Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

Quote

100 ข้อคิด จาก Lionel Messi | Blue O’Clock Podcast EP. 34

Lionel Messi นักฟุตบอลอาชีพ ชาวอาร์เจนตินา ที่เล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เจ้าของรางวัล Ballon d’Or รางวัลลูกบอลทองคำ นักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในโลก 7 สมัย สู่การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก FIFA World Cup 2022 ในวัย 35 ปี และนี่คือ 100 บทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากเขา

  1. เป้าหมายจะมีความสำคัญก็ต่อเมื่อเป้าหมายนั้น ช่วยให้ทีมสามารถชนะในเกมได้เท่านั้น
  2. ความปรารถนาของผมคือการทำให้ดีขึ้น ดีขึ้นไปอีก ในทุก ๆ วัน
  3. บางครั้งคุณก็ต้องยอมรับว่า คุณไม่สามารถที่จะเอาชนะได้อยู่ตลอดเวลา
  4. คุณจำเป็นที่จะต้องเสียสละ ทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อให้ได้ความสามารถเหล่านั้นมา
  5. ไม่ว่าจะเป็นการทำประตูหรือชนะเกมใด ๆ ผมก็ยังไม่หนำใจ
  6. วันที่คุณคิดว่า คุณไม่สามารถพัฒนาให้ดีไปกว่านี้ได้แล้วนั้น นั่นคือวันที่น่าเศร้าของนักกีฬาคนดังกล่าว
  7. ผมเลือกที่จะพาทีมคว้าแชมป์มากกว่าการที่ผมทำประตูได้หรือได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอะไรทำนองนั้น
  8. ผมคิดและกังวลเกี่ยวกับการเป็นคนดี มากกว่าการเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก เพราะเมื่อถึงคราวเกษียณไปแล้ว ผมจะยังคงเหลืออะไรอยู่ ผมหวังว่า ผู้คนจะจำได้ว่าผมเป็นคนที่ดี
  9. ผมมักจะพูดย้ำอยู่เสมอว่า ผมต้องการทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับอาร์เจนตินาในทุก ๆ ด้าน และผมไม่เคยพยายามที่จะมีปัญหากับใครต่อใคร
  10. ในวงการฟุตบอลก็คล้าย ๆ กับวงการนาฬิกา ที่เมื่อกล่าวถึงพรสวรรค์กับความสง่างามแล้วนั้น มันจะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าหากปราศจากความเข้มงวดกวดขันและความถูกต้องแม่นยำ
  11. ผมไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนสัญชาติ ผมเป็นชาวอาร์เจนตินามาโดยตลอด ผมภูมิใจที่ได้เกิดเป็นชาวอาร์เจนตินา แม้ว่าผมจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่นั่นแล้วก็ตามที ซึ่งผมชัดเจนกับเรื่องนี้ตั้งแต่ยังเด็กอยู่ และไม่เคยเปลี่ยนแปลง
  12. ไม่มีอะไรทำให้อิ่มเอมใจไปมากกว่าการได้เห็นเด็ก ๆ มีรอยยิ้ม มีความสุข ซึ่งผมมักจะช่วยเท่าที่ผมสามารถช่วยได้ แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นแค่การเซ็นต์ลายเซ็นต์ก็ตาม เพราะรอยยิ้มของเด็ก ๆ นั้นมีค่ามากเกินกว่าเงินทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกใบนี้
  13. เมื่อการแข่งขันฤดูกาลใหม่เริ่มต้นขึ้น เป้าหมายแรกคือการพาทีมชนะ ส่วนสถิติส่วนตัวต่าง ๆ ของผมนั้นเป็นเรื่องรองลงมา
  14. ตอนนี้การที่ผมมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น มันทำให้ผมมีโอกาสที่จะช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการมันจริง ๆ ได้ โดยเฉพาะเหล่าบรรดาเด็ก ๆ
