1 คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการเดินในเส้นทางนายตัวเองให้ประสบความสำเร็จ by Lori Greiner เศรษฐีนีพันล้านจากรายการ Shark Tank
Lori Greiner นักประดิษฐ์ นักธุรกิจและนักลงทุนชื่อดังจากรายการ Shark Tank เธอได้รับฉายาว่าเป็น ‘Queen Of QVC’ หรือราชินีแห่งการขายสินค้าผ่านการกระจายสัญญาณโทรทัศน์ โดยมีสินค้าที่เธอครอบครองสิทธิบัตรอยู่ในครอบครองกว่า 120 รายการ ที่ทำให้ในปี 2020 นี้เธอมีทรัพย์สินอยู่ที่ $100 ล้านเหรียญฯ หรือราว ๆ 3,000 ล้านบาท
โดยในโพสต์นี้ เป็นบทสัมภาษณ์จากช่อง Youtube ที่ชื่อว่า Behide the Brand โดยพิธีกรพยายามค้นหาเคล็ดลับในการที่ทำให้ Lori Greiner ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ โดยได้เริ่มต้นคำถามง่าย ๆ ว่า “Lori บอกเราหน่อยว่า อยากคุณสามารถย้อนเวลากลับไปในช่วงพึ่งเรียนจบใหม่ ๆ หรืออยู่ในวัยเริ่มต้นทำงาน หากคุณสามารถให้คำแนะนำได้หนึ่งอย่างที่เป็นคำแนะนำที่ดีที่สุด คุณจะบอกอะไรกับตัวเองในอดีตในตอนนั้น?”
โดย Lori Greiner ได้ตอบว่า คุณจงออกเดินทางทำตามความฝัน จงทำในสิ่งที่คุณต้องการ เพราะไม่มีใครหรืออะไรสามารถหยุดยั้งตัวคุณได้
โดยตัวเธอเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายใด ๆ ในชีวิตไม่ว่าจะในด้านการงาน การเงินหรือด้านชีวิตส่วนตัวก็ตามที สิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำก็คือ การใส่ใจมันลงไปในสิ่งนั้น แล้วลงมือทำงานอย่างชาญฉลาดเพื่อให้เป้าหมายนั้นกลายเป็นจริงขึ้นมาให้จงได้ โดยไม่หวาดหวั่นในการพยายามขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมโดยปราศจากความกังวลใด ๆ จนกว่ามันจะสำเร็จ
และสาเหตุที่เธอแนะนำตัวเองในอดีตเมื่อตอนยังวัยรุ่นอยู่นั้น ก็เป็นเพราะ เธอรู้ตัวเองดีว่า หลังจากเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอต้องการเดินในเส้นทางของผู้ประกอบการและต้องการทำงานอย่างอิสระเป็นตัวของตัวเองมาโดยตลอด โดยเธอไม่ต้องการทำงานให้กับผู้อื่นนอกจากทำเพื่อตัวของเธอเอง นั่นก็เพราะเธอรู้จักบุคคลิกส่วนตัวของเธอเองเป็นอย่างดีว่า เธอเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง ส่วนที่เหลือก็แค่หาว่ามีธุรกิจใดบ้างที่เหมาะสมกับตัวเธอมากที่สุด
ซึ่งสิ่งที่มักจะขวางกั้นผู้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถก้าวขึ้นไปสู่ความสำเร็จได้นั้น เป็นเพราะพวกเขามักจะขาดความมั่นใจในตนเอง พวกเขามักกังวลกับหลายสิ่งหลายอย่างมากจนเกินไป มากจนไม่ยอมที่จะสละเวลาเพื่อลงมือทำหลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็นต้องทำ ก่อนที่จะเก็บเกี่ยวผลผลลัพธ์จากความสำเร็จ
