Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to

เอลซัลวาดอร์ ประเทศแรกของโลกที่ใช้ Bitcoin ชำระหนี้ได้ถูกต้องตามกฎหมาย

ในวันที่ 5 มิถุนายน ปี 2021 ที่ผ่านมานี้ ได้มีข่าวใหญ่ในวงการการเงินระดับโลก ที่ไม่ใช่ในเฉพาะโลกของ crypto อีกต่อไปเมื่อประธานาธิบดีของประเทศเอลซัลวาดอร์ นามว่า นายิบ บูเกเล (Nayib Bukele) (เกเรสมชื่อจริง ๆ) ได้ประกาศก้องโลกว่า พวกเขาผ่านการร่างกฎหมายในการอนุมัติให้ bitcoin สามารถใช้ในการชำระเงินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และอนุมัติให้ใช้ได้ทั่วประเทศภายใน 90 วันหลังจากที่ประกาศผ่านร่างกฎหมายนี้ทันทีอีกด้วย

ประเทศเอลซัลวาดอร์ จึงกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่ผ่านร่างกฎหมาย bitcoin นี้ นับตั้งแต่ bitcoin ได้ถือกำเนิดมา 12 ปี

และหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนระบบการเงินด้วย Bitcoin ของประเทศเอลซัลวาดอร์ ก็คือ Jack Mallers ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Strike ที่เป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถโอนเงินได้ทั่วโลกผ่านบัญชีธนาคารโดยที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรวมไปถึงการโอน Bitcoin โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องมี wallet ออนไลน์ก็สามารถใช้งานได้

และนี่คือวิสัยทัศน์ของ Jack Mallers ที่เขาจะผลักดันในประเทศเอลซัลวาดอร์ โดยเขาได้พูดในงานสัมมนา Bitcoin 2021 Miami ที่ถือว่าเป็นงานสัมมนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกของวงการ Bitcoin

โดยต้องเกริ่นก่อนว่า สำหรับกลุ่มคนที่เชื่อมั่นในระบบการเงินของ bitcoin นั้น มักจะมีความเห็นต่างสุดขั้วกับระบบการเงินเก่า ๆ อย่าง Fred อย่างธนาคารกลาง โดยสิ้นเชิง หรือหากใครมองว่าระบบการเงินแบบเก่าเป็นพระเอก คนที่สนับสนุนบิตคอยน์จะกลายเป็นผู้ร้าย ในขณะที่หากใครมองว่าระบบการเงินแบบเก่าเป็นตัวร้าย ผู้คนที่สนับสนุนบิตคอยน์ก็จะถูกมองว่าเป็นผู้มาปฏิวัติเปลี่ยนแปลงวงการการเงินโลกให้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งไม่ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร หน้าที่ของเราในฐานะผู้เสพย์สื่อ ควรเสพย์ข้อมูลทั้งสองด้านแล้วนำไปคิด วิเคราะห์กันต่อโดยรับชมด้วยจักรยานกันครับ (ผ่าม!! วิจารณญาณครับ)

Jack Mallers เริ่มต้นด้วยการเกริ่นนำว่าเนื้อหาในวันนี้ เขาต้องการโฟกัสไปในเรื่องของอิสรภาพของมนุษย์ในการเข้าถึงระบบการเงินอย่างอิสระและเท่าเทียมกัน ควรเป็นเรื่องพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับไม่ว่าจะรวยหรือจน

M3 for the United States
M3 for the United States

และข้อมูลที่น่าสนใจที่เขาได้จากการเพิ่มขึ้นของ supply หรืออุปทาน ของปริมาณเงินดอลล่าร์ฯ ที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต ซึ่งจำนวนเงินดอลล่าร์ที่ถูกปริ้นท์ออกมาภายใน 1 ปีล่าสุดนั้น เท่ากับที่เคยปริ้นท์ออกมาตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมาซะอีก และโดยปกติแล้วถ้ามีการปริ้นท์เงินมากจนเกินไป มันจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงได้ ใช่ไหมครับ?