  15. ผมคิดอยู่เสมอว่า ผมต้องการเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพ ซึ่งผมก็รู้ดีว่าผมจะต้องเสียสละหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อให้ได้เล่นฟุตบอลอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น การที่จะต้องออกจากบ้านเกิดอย่างอาร์เจนตินา, ไม่ได้อยู่กับครอบครัวและต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน, ต้องเปลี่ยนเพื่อนที่คบหากันมานาน แต่ทุกอย่างที่ผมทำลงไปนั้น ผมทำเพื่อฟุตบอล ผมทำเพื่อทำตามความฝันของผมให้สำเร็จ
  16. สิ่งที่ผมทำทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลนั้น เพราะผมรักที่จะทำมัน และฟุตบอลคือทุกสิ่งทุกอย่างของผม
  17. ทุกวันที่ผมเล่นฟุตบอลผมสนุกกับมันมาก ก็เหมือนกับเด็ก ๆ ที่เล่นฟุตบอลตามท้องถนน และเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมหมดสนุก ผมก็จะเลิกเล่นฟุตบอล
  18. ผมไม่ค่อยได้คิดภาพในหัวเกี่ยวกับการเล่นฟุตบอลมากนัก เพราะผมมักจะใช้สัญชาติญาณในการดำเนินชีวิตมาจนถึง ณ จุด ๆ นี้
  19. ผมตื่นแต่เช้าและฝึกจนเกินเวลาวันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า ซึ่งผมใช้เวลาหลายสิบปีเพื่อมายืน ณ จุด ๆ นี้ ที่ดูเหมือนว่าเป็นการประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืน
  20. เมื่อตอนเด็ก ๆ ผมทุ่มเทให้กับฟุตบอลเป็นอย่างมาก แม้ว่าเพื่อนของผมจะชวนไปเที่ยวข้างนอก และผมก็ชอบการออกไปเที่ยวข้างนอกเป็นอย่างมาก แต่ผมมีซ้อมในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นมันทำให้ผมรู้ว่า เวลาใดทำได้หรือทำไม่ได้ และผมก็เลือกที่จะไม่ไปข้างนอก เพื่อเตรียมพร้อมซ้อมฟุตบอลในวันรุ่งขึ้น
  21. เงิน ไม่ใช่ปัจจัยที่กระตุ้นให้ผมนั้นอยากเล่นฟุตบอล เงินไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นหรือทำให้ผมเล่นฟุตบอลได้ดีขึ้น แม้ว่าจะทำให้ผมมั่งคั่งร่ำรวยขึ้นก็ตามที ผมแค่มีความสุขเมื่อลูกฟุตบอลอยู่ที่เท้าของผม แรงจูงใจของผมมาจากการที่ผมได้ลงเล่นในเกมที่ผมรัก และแม้ว่าผมจะไม่ได้รับค่าตัวสำหรับนักฟุตบอลอาชีพ ผมก็จะยังคงเล่นฟุตบอลต่อไปแม้จะไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆ ก็ตามที
  22. การตัดสินใจที่ดีที่สุดไม่ได้เกิดจากสิ่งที่อยู่ในจิตใจ แต่มันอยู่ในสัญชาตญาณของตัวคุณ
  23. ผมมักจะไม่ค่อยได้ไปงานปาร์ตี้สังสรรค์หรืองานอีกหลายอย่าง เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมเสียสละเพื่อความสำเร็จ
  24. คุณสามารถเอาชนะทุกสิ่งได้ หากคุณรักในสิ่งนั้นมากพอ
  25. สิงโตนั้นย่อมไม่กังวลกับความคิดเห็นของแกะ
  26. ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรบาร์เซโลน่า เพราะคน ๆ นั้นในความคิดของผมก็คือ Ronaldinho ซึ่งผมยังจำวันที่เขาส่งลูกให้ผมยิงเป็นลูกแรกที่สโมสรแห่งนี้ เขาไม่เพียงแค่ส่งลูกให้ผม เขากำลังส่งต่อคบเพลิงให้ผมด้วย
  27. ผมต้องการเป็นแชมป์โลก แต่ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนมุมมองของคนอื่นที่มีต่อตัวผมหรือต้องการบรรลุความยิ่งใหญ่อย่างที่คนอื่น ๆ เขาพูดกัน แต่ผมต้องการบรรลุเป้าหมายเพื่อทีมชาติ และเพิ่มถ้วยแชมป์โลกใน lists ของผม