ดังนั้นเธอมักจะไม่พูดให้ใครต่อใครในทำนองที่ว่า “อยากสำเร็จอยากร่ำรวยให้มาเป็นผู้ประกอบการสิ” แต่สิ่งที่เธออยากจะแนะนำมากกว่าก็คือ ให้คุณเริ่มต้นทำในสิ่งที่คุณชอบ ในสิ่งที่คุณรัก และแสวงหาวิธีลงมือในสิ่งนั้น เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มต้นด้วยการทำในสิ่งคุณรัก คุณมักจะทำมันได้ค่อนข้างดีกว่าเรื่องอื่น ๆ ซึ่งในความคิดของเธอนั้น เธอคิดว่าไม่ว่าใคร หากทำในสิ่งที่รักแล้วก็สามารถที่จะทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้ในที่สุด
คำถามต่อมา พิธีกรได้ถามเธอว่า สาเหตุที่ทำให้เธอกลายเป็น Queen of QVC ราชินีแห่งการขายสินค้าผ่านทางทีวี ถ้าใครยังนึกไม่ออก ก็คล้าย ๆ กับการขายสินค้าแบบ Direct TV บ้านเรา แต่ของเธอนั้นมีการกระจายสัญญาณโทรทัศน์ไปหลายประเทศมาก ๆ เพราะการนำเสนอขายสินค้าด้วยภาษาอังกฤษ สามารถกระจายไปได้ทั่วโลก
โดย Lori ได้ตอบว่า หากเปรียบพลัง Superhuman พลังพิเศษในตัวของเธอเองแล้วล่ะก็ สิ่งนั้นก็คือ เธอสามารถรู้ได้ในแทบจะทันทีว่าผู้คนมีความต้องการในสิ่งใดโดยมันฝังลึกลงในสัญชาติญาณของเธอมาตั้งแต่เกิด ซึ่งพลังพิเศษนี้ของเธอ มันก็ช่วยทำให้เธอสามารถเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ซะเป็นส่วนใหญ่ ว่าสินค้าไหนจะปัง สินค้าไหนจะแป๊ก
และอีกเรื่องนึงก็คือ เธอไม่มีความหวาดหวั่นใด ๆ เลยถ้าเป็นเรื่องของธุรกิจ เพราะสิ่งที่เธอคิดอยู่ในหัวตลอดเวลาก็คือ จะมีหนทางหรือทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น โดยหากมีอุปสรรคใดที่ขวางกั้นเธออยู่ เธอจะไขว่คว้าหาวิธีและสร้างเส้นทางข้ามผ่านอุปสรรคนั้น ๆ ด้วยวิธีของเธอไปจนได้
เพราะเธอเชื่อว่า ไม่ว่าปัญหามันจะยากสักเพียงใด มันก็ย่อมมีทางออกอยู่เสมอ และนั่นมันทำให้เธอเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า ไม่ว่าเรื่องใด ๆ ก็ตาม มันสามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้แทบทั้งสิ้น
ซึ่งคำแนะนำของเธอก็ดูเหมือนว่า จะเป็นเรื่องไกลตัวของคนอื่นทั่ว ๆ ไป ที่ในหัวของพวกเขาอาจจะเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า “ก็ใช่ซี้… ที่เธอพูดแบบนี้ได้ก็เพราะเธอรวยแล้วประสบความสำเร็จแล้วไง ถึงพูดแบบนี้ได้” ซึ่งพิธีกรก็พูดในทำนองที่ว่า ตัวของ Lori นั้นพูดราวกับว่า เธอไม่เคยทำอะไรล้มเหลวเลยสักอย่าง ทำอะไร ๆ ก็ดูจะประสบความสำเร็จไปซะหมด
ซึ่ง Lori ก็อธิบายว่า ในเส้นทางสายอาชีพของเธอนั้น เธอใช้เวลาส่วนใหญ่หมกมุ่นกับการศึกษาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นับพันนับหมื่นชนิด ว่ามีสินค้าตัวใดบ้างที่หากนำมาขายแล้วมันมักจะแป๊ก ซึ่งเธอก็ไม่ได้เก่งในเรื่องของการดูผลิตภัณฑ์ตั้งแต่แรก แต่มันคือการสะสมความรู้ สั่งสมประสบการณ์ จนมันมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้เธอ สามารถแทบจะมองออกในทันทีที่เห็นสินค้าว่า สิ่งนั้นมันจะแป๊กหรือมันจะปัง เพราะในหัวของเธอมีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อย่างมากมาย ซึ่งมั่นทำให้เธอลดโอกาสที่จะพลาดลงให้เหลือน้อยมาก ๆ
