4 Life Hacks ของคนรวยและคนที่ประสบความสำเร็จเขาใช้กัน
Brian Tracy นักคิด นักพูดและนักเขียนชื่อดังด้านการพัฒนาตนเอง ที่มีผลงานเขียนกว่า 70 เล่ม บรรยายมาแล้วกว่า 5,000 ครั้งตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ที่สามารถช่วยให้ผู้คนนับล้านมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันเขามีทรัพย์สินอยู่ที่ 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 450 ล้านบาท ได้ให้คำแนะนำว่า เทคนิคหรือสูตรลับในการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วนั้น อาจมาจากสูตรง่าย ๆ ที่หลายคนนึกไม่ถึง ซึ่งบางอย่างก็เป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดาแถมยังดูน่าเบื่อด้วยซ้ำไป แต่หารู้ไม่ว่าไอ้เรื่องที่น่าเบื่อและดูแสนจะธรรมดาเหล่านี้ เหล่าบรรดามหาเศรษฐีและคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในแต่ละสายอาชีพนั้นมักทำกัน และนี่ก็คือ 5 Life Hacks ที่ไม่ลับที่คุณก็สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน
Brian Tracy ได้อ้างถึง Peter Drucker นักคิด นักเขียนและที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการได้เคยกล่าวเอาไว้เกี่ยวกับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงที่มีติดตัวพวกเขาว่า “Efficiency is doing things right. Effectiveness is doing the right things” หมายถึง การทำในสิ่งที่ถูกต้องและทำอย่างถูกต้อง
Life Hack ข้อที่ 1 – ตื่นนอนแต่เช้าตรู่ (Wakeup early)
คนส่วนใหญ่แค่นึกถึงตอนที่นาฬิกากำลังจะส่งเสียงปลุก แค่นั้นก็ราวกับเหมือนฝันร้ายน้อย ๆ ในแต่ละวัน ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่ชอบใครเคยชอบมันเลย แต่จะไม่ตั้งปลุกก็เสี่ยงที่จะตื่นสายไปทำงานทำการไม่ทันอีก หรือบางคนก็ตั้งปลุกถี่ ๆ ทุก ๆ 5 นาที แถมยังมีคนที่ทำแบบนี้ สุดท้ายก็ตื่นสายอยู่ดี แต่ในขณะที่คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น พวกเขามักจะเข้านอนเร็วและตื่นแต่หัวค่ำโดยอัตโนมัติ ซึ่งหากคุณเคยเข้านอนเร็วคุณจะสัมผัสประสบการณ์ที่ว่า ตื่นได้เองโดยที่ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกเลยแม้แต่น้อย แถมรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ทั้ง ๆ ที่ท้องฟ้ายังสลัว ๆ อยู่เลยด้วยซ้ำ
และเมื่อคุณนอนเต็มอิ่ม ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่อแจ่มใส ในชั่วโมงแรกที่คุณตื่นขึ้นมานั้น เป็นชั่วโมงที่หากนำไปทำอะไรสักอย่างนึงกับชีวิตแล้วนั้น มันจะเป็นช่วงเวลาที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวมักปราศจากสิ่งรบกวนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น ยังไม่มีคนพลุกพล่าน ไม่มีรถพลุกพล่าน มลพิษทางเสียงไม่ค่อยมี การแจ้งเตือนทางโซชียลมีเดียก็ไม่ค่อยมีมารบกวน แถมในเช้าวันใหม่คุณยังหัวโล่งสุด ๆ
โดยคนที่ประสบความสำเร็๗อย่างสูงนั้น ส่วนใหญ่พวกเขามักตื่นนอนกันก่อน 6 โมงเช้า สมมติว่าถ้าปกติคุณตื่นนอนตอน 6โมง หากเปลี่ยนใหม่เป็นตื่นนอนตอนตี 5 ดังนั้น ในแต่ละวันคุณจะมีเวลาเพิ่มขึ้นมา 1 ชั่วโมง หรือมีเพิ่มขึ้นมา 30 ชั่วโมงในแต่ละเดือน หรือมีเวลาเพิ่มขึ้นมา 365 ชั่วโมงในแต่ละปี นั่นก็หมายความว่า ถ้าคุณใช้ช่วงเวลานี้ในการทำให้ชีวิตก้าวหน้าขึ้น ตัวคุณคนใหม่จะเก่งขึ้นกว่าตัวคุณคนเก่า ถึง 365 ชั่วโมงต่อปี
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นมาอีกนิด เช่น หากต้องวิ่งแข่งขันกันเพื่อให้ถึงเส้นชัย ถ้าใน 1 ชั่วโมงคุณวิ่งได้ไกล 10 กิโลเมตร ดังนั้นใน 1 ปี คุณคนใหม่จะนำหน้าคุณคนเก่าถึง 365×10 = 3,650 กิโลเมตรเลยทีเดียว และถ้าคุณคนใหม่ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตลอด 10 ปี ในขณะที่คุณคนเก่ายังใช้ชีวิตแบบเดิม คุณคนใหม่ก็จะวิ่งไกลกว่าถึง 36,500 กิโลเมตร หรือหากคิดเป็นระยะทางความยาวตามเส้นผ่านศูนย์รอบโลก คุณคนใหม่จะวิ่งนำคุณคนเก่าอยู่เกือบ 3 รอบโลกเลยทีเดียว (เชรดดดดด)