  28. บางคนบอกว่าสไตล์การเล่นของผมนั้นเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ผมก็ไม่ค่อยชัวร์กับคำพูดดังกล่าวสักเท่าไหร่นัก เพราะพูดตามตรงก็คือ ผมเล่นด้วยสัญชาตญาณมากกว่า เพราะเวลาที่ผมอยู่ในสนาม ผมมักจะมองหาการเคลื่อนไหวหรือการตัดสินใจที่ดีที่สุดอยู่ตลอดเวลา และผมจะไม่ทำในสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามคาดหวัง
  29. มีสิ่งที่สำคัญในชีวิตมากกว่าแค่เพียงการแพ้หรือชนะภายในเกมกีฬา
  30. คุณต้องสู้เพื่อไปให้ถึงฝันให้ได้ คุณจำเป็นที่จะต้องเสียสละและขยันฝึกฝนทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มันมา
  31. ผมไม่ได้ต้องการทรงผมที่เท่ที่สุด หรือมีร่างกายที่ดีที่สุด ขอเพียงส่งลูกบอลมาที่เท้าของผม แล้วผมจะทำให้ดูว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง
  32. การได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและสวยงาม แต่ถ้าไม่ได้แชมป์มันก็ไม่มีความหมายอะไรเลย
  33. แรงจูงใจในการเล่นฟุตบอลของผมในแต่ละวัน ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับผมเลย เพราะสิ่งที่มีความหมายกับผมมากที่สุดก็คือการที่ผมได้เล่นฟุตบอล
  34. ในทุก ๆ ครั้งที่เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ ผมจะเริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่จะพยายามทำทุกสิ่งทุกสิ่งอย่างในปีนี้ให้สำเร็จ โดยไม่นำไปเปรียบเทียบกับซีซั่นที่ผ่าน ๆ มา
  35. ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสายอาชีพของผมนั้นคือเรื่องราวที่สุดแสนพิเศษ แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะสิ่งเหล่านั้นจะทิ้งร่องรอยเอาไว้บนตัวคุณ กลายมาเป็นตัวคุณจนถึงทุกวันนี้
  36. ผมเป็นคนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่มีชีวิตเฉกเช่นเดียวกับคนทั่ว ๆ ไป ที่เมื่อผมลงเล่นฟุตบอลเสร็จแล้ว ทำงานเสร็จแล้ว ผมก็ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว อยู่กับเพื่อนฝูง และผมก็ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่ว ๆ ไป
  37. ผมชอบเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ๆ และผมก็ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาโดยตลอด ผมไม่เคยคิดถึงงานอื่น ๆ เลย
  38. เมื่อผมได้ลงเล่นฟุตบอล สิ่งที่ผมจะทำก็คือ ผมจะทำให้ดีที่สุดที่ผมสามารถทำได้ และผมไม่เคยคิดกังวลว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ จะทำฟาวล์ใส่ผม หรือทำให้ผมบาดเจ็บหรือไม่ก็ตามที เพราะการมีความกังวลในเรื่องต่าง ๆ นั้นจะเป็นภัยต่อตัวคุณเอง
  39. ผมยังคงมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น ผมต้องการที่จะยิงลูกฟุตบอลให้มีประสิทธิภาพเท่า ๆ กันด้วยเท้าทั้งสองข้าง
  40. ผมพยายามที่จะใช้ความกดดันมาช่วยผมในทุก ๆ เกมที่ลงเล่น เพราะความกดดันนั้น มันทำให้ผมสามารถดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของผมออกมาได้ ซึ่งผมก็ชอบมันมาก แต่ในความเป็นจริงผมไม่รู้สึกกดดันอะไร ตรงข้ามซะด้วยซ้ำ ผมมักจะรู้สึกสนุกไปกับการได้ลงเล่น นั่นแหละคือการเล่นฟุตบอลของผม
