Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to

Elon Musk ขึ้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้เป็นที่สำเร็จ

และแล้ว Elon Musk ผู้เป็นเจ้าของบริษัทอย่าง Tesla และ SpaceX ก็แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Jeff Bezos เจ้าของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon.com ที่ขึ้นครองตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 ได้เป็นที่สำเร็จ ด้วยทรัพย์สิน ณ วันที่ 7 ม.ค. ปี 2021 เขามีทรัพย์สินอยู่ที่ $186 พันล้านเหรียญฯ หรือราว ๆ 5.6 ล้านล้านบาท

เหตุผลก็เพราะ หุ้นของ Tesla ที่เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งนั้น มันพุ่งสูงขึ้น 7 เท่าโดยใช้เวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น และเป็นผลมาจากการที่รัฐสภาที่ ณ ตอนนี้ควบคุมโดยพรรคเดโมแครตนั้น กำลังพิจารณาที่จะให้ไฟเขียวและส่งเสริมสิทธิพิเศษต่าง ๆ เพื่อให้คนหันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น

หรือหากพูดให้เห็นภาพก็คือ หลังจากที่ Elon Musk ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ของโลกแล้วนั้น ก็ทำให้เกิดเศรษฐีเงินล้านตามมาอีกมากมาย จากการที่ได้ลงทุนในบริษัท Tesla ตั้งแต่เมื่อหลายปีที่แล้ว

หรือหากช่วงต้นปี 2020 ใครได้ลงทุนเอาไว้ใน Tesla ด้วยเงินจำนวน 1.43 แสนบาท และถือเอาไว้ผ่านไปเพียง 1 ปี มูลค่าของหุ้น ในช่วงต้นปี 2021 นี้ คน ๆ นั้นก็จะกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านทันที แถมยังมีคำกล่าวเป็นกิมมิกกับเศรษฐีกลุ่มนี้ว่า พวกเขาคือ Teslanaire หรือกลุ่มเศรษฐีเงินล้านเทสล่า อีกด้วย

และเมื่อข่าวการขึ้นเป็นคนรวยที่สุดในโลกที่ทาง Tesla ได้ Tweet ออกไปบน Twitter ทาง Elon Musk ก็ได้ ReTweet ตอบกลับด้วยข้อความสั้น ๆ ว่า “How strange” “แปลกดีเหมือนกันแฮะ”

แล้วในเวลาต่อมาไม่นานนัก เขาก็ Tweet ตามด้วยประโยคสั้น ๆ ห้วน ๆ ตามสไตล์ของเขาว่า “Well, back to work…” “เอาล่ะ, ได้เวลากลับไปทำงานแล้ว”

และแม้ว่าทรัพย์สินที่เขาถือครองจะส่งผลให้เขากลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เขาก็มักพร่ำบอกคนอื่นเสมอว่า เงินทั้งหมดนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อตัวของเขา มันไม่ได้มีไว้เพื่อให้เขามีบ้านใหญ่ขึ้น เยอะขึ้น, หรือเอาไว้ไปซื้อเรือยอร์ช เพื่อเอาไว้ไปท่องเที่ยวพักผ่อนมากยิ่งขึ้น เพราะแค่นี้ก็มีเวลาไม่พอที่จะทำงานอยู่แล้ว ซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของเงินทั้งหมดนั้นมันถูกใช้ไปในสองเรื่องหลัก ๆ ก็คือ

  • เรื่องแรก เงินจำนวนครึ่งหนึ่งมันมีไว้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับโลกนี้ให้มันดียิ่งขึ้น
  • และอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือเอาไว้สำหรับโปรเจคการนำมนุษยชาติไปตั้งรกรากที่ดาวอังคาร เผื่อว่าสักวันอาจมีอุกกาบาตตกลงบนโลกและมนุษย์อาจสูญพันธุ์เฉกเช่นในยุคของไดโนเสาร์ หรือไม่ก็อาจจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่อาจทำให้โลกล่มสลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ด้วยกันเองนี่แหละ มันจึงต้องคิดเผื่อเอาไว้เพื่อยังคงดำรงรักษาเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ไม่ให้สูญพันธุ์นั่นเอง

และด้วยความต้องการของผู้คนที่ต้องการครอบครองรถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น แถมยังบวกกับข่าวจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะพยายามผลักดันในรถยนต์สันดาปที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันนั้นลดลง และผลักดันให้ผู้คนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น เช่น อาจจะมีนโยบายเรื่องของภาษีที่ถูกกว่า หรืออาจมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่เหนือกว่ารถยนต์ประเภทสันดาปแบบเดิมที่ใช้น้ำมันในการขับเคลื่อน

และหลังจากบริษัท Tesla ได้เข้าไปใน S&P 500 index ที่เป็นดัชนีตลาดหุ้นที่คอยติดตามหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาจำนวน 500 แห่ง ที่มีความน่าเชื่อและได้รับการยอมรับจากนักลงทุน ได้กล่าวว่า มูลค่าของบริษัท Tesla นั้นสูงถึง $700 พันล้านเหรียญฯ หรือถ้าหากยังนึกภาพไม่ออกว่ามันเยอะแค่ไหน ก็ให้นักไปเลยว่า มันใหญ่กว่าบริษัท Toyota, Volkswagen, Hyundai, GM และ Ford รวมกันซะอีก และ Elon Musk นั้นก็ถือหุ้นของ Tesla อยู่เป็นจำนวนประมาณ 20% ของบริษัท นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้ในทันทีที่มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี

และความมั่งคั่งรำ่รวยของ Elon Musk นั้น ก็ไม่มีดีแค่เพียง Tesla เพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่น เขายังได้เป็นเจ้าของบริษัท SpaceX ที่ทำธุรกิจด้านการขนส่งอวกาศ ที่เมื่อต้นปี 2020 ที่ผ่านมายังได้ดีลโปรเจคกับทางองค์การ NASA ที่ถือว่าเป็นดีลที่เป็นเงินเม็ดใหญ่มาก ๆ อีกด้วย

ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ทาง Tesla มีปัญหาในการการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ล่าช้า จึงอาจทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่า Tesla จะไปต่อได้ แต่ในท้ายที่สุดทาง Elon Musk ก็สามารถผลักดันให้ Tesla มีกำลังการผลิตที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น และมากขึ้น จนสามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้กว่าครึ่งล้านคันได้ในปี 2020 ที่ผ่านมา แถมในช่วงหลังไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 ยังมียอดขายใน California เพิ่มขึ้นอีกกว่า 36% ทั้ง ๆ ที่กำลังเกิดโรคระบาดอย่าง COVID-19 ด้วยซ้ำไป ซึ่งมันเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ไปเยอะเลยทีเดียว

และนี่ก็เป็นเพียงแต่จุดเริ่มต้นของ Tesla ในเฟสแรก ๆ เท่านั้น ซึ่งหาก Elon Musk สามารถทำเป้าได้ทะลุตามจุดประสงค์ที่ทาง Tesla วางเอาไว้ได้ทั้งหมด เขาก็อาจจะกลายเป็นมนุษย์คนแรกของโลกที่อาจมีทรัพย์เกินกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

Resources