ทีนี้คุณก็คงพอจะมองเห็นแล้วว่า ไอ้แค่การตื่นนอนแต่เช้าตรู่ แค่วันละ 1 ชั่วโมงก่อนเวลาปกตินั้น มันส่งผลต่อชีวิตคน ๆ นึงได้มากขนาดไหน
Life Hack ข้อที่ 2 – คลุกคลีอยู่กับคนที่ประสบความสำเร็จ (Hang out with other successful people)
โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้น มักจะปรับตัวเข้ากับสังคมและสภาพแวดล้อมที่ตนเองอยู่ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อตัวคุณไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบใด คุณก็จะกลายเป็นคนแบบนั้น ดังนั้น หากต้องการที่จะประสบความสำเร็จและร่ำรวย คุณจึงจำเป็นที่จะต้องคลุกคลีอยู่กับพวกเขาอยู่เป็นประจำ เหตุผลมาจากจิตใต้สำนึกของมนุษย์นั้นมักจะชอบเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ที่อยู่ใกล้ชิดกัน ซึ่งหลายคนอาจมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่า แล้วอยู่ดี ๆ คนรวยกับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น ทำไมพวกเขาจะต้องมาเสียเวลากับคนอย่างเรา เพราะพวกเขาเหล่านั้นก็มักจะใฝ่หาผู้คนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จอย่างสูงเฉกเช่นเดียวกัน
โดยหากตอนนี้คุณยังไม่รวยและยังไม่ประสบความสำเร็จ สิ่งที่คุณทำได้ก็คือ การพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น พัฒนาให้เก่งกว่าระดับมาตรฐานทั่ว ๆ ไป จนสามารถโดดเด่นและเป็นที่จับตามองของคนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะพวกเขาจะเริ่มหันมาสนใจคุณและอยากทำความรู้จักกับคุณว่าเพราะเหตุใด ตัวคุณถึงโดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ และพวกเขาเหล่านั้นมักจะให้โอกาสกับคนที่มีความสามารถ มีความพยายาม มาทำงานร่วมกับพวกเขา
และเมื่อคุณมีโอกาสได้ร่วมงานกับพวกเขา สิ่งที่คุณจะต้องโฟกัสมากกว่าตัวเงินก็คือ การเรียนรู้และศึกษาแนวคิด วิธีการ การกระทำของพวกเขาเหล่านั้น หมั่นหาข้อมูลมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกับพวกเขาอยู่เสมอ และเมื่อคุณได้เรียนรู้แนวคิดจากคนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จอย่างสูงแล้ว ความเร็วในการประสบความสำเร็จของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณอย่างที่คุณคาดไม่ถึงว่าทำไมมันช่างรวดเร็วกว่าช่วงแรก ๆ ที่คุณพยายามไต่เต้าขึ้นมา เป็นเพราะ Mindset หรือวิธีคิดของคุณจะเริ่มขยายกว้างมากขึ้น ทำให้คุณมองเห็นโลก มองเห็นโอกาสได้มากขึ้น จากเดิมคุณอาจจะเห็นโอกาสเพียงหยิบมือ แต่ในขณะที่คนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น พวกเขามองเห็นโอกาสนับไม่ถ้วน ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเลือกโอกาสไหนมาลงมือทำเท่านั้นเอง
Life Hack ข้อที่ 3 – วางแผนสิ่งที่ต้องทำพรุ่งนี้ก่อนนอน (Plan your day the night before)
คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงพวกเขามักจะวางแผนก่อนนอนอยู่เสมอ เพราะทุกวินาทีของพวกเขามีค่า และเวลาก็เป็นสิ่งที่หมดแล้วหมดเลย ไม่สามารถเพิ่มขึ้นมาใหม่ได้ ดังนั้นการวางแผนก่อนออกเดินทางในเช้าวันใหม่ จะช่วยให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและใช้เวลาอย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดย Brian Tracy แนะนำให้ใช้หลักการ ABCDE ในการวางแผน โดยความหมายก็คือ
- A = Something you must do. หมายถึง บางสิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างยิ่ง
- B = Something you should do. หมายถึง บางสิ่งที่ควรทำ
- C = Something that would be nice to do. หมายถึง บางสิ่งที่รู้สึกดีที่จะได้ทำ
- D = Something that you can delegate. หมายถึง บางสิ่งที่คุณสามารถให้คนอื่นไปทำแทนได้
- E = Something that you can eliminate. หมายถึง บางสิ่งที่คุณสามารถตัดทิ้ง กำจัดหรือไม่ทำก็ได้