  41. ผมภูมิใจเป็นอย่างที่สุดทุกครั้งที่ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้ารางวัล คว้าแชมป์ได้ ผมรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ผมสามารถทำได้ในการเล่นฟุตบอล คือการนำพาทีมให้ประสบความสำเร็จ
  42. ผมโชคดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม ที่ช่วยทำให้ผมดูดี และพวกเขาก็สมควรได้รับเครดิตอย่างที่สุดสำหรับความสำเร็จของผม พอ ๆ กับที่ผมทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมอย่างหนัก
  43. ผมไม่เคยพอกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผมมักจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองอยู่เสมอ และพยายามทำให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน
  44. ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ผมดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา และผมไม่เคยสูยเสียความหลงใหลในการเล่นฟุตบอลเลย
  45. ไม่ว่าจะเป็นแมตช์กาแข่งขันกระชับมิตร หรือเพื่อเก็บแต้ม หรือนัดชิง หรือเกมใด ๆ ก็ตาม ผมก็เล่นเหมือนกัน เพราะผมพยายามเล่นให้ดีที่สุดในทุก ๆ ครั้งที่ผมลงสนาม เพื่อทีม เพื่อตัวผมเอง เพื่อแฟน ๆ และพยายามเอาชนะให้จงได้
  46. เมื่อใดก็ตามที่ปัญหาเกิดขึ้น มันดูเหมือนว่าผู้คนพยายามที่จะตำหนิผมสำหรับทุกสิ่ง ที่แม้ว่าผมจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวก็ตามที นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมจึงโฟกัสในสิ่งที่ผมรู้เป็นอย่างดี นั่นก็คือการเล่นฟุตบอล และผมจะพยายามระมัดระวังในสิ่งที่ผมพูด เพราะผู้คนมักจะพยายามบิดเบือนคำพูดของผม
  47. ผมไม่มีลูกยิงประตูที่สวยที่สุด แต่ผมมักจะจำประตูที่สำคัญ ๆ ได้มากกว่าอย่างเช่นประตูที่ผมทำได้ในการพาทีมคว้าแชมป์
  48. ความทะเยอทะยานของผมคือการที่ดีขึ้นไปได้กว่านี้อีกอยู่ตลอดเวลา
  49. เมื่อตอนที่ผมเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งใหม่ ๆ Diego Maradona ตำนานลูกหนังของอาร์เจนตินา บอกผมว่า “จงเล่นให้สนุกและเล่นอย่างที่คุณรู้” และคำแนะนำดังกล่าวก็อยู่กับผมนับตั้งแต่นั้นมา มันเป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดที่ผมเคยได้รับมาเลย
  50. หากผมไม่มีเพื่อนร่วมทีม ผมก็ไม่มีอะไรเลย ไม่มีตำแหน่ง เกียรติยศ ไม่มีสักอย่างเลย
  51. ผมไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความสูงของผมเลย เพราะผมตัวเล็กที่สุดในโรงเรียนและในทีมอยู่เสมอ
  52. ผมจะส่งไม้ต่อให้กับเด็กรุ่นใหม่ที่สนุกไปกับการเล่นฟุตบอล เล่นฟุตบอลตามแบบฉบับที่พวกเขาต้องการจะเล่น มีความพยายาม เอนจอยไปกับมัน และใช้ประโยชน์จากมันให้ได้มากที่สุด
  53. ผมเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ ผมเล่นทั้ง เช้า สาย บ่าย เย็น จนมืดค่ำ
  54. พยายามทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีเหตุผลมากกว่าหนึ่งข้อที่จะทำให้พวกเขาจับจ้องที่เท้าของคุณ