12-month percentage change, Consumer Price Index, selected categories

ในขณะที่ข้อมูลจากกราฟค่าดรรชนีราคาสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นไม่มีสัญญาณของเงินเฟ้อแต่อย่างใด มันกลับบอกว่าก็ปกติดีนี่ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมามันก็อยู่ในช่วง -2% ถึง 5% นิด ๆ เท่านั้นเอง และโดยปกติค่าเงินเฟ้อก็ไม่ควรจะเกิน 4%

Price Inflation for College tuition and fees since 1977

แต่หากเราลองมาดูค่าเทอมของบุตรหลานในแต่ละปี มันกลับพบว่า ค่าเทอมระดับมหาวิทยาลัยมีการปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณ 8% ในทุก ๆ ปี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าค่าเงินเฟ้อเลข 8% นั้นมันสูงกว่าเลข 4% แน่ ๆ

Illinois housing price index jan 2008

และตัวของ Jack Mallers เองนั้น เขาเกิดและเติบโตอยู่ที่เมือง Chicago รัฐ Illinois โดยเขาก็หวังว่าสักวันหนึ่งหากเขามีครอบครัว แล้วก็อยากที่จะซื้อบ้านสักหลัง หลังจากที่ทำงานเก็บเงินมาทั้งชีวิต แต่เขากลับพบว่า หลังจากเหตุการณ์ Covid เกิดขึ้นและรัฐมีการอัดฉีดเงินเยียวยามาในระบบนั้น มันส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ใน Chicago ก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 9.2% ต่อปี ซึ่งตัวเลขนี้บ่งบอกได้ว่า เงินเดือนของผมในแต่ละปีนั้นจะต้องเพิ่มขึ้นมาอย่างน้อย 10% ไม่งั้น ผมไม่มีทางที่จะเป็นเจ้าของบ้านได้เลย (ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดีครับว่า เงินเดือนของเราในแต่ละปีไม่เคยเพิ่มขึ้นเกิน 10% อย่างแน่ ๆ)

แถมถ้าผมมีลูกและส่งเขาเรียนเข้าในระดับมหาวิทยาลัย แค่คิดก็ไม่มีปัญญาที่จะส่งลูกเรียนเช่นกันเพราะค่าเรียนมันแพงขึ้นกว่า 8% ในทุก ๆ ปี

แต่ธนาคารกลางสหรัฐกลับบอกว่า ไม่มีหร๊อกกก(เสียงสูง)เงินเฟ้อ

ซึ่งตัวของ Jack Mallers มองว่า ธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกนั้น อาจกำลังทำร้ายหรือส่งผลเสียต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในกลุ่มของประเทศที่กำลังพัฒนาและในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มาก

เพราะการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังพิมพ์เงินดอลล่าร์ออกมาอย่างมหาศาลนั้น ก็ส่งผลกระทบโดยไม่ได้ตั้งใจกับประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มคนในตลาดที่เกิดใหม่ ตามวัฏจักรรูปนี้

เมื่อพิมพ์เงิน จะเกิดเงินเฟ้อแอบแฝง อย่างข้อมูลก่อนหน้านี้ ที่ค่าดัชนีเงินเฟ้อที่ข้อมูลจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ แจ้งมาว่าปกติดี แต่พอมาจำแนกเป็นอย่าง ๆ กลับพบว่า มันสูงกว่านั้นเยอะ

และเมื่อเกิดเงินเฟ้อขึ้นเยอะ มันก็จะส่งผลให้ระดับราคาปรับตัวสูงขึ้น และเมื่อคนที่กำลังจะพยายามจะตั้งตัวได้ ดันมาเจอของแพง ต้นทุนชีวิตสูงขึ้น พวกเขาก็ไม่ได้ลืมตาอ้าปากสักที ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์มุมานะ ตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็งมาตลอดหลายสิบปี

ซึ่งหากคุณอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่นัก แต่หากคุณอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนาแล้วล่ะก็ คุณควรจะกลัวในเรื่องนี้ โดยเฉพาะประเทศที่ใช้เงินดอลล่าร์เป็นสกุลเงินหลัก ยังไงก็หนีไม่พ้นที่จะต้องได้รับผลกระทบจาการที่สหรัฐอเมริกาออกนโยบายทางเงินที่แย่ ๆ ออกมา

และปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ได้ด้วย Bitcoin (แท่นทะละแลนแท่นแท๊นแท่นแท่นแท๊นนน)

