Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to

พนักงานออฟฟิศก็เป็นเศรษฐีเงินล้านได้ by Tom Corley

Tom Corley ผู้เขียนหนังสือ Rich Habits ที่เขาใช้เวลาศึกษาเหล่าบรรดาเศรษฐีเงินล้านที่สร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยลำแข้งของตนเองกว่า 500 คน ตลอดช่วง 5 ปี เพื่อรวบรวมข้อมูลว่า เหล่าบรรดาเศรษฐีเงินล้านนั้น พวกเขามีอุปนิสัยอะไรบ้างที่ส่งผลให้พวกเขาเปลี่ยนจากคนธรรมดาให้กลายเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ด้วยตนเอง

โดยในคอนเท้นต์นี้ Tom ได้ค้นพบว่า เหล่าบรรดา Millionaires หรือเศรษฐีเงินล้านนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ก็คือ

กลุ่มที่ 1 – Savers คือเศรษฐีเงินล้านจากการออม ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้เวลาโดยเฉลี่ยราว ๆ 32 ปีในการออมที่กว่าจะเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ ซึ่ง $1 Million ตีเป็นไทยก็ราว ๆ 30 ล้านบาท

กลุ่มที่ 2 – Entrepreneurs คือเศรษฐีเงินล้านจากการทำธุรกิจ พวกเขาเป็นเศรษฐีเงินล้านที่มั่งคั่งและร่ำรวยที่สุด และใช้เวลาน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับเศรษฐีเงินล้านในกลุ่มอื่น ๆ

แต่ก็มีเศรษฐีเงินล้านอีกประเภทหนึ่ง ที่พวกเขาร่ำรวยจากการทำงานประจำ ทำงานในออฟฟิศ นั่นก็คือ

กลุ่มที่ 3 – Executives คือเศรษฐีเงินล้านจากการเป็นผู้บริหาร ซึ่งบริษัทที่พวกเขาบริหารอยู่นั้นล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นบริษัทมหาชน และพวกเขาร่ำรวยจากการถือหุ้นของบริษัทที่พวกเขาบริหารอยู่ ซึ่งพวกเขาอาจจะได้รับมาจากโบนัสหรือเป็นค่าตอบแทนในการทำงาน

ซึ่งผู้บริหารเหล่านี้ พวกเขาทำให้ตัวเองนั้น อยู่ในตำแหน่งที่บริษัทไม่สามารถไล่พวกเขาออกได้ ซึ่งความหมายก็คือ พวกเขากลายเป็นคนที่บริษัทขาดเขาไปไม่ได้ เพราะหาคนแทนได้ยาก และการที่จะทำแบบนั้นได้ ผู้บริหารเหล่านี้พวกเขาจำเป็นที่จะต้องทำให้ตนเองนั้นกลายเป็นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่พวกเขาทำงานอยู่

พวกเขาเชี่ยวชาญทั้งเรื่องภายในและภายนอกของบริษัท พวกเขาหมกหมุ่นอยู่กับการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่บริหารอยู่เท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้

และนอกจากนั้นพวกเขายังเป็นคนที่สานสัมพันธ์กับคนผู้ทรงอิทธิพลหรือเหล่าบรรดา Influencers ที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมของพวกเขาได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขามักจะติดต่อ โทรหากับคนในวงการนั้น ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโทรไปทักทาย ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ โทรไปอวยพรวันเกิด โทรไปยินดีหรือไปร่วมงานแต่งงาน โทรไปโรงพยาบาลเพื่อสอบถามอาการการป่วย หรือจะเป็นการโทรไปถามถึงเด็กทารกที่พึ่งคลอด ที่ไม่ใช่การโทรไปงั้น ๆ แต่พวกเขาติดต่อเพื่อสานสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ดังคำกล่าวที่ว่า “มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณรู้จักใคร แต่มันสำคัญตรงที่ว่าใครรู้จักคุณ” ดังนั้น โมเม้นต์สำคัญต่าง ๆ ในช่วงชีวิตของคนในอุตสาหกรรมของคุณ พวกเขาก็จะนึกถึงคุณเป็นอันดับต้น ๆ เสมอ และเช่นเดียวกัน เวลาที่พวกเขาจะทำธุรกิจ มีดีลเจ๋ง ๆ พวกเขาก็จะนึกถึงคุณเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

และนี่คืออีกตัวอย่างหนึ่ง ที่เหล่าบรรดาเศรษฐีเงินล้านที่เป็นระดับผู้บริหาร ที่นอกจากจะต้องมีความเชี่ยวชาญในสายงานตัวเองขั้นสุดแล้ว ยังต้องสามารถสานสัมพันธ์กับผู้อื่นในอุตสาหกรรมของตนได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

ตัวอย่าง Executives หรือผู้บริหารที่เป็นพวกเป็นเศรษฐีจากการทำงานในออฟฟิศ อย่าเช่น Sundar Pichai ผู้บริหารของ Google และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ที่เขามีทรัพย์อยู่ที่ราว ๆ $600 ล้านดอลล่าร์ฯ หรืออย่าง Tim Cook ผู้บริหาร Apple ที่มีทรัพย์สินอยู่ที่ราว ๆ $2,000 ล้านดอลล่าร์ฯ เป็นต้น

Resources