  55. ผมรู้ว่ามันสำคัญมากแค่ไหนที่มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพราะในช่วงวัยเด็กผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะผมมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของฮอร์โมนการเจริญเติบโตของร่างกาย ซึ่งถ้าผมไม่ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะต้องฉีดฮอร์โมนราคาแพงในทุก ๆ วัน ผมคงไม่สามารถที่จะเติมเต็มความฝันของผมได้
  56. ผู้เล่นคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผมแล้วบอกกับผมว่า เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้อยู่ในสนามเดียวกันกับผม ซึ่งผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ดีที่จะพูดเมื่อทีมของคุณพึ่งแพ้ไป
  57. ผมไม่เคยมีเจตนาที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับตำนานอย่าง Diego Maradona เลย ผมแค่ต้องการที่จะสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเองที่ผมสามารถทำได้สำเร็จก็เท่านั้นเอง
  58. การกลายเป็นพ่อคนนั้นช่วยเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีขึ้นและผมก็สนุกกับการเป็นพ่อคนเอามาก ๆ
  59. เมื่อผมแพ้ในการแข่งขัน ผมรู้สึกแย่เมื่อเราแพ้
  60. สมัยก่อนเวลาที่ผมแพ้หรือทำบางอย่างผิดพลาดไป ผมจะไม่คุยกับใครเลยอยู่ 3-4 วัน จนกระทั่งเหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไป แต่มาตอนนี้ พอผมกลับมาที่บ้านหลังจากแข่งขันเสร็จ ผมได้เจอหน้าลูกชายของผม ทุกอย่างก็ดูโอเค ผมคลายความกังวลทั้งหมดทิ้งไป
  61. ครอบครัวจะอยู่กับผมเสมอเมื่อผมต้องการพวกเขา และบางครั้ง พวกเขาก็รู้สึกมีอารมณ์ร่วมรุนแรงมากกว่าผมซะอีก
  62. เมื่อผมได้ยินผู้คนพูดถึงและคิดถึงเกี่ยวกับตัวผม นั่นมันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก แต่ผมก็พยายามที่จะไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากจนเกินไป
  63. มีนักกีฬาหลายคนมากที่ผมชื่นชมพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น LeBron James, Rafael Nadal, Roger Federer และ Cristiano Ronaldo
  64. มีบางอย่างลึก ๆ ในตัวตนของผม คอยนำพาให้ผมต้องทำมันให้ได้และพยายามที่จะเอาชนะให้ได้
  65. ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งที่สุด ผมก็แค่ผู้เล่นอีกคนหนึ่งในสนาม เพราะเมื่อเราอยู่ในสนามเราทุกคนต่างก็เหมือนกันเมื่อตอนเกมเริ่มต้นขึ้น
  66. จงใช้เท้าของคุณพูดให้มากกว่าคำพูดที่ออกมาปากจากของคุณ
  67. ทุกวันนี้ผมมาไกลเกินกว่าที่ฝันเอาไว้แล้ว ผมอยากขอบคุณฟุตบอลที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้
  68. ผมไม่ใช่คนประเภทที่ต้องตะโกนและกรีดร้องก่อนการเริ่มต้นการแข่งขัน
  69. โครงการนักเตะเยาวชนที่ Barcelona นั้น ถือได้ว่าเป็นโปรแกรมหนึ่งที่ดีที่สุดในโลก โดยในตอนเด็ก ๆ พวกเขาสอนคุณ จงอย่าเล่นเพื่อเอาชนะ แต่จงเติบโตและพัฒนาความสามารถขึ้นในฐานะผู้เล่นที่ดี
  70. ผมมักจะวิเคราะห์ตนเองอยู่เสมอ และยอมรับในสิ่งที่ดีและสิ่งที่แย่ในตัวของผมเอง ซึ่งนั่นคือลักษณะนิสัยเฉพาะตัวที่ส่งผลให้ผมประสบความสำเร็จ