โดย Jack Mallers มีแนวคิดว่า หากเราสามารถแก้ไขปัญหาการเงินของระดับชาติได้ เราก็สามารถแก้ไขปัญหาการเงินระดับโลกได้เช่นกัน

  • Bitcoin มีจำนวนจำกัด โดยจะมี supply ได้ไม่เกิน 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ผลิตเพิ่มไม่ได้
  • Bitcoin มีนโยบายทางการเงินที่จัดเจน เปลี่ยนแปลงไม่ได้และถูกฝังลงในโค้ดหรือโปรแกรมเอาไว้บนเทคโนโลยี blockchain และมีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นระบบแบบ Decentralized ที่ระบบกระจายอำนาจแบบไม่รวมศูนย์ ที่ไม่มีตัวกลาง ไม่มีจุดอ่อนในระบบ ซึ่งตั้งแต่ Bitcoin ถือกำเนิดขึ้นมา ก็ยังไม่มีใครที่เคยแฮ็คมันได้เลยสักครั้งเดียว (แม้ว่าสำนักข่าวต่าง ๆ จะเคยตีพิมพ์ว่ามันเคยถูกแฮ็คก็ตามที)
  • มีการผลิตจำนวนเหรียญที่คาดการณ์ได้
  • Bitcoin มันเป็นระบบเปิดกว้าง คลอบคลุมทั่วโลก ไม่มีกำแพงกีดกันใด ๆ ไม่ว่าใครก็สามารถใช้งานมันได้เหมือนกันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศที่กำลังพัฒนา ประเทศด้อยพัฒนา ก็ตาม
  • พัฒนาการโอนเงินให้ดียิ่งขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่ำ
  • การเข้าถึงการเงินมีความเท่าเทียมกัน

โดยคุณรู้หรือไม่ว่า GDP มหาศาลของประเทศที่กำลังพัฒนานั้น มาจากการส่งเงินกลับประเทศบ้านเกิด ที่หลายประเทศส่งออกแรงงานไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว และพวกเขาก็ส่งเงินกลับมาให้ครอบครัว

ยกตัวอย่างจากประเทศเอลซัลวาดอร์ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีมากเคสหนึ่ง ที่ประเทศนี้จำเป็นต้องใช้เงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ เนื่องจากพวกเขาสูญเสียสกุลเงินของตนเองไปในเหตุการณ์สงครามกลางเมืองเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว

ทำให้หลังจากนั้น เม็ดเงินส่วนใหญ่ของประเทศคือการส่งแรงงานไปยังต่างประเทศ ทำให้ GDP หลักของประเทศนี้ กว่า 22% มาจากการที่พวกเขาส่งเงินกลับมาที่บ้านเกิด

แต่ปัญหาก็คือ ในระหว่างทางการโอนเงินจากต่างประเทศมายังบ้านเกิดนั้น กลับถูกตัวกลางหักค่าธรรมเนียมนู่นนี่นั่น จนค่าธรรมเนียมสูงสุดอาจสูงถึง 50% เลยทีเดียว เรียกได้ว่า ถ้าส่งเงินจากต่างประเทศมายังบ้านเกิดจำนวน 100,000 ดอลล่าร์ หลังหักค่าธรรเนียมรายทางแล้ว คนที่บ้านเกิดจะได้รับเงินแค่เพียง 50,000 ดอลล่าร์ หรือแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

และอีกประเด็นที่น่ากลัวก็คือ มีชาวเอลซัลวาดอร์ ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ มากถึง 2 ล้านคน โดยประชากรทั้งประเทศนี้มีจำนวนประชากรเพียง 6.4 ล้านคนนิด ๆ เท่านั้น

เหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะ ประชาชนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 ของชาวเอลซัลวาดอร์นั้น พวกเขาไม่มีบัญชีธนาคารด้วยซ้ำ (ในขณะที่คนไทยอย่างเรานั้นเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย แค่คนเดียวก็มีสมุดธนาคารเกือบทุกแบงค์ด้วยซ้ำ ทำให้เราอาจจะนึกภาพไม่ออกว่าอะไรมันจะยากเย็นขนาดนั้น) ทำให้การที่จะโอนเงินกลับมายังบ้านเกิดนั้น ต้องเสียค่าต๋ง ค่าตัวกลาง ค่านายหน้า ค่าบ้าบอต่าง ๆ ที่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากพึ่งวิธีนี้