หลังจากนั้นให้ลองนำงานที่จะต้องทำต่าง ๆ ใส่ความสำคัญจากมากไปน้อย โดย A สำคัญมากที่สุดไล่ไปจนถึง E ที่ไม่มีความสำคัญเลย แล้วให้คุณโฟกัสทำงานมากที่สุดให้หมดก่อน หากงานที่สำคัญมากกว่ายังไม่หมด อย่าพึ่งไปทำงานที่มีความสำคัญน้อยกว่า เพราะหากอ้างอิงตามกฎ 80/20 แล้วล่ะก็ หากคุณทำงานในส่วนของ A ได้เสร็จ ซึ่งเป็นงานเพียง 20% จากงานทั้งหมด แต่งานในข้อ A มันจะส่งผลลัพธ์ต่อความสำเร็จมากถึง 80% เลยทีเดียว
Life Hack ข้อที่ 4 – อ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (Read as much as possible)
จากบทความก่อนหน้านี้ ในบทความ 4 นิสัยเศรษฐี จาก 4 มหาเศรษฐีรุ่นพี่สอนว่าที่เศรษฐีรุ่นน้อง ในส่วนของ Warren Buffett มหาเศรษฐีตัวท็อปของโลกในศตวรรษนี้ ที่เขาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองว่า เขาใช้เวลาในอ่านหนังสือในแต่ละวันเฉลี่ยวันละ 5-6 ชั่วโมง และก็มีหลายต่อหลายครั้งที่ทำให้เขาได้ไอเดีย ได้ข้อฉุกคิด ในการเกิดการดีลทางธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การที่เขาได้ดีลกับบริษัท GEICO ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์อันดับที่ 2 ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ในที่สุด
ซึ่งความยากของการนำความรู้ที่ได้จากการอ่านหนังสือไปใช้ในชีวิตจริงให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ก็คือ คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ไอเดียไหนจะเวิร์คหรือไม่เวิร์ค จะใช่หรือไม่ใช่สำหรับตัวคุณ แต่การอ่านเยอะ ๆ สามารถช่วยคุณได้เพราะ เมื่อคลังข้อมูลในหัวของคุณมีเยอะ สมองของคุณจะเริ่มสร้างเครือข่ายความรู้และต่อเชื่อมจิ๊กซอว์แต่ละองค์ความรู้จากหนังสือแต่ละเล่มที่คุณอ่านมา มันจะทำให้คุณเริ่มเห็นภาพสำเร็จของจิ๊กซอว์แห่งความสำเร็จได้ชัดขึ้น สมองคุณจะเริ่มกรองข้อมูลว่า มีไอเดียใดบ้างหากนำไปปรับใช้กับตัวคุณเองแล้ว มันจะเกิดผลลัพธ์ที่น่าทึ่งที่สามารถทำให้ตัวคุณก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดในชีวิตและการงาน การเงินได้
และข่าวดีก็คือ ในยุคของอินเตอร์เน็ตซึ่งเกิดมาเพียงไม่กี่ปี แต่คนรุ่นเราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้อย่างมากมายมหาศาล(และทำให้คุณกับ Blue O’Clock ได้มาเจอกัน อะแฮ่ม!) ในราคาที่ถูกแสนถูก ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งข้อมูลหลายอย่างบนโลกอินเตอร์เน็ตนั้นสามารถเสพย์ได้ฟรี ไม่ว่าจะเป็นทั้งบทความ รูปภาพ วีดีโอ เสียงจากรายการพอดแคสต์ ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้และนำไปปรับใช้กับชีวิตของตัวคุณเองได้ในทันที แต่ข้อเสียก็มีเช่นกัน ด้วยความที่มันเข้าถึงง่ายและเข้าถึงได้ในราคาที่เรียกว่าเกือบฟรี(เพราะค่าอินเตอร์เน็ตสมัยนี้ถูกลงกว่าแต่ก่อนมาก) สิ่งที่ต้องแลกก็คือ เวลาที่ต้องใช้ไปกับการเรียบเรียง ค้นหาและเชื่อมต่อองค์ความรู้ในแต่ละจุดเข้าด้วยกัน จนเกิดไอเดียที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตได้ ซึ่งหากคุณมีทักษะในการกรองข่าวสารไม่ดี มันก็จะทำให้คุณสูญเสียเวลาไปไม่น้อย
ดังนั้นวันนี้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลพรีเมี่ยมคอนเท้นต์ได้แล้วบน Blue O’Clock Academy (ขายของเฉย 555+) โดยคุณสามารถเรียนรู้จากคนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จอย่างสูงได้ใน ซีรี่ย์ Top 10 Mentors : 10 สุดยอดบทเรียนจากมหาเศรษฐีรุ่นพี่สอนว่าที่มหาเศรษฐีรุ่นน้องคนต่อไป โดยคุณสามารถลงทะเบียนได้ในราคาพิเศษตามรายละเอียดที่ลิงค์ด้านล่างวีดีโอนี้ได้เลยครับ
ลงทะเบียนรับชมวีดีโอซีรี่ย์ Top 10 Mentors ตัวเต็ม “10 บทเรียนจาก Jack Ma ผู้ก่อตั้ง Alibaba” ได้ที่ – http://bit.ly/2pBLK75
Resources
- https://youtu.be/cAohtjQ8VTA
- http://bankusayei.blogspot.com/2015/01/blog-post.html
- https://en.wikipedia.org/wiki/Peter_Drucker