  71. จริง ๆ ผมควรจะเข้าไปหานักจิตแพทย์ แต่ผมก็ไม่เคยไปเลย เพราะสำหรับผมแล้วมันยากที่จะตามขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านั้น แม้ว่าผมจะต้องการพึ่งพาพวกเขาจริง ๆ นั่นแหละ แต่ผมเป็นคนประเภทที่ชอบเก็บทุกอย่างเอาไว้คนเดียว ไม่ชอบเปิดเผยให้คนอื่นรู้ และผมก็ไม่เคยไปก้าวก่ายคนอื่นเช่นกัน
  72. ผมชอบทำประตู แต่ผมก็อยากที่จะมีเพื่อนกับคนที่ผมเคยเล่นฟุตบอลด้วยกัน
  73. ที่สโมสร Barcelona ให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับผม พวกเขาใช้โอกาสที่มีกับตัวผมในขณะที่ไม่มีใครคิดจะทำแบบนั้นเลย
  74. อย่าให้ความสำเร็จในอดีตมาทำให้คุณมีความปรารถนาที่จะชนะน้อยลง เพราะผมเชื่อว่ายังมีพื้นที่ว่างให้สำหรับนักกีฬาที่พัฒนาตนเองอยู่เสมอ
  75. ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผู้คนยกย่องให้ผมเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในทีม แต่ทีมไม่ใช่มีแค่ผม ในทีมยังมีนักเตะเก่ง ๆ อยู่อีกมาก
  76. ผมคิดว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่อยู่กับสโมสร Bacelona นั้นคือตอนที่ผมลงเล่นนัดแรกเปิดตัวที่ Barcelona ที่เป็นเหมือนวันที่ความฝันของผมนั้นได้กลายเป็นจริงขึ้นมาในที่สุด ที่ได้ลงเล่นในฐานะนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว
  77. ในช่วงปี 2018 Messi ได้ให้สัมภาษณ์ว่า Cristaino Ronaldo คือผู้เล่นที่ดีที่สุดในยุคนั้น เขาบอกว่า ผมได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากเขามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น footwork, เทคนิค, ความเร็ว และวิธีการวิ่งฝ่าแบบลุยเดี่ยวของเขา มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งเอามาก ๆ
  78. ตอนที่ผมอยู่ Barcelona ผู้คนมักชอบเปรียบเทียบผมกับ Cristiano Ronaldo ตอนที่อยู่ทีม Real Madrid ว่าใครเก่งกว่ากัน ซึ่งสำหรับผมแล้ว มันไม่สำคัญว่าใครเก่งกว่ากัน เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ ทีม Barcelona ดีกว่าทีม Real Madrid
  79. มันเป็นช่วงเวลาที่ยากมากสำหรับผมและครอบครัวที่จะต้องย้ายถิ่นฐานจาก Spain มาที่ Paris
  80. ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับแฟน ๆ ในสนาม เพราะในช่วงที่เกิดโรคระบาดนั้น ไม่เปิดให้กองเชียร์เข้ามาชมในสนาม ไม่มีเสียงเชียร์ดังกึกก้อง ไม่มีเสียงจากแฟน ๆ เรียกชื่อของผม
  81. ผมสัญญากับลูก ๆ เอาไว้ว่า สักวัน ผมจะกลับมามีส่วนร่วมกับทีม Barcelona ในฐานะใดฐานะหนึ่งอย่างแน่นอน
  82. ช่วงเวลาที่ยากที่สุดสำหรับตอนที่อยู่ที่สโมรสร Barcelona ก็คือ วันที่ผมจะต้องจากสโมสรนี้ไป เพราะผมอยู่กับสโมสรนี้มาตั้งแต่อายุ 13 ปี และอยู่ที่นี่มา 21 ปี
  83. ผมขอขอบคุณทั้งสื่อมวลชล โค้ช เพื่อนร่วมทีมสโมสร เพื่อนร่วมทีมชาติ ที่มีส่วนร่วมให้ผมมายืน ณ จุด ๆ นี้
  84. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงยอมรับมัน และเดินหน้าต่อไป
  85. คุณสามารถเรียนรู้อะไรได้หลายสิ่งหลายอย่างจากความพ่ายแพ้ จากความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