เพราะด้วยการที่ภายในประเทศเอลซัลวาดอร์ นั้นยังคงมีปัญหาด้านความไม่มั่นคง, ปัญหาขาดแคลนความช่วยเหลือทางการเงินและปัญหาการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมภายในประเทศที่สูงมาก ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ เลือกที่จะทยอยย้ายถิ่นฐานออกจากประเทศ

Jack Mallers เขาจึงได้ก่อตั้งบริษัทที่มีชื่อว่า Strike ขึ้นมา โดยหลัก ๆ พันธกิจของบริษัทก็คือ เขาจะใช้โอกาสจากการที่ Bitcoin ที่จะสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยเขาจะทำให้การชำระเงินข้ามพรมแดนนั้นฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม ที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาให้สำหรับคนที่ต้องการส่งเงินกลับบ้านเกิด ตัดปัญหาตัวกลางที่ชิงเงินของพวกเขาที่พวกเขาอุตส่าห์ตรากตรำทำงานมาอย่างหนัก แต่ด้วยระบบที่เน่าเฟะของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ทำให้พวกเขาสูญเสียเงินที่ควรจะได้ไปกว่าครึ่ง

และเขาก็คิดว่า แค่แก้ปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียมของตัวกลางได้เพียงเรื่องเดียว จะทำให้ GDP ของประเทศเอลซัลวาดอร์พรุ่งสูงปรี๊ด นั่นหมายถึง พวกขาก็จะมีเงินไหลเข้าประเทศมากขึ้น ทำให้โอกาสทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเราสามารถเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้าถึงและสร้างสินทรัพย์ที่อยู่ในระบบการกระจายศูนย์ที่เปิดกว้างอย่าง Bitcoin ได้ คนในประเทศที่ยากจนข้นแค้นก็ไม่ต้องหันไปพึ่งการก่ออาชญากรรมและความรุนแรงอีกต่อไป พวกเขาจะไม่มีปัญหาในการอพยพย้ายถิ่นฐานไปยังต่างประเทศ พวกเขาสามารถตั้งใจทำงาน ส่งเงินกลับบ้านเกิดได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย กลับมาพัฒนาประเทศบ้านเกิดที่พวกเขารักได้ ลดการเกิดปัญหาอย่างการ #ย้ายประเทศกันเถอะ ที่ทำให้คนที่มีความสามารถ คนที่เก่ง ทยอยไปอยู่ต่างประเทศกันหมดเพราะมีโอกาสที่ดีกว่า

ซึ่งจากปัญหาของประเทศเอลซัลวาดอร์ แบบนี้นี่เอง ที่ทำให้ Jack Mallers ตัดสินใจที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประเทศนี้ก่อน ซึ่งเขาก็ลงไปในระดับไปกินอยู่ ไปอาศัยหลับนอนที่ประเทศเอลซัลวาดอร์นี้เป็นเวลากว่า 3 เดือน เพื่อที่จะได้เข้าใจปัญหาที่แท้จริงอย่างใกล้ชิดกับชาวเอลซัลวาดอร์ตัวเป็น ๆ

ครั้งแรกที่เขาไปถึง เขาได้ลองพยายามรับเงินที่ส่งมาจากต่างประเทศ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ เขาจึงเริ่มเห็นความแตกต่างแล้วว่า ไอ้การเข้าถึงเงินแค่นี้ ทำไมมันยากจังฟร๊ะ เพราะในประเทศที่เขาจากมานั้น เรื่องการถอนเงิน เบิกเงินนั้น มันเป็นเรื่องง่ายมาก ง่ายจนคิดไปเองว่า คงไม่มีสถานที่ใดบนใบนี้ที่เบิกเงินยาก ๆ อย่างแน่นอน

แต่ในขณะที่ประเทศอย่างเอลซัลวาดอร์นั้น แค่เรื่องการเบิกเงินอันน้อยนิดกลับเป็นเรื่องยากมาก ๆ ตัวเขานี่แทบหมดหวังเลยกับระบบการเงินของที่นี่