และเมื่อผลิตภัณฑ์บางตัวของเธอที่ขายดีมาก ๆ มันก็จะมักจะดึงดูดคู่แข่งและผู้ไม่ประสงค์ดีมาพยายามขโมยสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ของเธอ หรือบ้างก็กลั่นแกล้งฟ้องร้องคดีจอมปลอมมากมาย นั่นทำให้เธอ ต้องรีบหาวิธีการที่จะปกป้องตนเองและผลิตภัณฑ์ของเธอที่เปรียบเสมือนกับลูกรัก ให้รอดปลอดภัยจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งมันทำให้เธอต้องรีบหาความรู้อย่างเร่งด่วนเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่จะสามารถปกป้องสิทธิบัตรและผลิตภัณฑ์ของเธอได้ และแน่นอนว่ามันเป็นเรื่อที่ยากมาก แต่สุดท้ายเธอคิดอยู่อย่างเดียวในหัวเลยก็คือ เธอจะต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้ เพราะเธอคิดแต่เพียงว่า หากเธอไม่สามารถปกป้องสิทธิบัตรที่เปรียบเสมือนลูกรักของเธอได้นั้น เธอจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตที่เหลือราวกับถูกต้องสาปแน่ ๆ
ซึ่งเธอมักจะไม่มองว่าสิ่งต่าง ๆ เป็นความล้มเหลว เพราะเธอเปรียบเสมือนว่าอุปสรรคแต่ละอย่างนั้นเป็นเพียงสิ่งขวางกั้นระหว่างทางบนท้องถนนที่ปิดกั้นระหว่างตัวเธอกับความสำเร็จ โดยเธอได้ยกตัวอย่างจากเหตุการณ์ การขายสินค้าอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อเตรียมขายในเทศกาลวันแม่ ที่เป็นเชิงเทียนแฟนซี ซึ่งในใจของเธอก็มีความกังวลเล็กน้อยว่ามันจะเวิร์คหรือไม่ แต่ทางทีมงานก็ได้เตรียมสินค้านับแสนชิ้นไว้ในโกดังไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะคาดว่ามันจะต้องปังแน่ ๆ แต่ปรากฎว่า วันทั้งวันก่อนถึงวันแม่นั้นเธอขายสินค้าได้เพียงแค่ 30 ชิ้นเท่านั้น
เธอจึงหาสาเหตุว่า ทำไมและเพราะอะไรมันถึงขายไม่ออกในวันแม่ ซึ่งเมื่อเธอทบทวนแล้วก็พบว่า เชิงเทียนนั้นมันเป็นเครื่องประดับและตกแต่งบ้าน ซึ่งวันแม่ใคร ๆ ต่างก็อยากพาคุณแม่ไปทานอาหารค่ำอร่อย ๆ สักมื้อ แทนที่จะมานั่งจัดโต๊ะรับแขกที่บ้าน ซึ่งเมื่อเธอวิเคราะห์ได้ดังนั้น จากเดิมที่เธอรู้สึก failed เป็นอย่างมาก เธอจึงกลับมาทำการขายมันใหม่ในช่วงวันคริสมาสต์ แล้วก็ บู้มมมม ขายหมดเกลี้ยง และนั่นก็คือบทเรียนที่เธอได้เรียนรู้ว่า ของบางสิ่งบางอย่าง ก็ต้องขายให้มันถูกที่ถูกเวลา และในหลาย ๆ ครั้งคุณก็ควรเชื่อในสัญชาตญาณของตนเอง
และนี่ก็คือคำแนะนำที่ดีที่สุดจาก Lori Greiner เศรษฐีนีพันล้าน Queen of QVC จากรายการ Shark Tank
Resources