  86. ผมค่อนข้างโชคดีที่ผมไม่ค่อยได้รับบาดเจ็บรุนแรงตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอาชีพนักเตะนี้
  87. ผมมักจะชอบพูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ผมจะไม่พูดให้ร้ายใคร และความคิดเห็นจากผู้คนก็มักจะมีทั้งจริงไม่จริง ดังนั้น สิ่งสำคัญสำหรับผมก็คือการพูดแต่ความจริง
  88. พ่อของผมเล่าว่า ตอนที่เซ็นต์สัญญากับผู้บริหาร Barcelona ในร้านอาหารนั้น ไม่มีกระดาษเลยสักแผ่น พ่อผมจึงใช้กระดาษทิชชู่ที่เอาไว้เช็ดปากเพื่อเขียนสัญญาให้ผู้บริหารสโมสรเซ็นต์แทน
  89. ผมค่อนข้างรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง ในตอนที่ผมเล่นได้ดีกับสโมสรต่างประเทศ แต่กับทีมชาตินัดแรก ๆ ผมกลับทำผลงานได้ไม่ค่อยดี ทำให้แม้ว่าจะมีผู้คนทั่วโลกต่างชื่นชอบแต่คนในประเทศอาร์เจนตินากลับวิจารณ์ผมอย่างหนัก
  90. ถ้าถามว่า ถ้าผมเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้วผมจะทำอะไรต่อ ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ผมแค่อยากคิดถึงแต่ตอนนี้ก่อน
  91. ทุกสโมสรต่างเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม แต่การที่จะคว้าแชมป์ได้นั้น คือการวัดกันว่า ใครมีความผิดพลาดน้อยที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้หลุดจากโผการแข่งขัน เพราะทีมที่ดีที่สุดไม่ได้ชนะเสมอไป
  92. แม้ว่าผมจะไม่รู้จักนักเตะในทีมใหม่มากนักทั้งในสนามและนอกสนาม แต่สิ่งที่ทำให้ผมได้เรียนรู้จากเพื่อนร่วมทีมได้ดียิ่งขึ้นก็คือ การที่ผมเล่นให้ดีที่สุดในระหว่างที่เล่นกับเพื่อนร่วมทีมในเกมการแข่งขันจริง ๆ ซึ่งเราเรียนรู้จากการลงเล่นด้วยกันจริง ๆ และเริ่มเข้าขากันมากขึ้นเรื่อย ๆ
  93. การที่มีแฟน ๆ ในสนามร้องกู่ก้องตลอดการแข่งขัน 90 นาทีอย่างต่อเนื่องนั้น มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ
  94. มันสำคัญมากที่แดนกลางของทีมนั้น จำเป็นที่จะต้องรู้ทักษะและสไตล์การเล่นของผู้เล่นทุกคน เพื่อที่จะได้จ่ายบอลให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งยิ่งซ้อมด้วยกันบ่อยมากเท่าไหร่ เล่นด้วยกันเยอะมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เข้าใจเพื่อนร่วมทีมได้มากขึ้น
  95. ตอนที่ผมอยู่ที่ Barcelona นั้น พวกเราอยู่กับลูกบอลทั้งวัน
  96. เมื่อทีมเรามีโค้ชที่ดี ผมก็สามารถพูดได้เต็มปากว่า เราพร้อมที่จะออกไปคว้าชัยชนะไม่ว่าจะเจอกับทีมใดก็ตาม
  97. แนวทางการเล่นฟุตบอลในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก เพราะนักเตะแต่ละคนถูกบังคับให้เล่นตามแบบแผนแบบเป๊ะ ๆ แม้กระทั่งนักเตะอายุน้อยคนรุ่นใหม่ ๆ ก็ต้องทำตาม จนแนวการเล่นในปัจจุบันแทบจะเหมือน ๆ กันหมด
  98. เวลาที่ผมกลับมาที่บ้านผมคือคนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ซึ่งการเป็น Messi ในสายตาของคนอื่นที่คอยยกย่อง ชื่นชมอยู่ตลอดเวลานั้น ทำให้ผมตระหนักได้ว่า อย่าได้หลงระเริง หรือลืมตัวตนดั้งเดิมของเรา
  99. เวลาได้แชมป์เราควรฉลองแชมป์ เวลาวิเคราะห์การเล่นที่ผ่านมาพักเอาไว้ก่อน
  100. ในที่สุดผมและทีมก็สามารถพูดได้แล้วว่า เราคือแชมป์ฟุตบอลโลก

Resources