โดยเขาได้มีโอกาสพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Chambera โดย Chambera ก็ได้เล่าให้เขาฟังว่า “คุณรู้ไหม? คุณปู่ของผมน่ะเป็นชาวประมง พ่อของผมก็เป็นชาวประมง และผมก็เริ่มคิดแล้วว่าผมก็จะต้องเป็นชาวประมงรุ่นต่อไป ชีวิตของผมน่ะไม่เหมือนกับของคุณหรอก คุณมีทั้งบัญชีธนาคาร คุณมีบัตรเครดิต แต่ผมทำได้แค่จับปลา ผมทำได้แค่นั้นจริง ๆ จนกระทั่งผมได้พบกับ Bitcoin มันทำให้ผมได้พบกับความหวัง ผมสามารถสแกนซื้อ Bitcoin ได้ด้วย QR code เดียวกับของคุณ แล้วพอราคาของมันขึ้นไป 10% มันทำให้ Michael Saylor ที่เป็นเจ้าของบริษัท Microstrategy บริษัทมหาชนที่มี Bitcoin มากที่สุดในโลก มีกำไรอย่างมหาศาลเพิ่มขึ้นอีก 10% และผมก็มีกำไรเพิ่มขึ้น 10% ได้ด้วยเช่นกัน”

Chambera ไม่เคยมีบัญชีธนาคาร แต่เขามี Bitcoin Wallet

Chambera ไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก แต่เขามี Hardware Wallet

เพราะเขายังเด็กเกินกว่าจะมีบัญชีธนาคาร แต่ต่อให้อายุเขาถึงแบงค์ก็อาจไม่ให้เขาเปิดบัญชีธนาคารก็เป็นได้

ดังนั้น Chambera จึงรู้ทันทีว่า Bitcoin คือระบบทางการเงินที่เขาสามารถมีสิทธิ์เข้าถึงได้ และเขาก็เข้าใจว่าระบบการเงินนี้ไม่มีความลำเอียงหรืออคติใด ๆ และไม่มีใครคอยมาสั่งตัดสินหรือริดรอนสิทธิ์นี้ของเขาไปได้

และ Jack Mallers เขาก็ใช้เวลาหลายเดือนในการตระเวนเพื่อให้ความรู้ในเรื่องของ Bitcoin นี้เฉลี่ย 20,000 คนต่อวัน และแล้วเขาก็สามารถทำให้การโอนเงินข้ามประเทศกลายเป็นของฟรีได้ในที่สุดผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า Lightning network และทุก ๆ วันที่พวกเขาอยู่ที่นั่น พวกเขากำลังเพิ่ม GPD ให้กับประเทศนี้อยู่ในทุก ๆ ขณะ

และหลังจากนั้น จู่ ๆ Jack Mallers ก็ได้รับการติดต่อจากตัวแทนของประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ว่าอยากคุยกับเขา โดยเขาได้อธิบายถึงวิสัยทัศน์ในสิ่งที่เขากำลังพยายามทำอยู่ และจะสร้างมันขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการเงินของโลกให้ดียิ่งขึ้น

จากนั้นทางรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ก็ขอให้เขาช่วยร่างกฎหมายเกี่ยวกับ Bitcoin ขึ้นมา เนื่องจากทางรัฐบาลมองว่า Bitcoin เป็นสกุลเงินระดับโลก ที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาระบบการเงิน ให้ประชาชนของพวกเขาสามารถส่งเงินกลับบ้านเกิดได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่โดนหักค่าตัวกลางไปกว่าครึ่งเฉกเช่นปัจจุบันนี้

ต่อมาทางประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ นามว่า Nayib Bukele ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบการเงินที่ขับเคลื่อนโดย Bitcoin ว่าเขาเชื่อว่ามันเป็นความคิดที่ยิ่งใหญ่ ทรงพลัง และเขาตื่นเต้นกับอนาคตที่กำลังจะมาถึง และความเป็นไปได้มากมายที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หากถามถึงอนาคตกับคนอื่น ๆ เสียงส่วนใหญ่ก็คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าไม่ใช่สงครามนิวเคลียร์ ก็เป็นหายนะทางสิ่งแวดล้อม ความอดอยาก โรคระบาด หรือการสูญเสียชีวิต

และเขาก็หวังว่า Bitcoin จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของแนวความคิดในการที่จะสามารถช่วยให้พวกเขามีสิทธิ์ควบคุมชะตาชีวิตของประเทศให้ดียิ่งขึ้น สามารถร่างและสร้างอนาคตของตนเองตามที่จินตนาการเอาไว้ได้

