคุณจะนั่งในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงแล้วก็ตามที
- พวกเราพยายามที่สร้างธุรกิจขนาดใหญ่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ของเราเกณฑ์มาตรฐานเดียวกันก็คือ การมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ในทุกสายการผลิต ทุก product เพื่อจำหน่ายไปทั่วโลก
- ในทุก ๆ เช้า ผมตื่นนอนด้วยความคิดก่อนที่จะออกไปทำงานในทุก ๆ วันว่า วันนี้จะต้องเป็นวันที่สนุกแน่ ๆ
- ผมดีใจที่มีครอบครัวที่ยอดเยี่ยม ผมมีลูก ๆ ทุกคนที่สนใจในธุรกิจของครอบครัว
Resources
- https://www.azquotes.com/author/19941-Bernard_Arnault
- https://www.brainyquote.com/authors/bernard-arnault-quotes
- https://inzpy.com/fashion/lvmh/
- https://thestrive.co/bernard-arnault-quotes/
- https://quotefancy.com/bernard-arnault-quotes
- http://www.quoteswise.com/bernard-arnault-quotes.html
- https://youtu.be/IlAfeuY0iSc
- https://youtu.be/wRZvHxUJUoE