โดยเขาตัดสินใจว่าจะยื่นเสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภา เพื่อที่จะทำให้ Bitcoin นั้นเป็นเงินที่สามารถชำระหนี้ได้ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศเอลซัลวาดอร์ ซึ่งในปัจจุบันกฎหมายฉบับนี้ก็ผ่านร่างอนุมัติเรียบร้อยแล้ว อรเพียงประกาศใช้ภายใน 90 วันหลังจากที่ประกาศไปนี้

โดยตัวของ Nayib Bukele เขามองว่า ในเบื้องต้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นทันทีก็คือ การสร้างระบบการเงินด้วย Bitcoin นี้ จะเป็นการสร้างโอกาสและสร้างงานให้กับผู้คนนับพันในทันที (ซึ่งอย่าลืมว่ามีตำแหน่งงานใหม่ ๆ เกิดขึ้นเพียงแค่หลักพันก็ถือว่าเยอะแล้วสำหรับประเทศเอลซัลวาดอร์ที่มีประชากรเพียง 6 ล้านคนเท่านั้น) และในระยะยาวเขาก็หวังว่าการตัดสินใจเล็ก ๆ นี้ จะช่วยนำทางและเป็นแสงสว่างให้ประเทศนี้ได้

กลับมาที่ Jack Mallers ซึ่งเขาบอกว่า ส่วนที่เขาชอบมากที่สุดในการช่วยร่างกฎหมายระบบการเงินใหม่นี้นั่นก็คือ

  • ธนาคารกลางต่าง ๆ กำลังกระทำสิ่งที่อาจเลวร้ายหรือส่งผลเสียต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเอลซัลวาดอร์
  • และเพื่อที่จะลดผลกระทบในทางลบที่เกิดจากการธนาคารกลาง จึงจำเป็นที่จะต้องอนุมัติให้มีการใช้สกุลเงินดิจิตัลที่จะไม่สามารถถูกควบคุมได้โดยธนาคารกลางใด ๆ และเป็นระบบที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความตกลงร่วมกันบนพื้นฐานของกฎเกณฑ์ตามข้อเท็จจริงและคำนวณได้เท่านั้น (ซึ่งก็หมายถึงระบบของ Bitcoin ที่เป็นระบบแบบ Decentralized ที่ถูกคำนวณด้วยหลักของคณิตศาสตร์อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เปลี่ยนตามใจของธนาคารกลาง)

ซึ่งตัวเขาก็หวังว่าโปรเจค Strike นี้จะเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่จะช่วยให้ประเทศอย่างเอลซัลวาดอร์มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และประเทศใดก็ตามที่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาก็สามารถติดต่อเขาได้ตลอด และเขาก็บอกว่าโค้ดโปรแกรมในสิ่งที่เขาทำ เขาจะเปิดเผยมันอย่างโปร่งใสทุกบรรทัด ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบและดาวน์โหลดออนไลน์ได้เลย มันมีชื่อว่า ‘Bitcoin for countries’

และผมรู้ดีกว่า ผมกำลังสู้กับระบบการเงินของโลกเก่าอยู่ และผมจะต้องถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอย่างแน่นอน แต่ผมก็จะไม่หยุดทำมันโดยเด็ดขาด

ซึ่งข่าวล่าสุด ทาง IMF หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ก็ได้เรียกตัวประธาธิบดีเอลซัลวาดอร์ไปพบ ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปว่าท่าน Nayib Bukele จะสามารถใช้ Bitcoin ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนี้ได้สำเร็จหรือไม่ เพราะนี้เป็นเพียงแค่บทเริ่มต้นของประวัติศาสตร์การเงินของโลกใหม่เท่านั้นเอง


กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin & Cryptocurrency

อันดับ 1 ของโลก คนส่วนใหญ่นึกถึง Binance

อันดับ 1 ของไทย คนส่วนใหญ่นึงถึง Bitkub


*หมายเหตุ: นี่ไม่ใช่ content แนะนำในการลงทุนใด ๆ เป็นเพียงข้อมูลฐานทั่วไปเท่านั้น โดยนักลงทุนควรศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเองก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนใด ๆ ด้วยตัวของท่านเอง

Resources