เมื่อประเทศล่มสลาย | How Countries Go Broke by Ray Dalio EP.0
Ray Dalio หนึ่งในนักลงทุนมหภาคและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยประสบการณ์ในการลงทุนกว่า 50 ปี เขาได้เฝ้าติดตามและวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกในหลายช่วงเวลา ทั้งช่วงที่เฟื่องฟูและช่วงที่เกิดวิกฤต
Ray ได้ใช้หลักการที่มีระบบและเป็นแบบแผนในการวิเคราะห์วัฏจักรเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ ‘วัฏจักรหนี้ขนาดใหญ่’ (Big Debt Cycles) ที่เขาเชื่อว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการทำความเข้าใจว่าทำไมประเทศต่าง ๆ ถึงได้ล้มละลาย เขาได้ทำการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ๆ ของโลกย้อนหลังไปกว่า 100 ปี และบางส่วนได้ย้อนศึกษาไปถึง 500 ปีเพื่อรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบและสร้างแบบจำลองที่สามารถอธิบายและคาดการณ์วัฏจักรเศรษฐกิจโลกเหล่านี้ได้
‘How Countries Go Broke‘ เป็นผลงานล่าสุดที่ Ray Dalio ต้องการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและกระบวนการที่ทำให้ประเทศต่าง ๆ ล่มสลาย โดยอิงจากการศึกษาวัฏจักรหนี้ขนาดใหญ่และประวัติศาสตร์การเงินของโลก เพื่อให้ผู้คนสามารถเรียนรู้จากอดีตและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเดิม ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมประเทศยิ่งใหญ่ที่เคยรุ่งเรืองถึงต้องล่มสลาย? มีปัจจัยใดบ้างที่เราควรเรียนรู้จากอดีต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต? มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน”
บทนำ (Introduction)
Ray Dalio เปิดประเด็นด้วยคำถามสำคัญว่า
“ประเทศมหาอำนาจที่ใช้สกุลเงินหลักของโลก (เช่นสหรัฐฯ) จะล้มละลายได้หรือไม่?” และอีกคำถามก็ถามว่า
“แล้วมีขีดจำกัดของการก่อหนี้ในภาครัฐหรือไม่?”
ซึ่ง Ray เขาพบว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญได้แตกออกเป็นสองฝ่าย:
- ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่ารัฐบาลของประเทศที่เป็นเจ้าของสกุลเงินที่เป็นเงินทุนสำรองของโลกสามารถพิมพ์เงินใช้หนี้ได้ไม่จำกัด (จึงไม่น่าจะล้มละลาย)
- อีกฝ่ายเห็นว่าการมีหนี้ที่มากและการเพิ่มหนี้อย่างรวดเร็วเป็นสัญญาณเตือนวิกฤตใหญ่ แม้จะยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด
Ray ชี้ว่าประเด็น “วัฏจักรหนี้ขนาดใหญ่ (Big Debt Cycle)” ที่กินเวลานานหลายสิบปีนั้น ยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างเพียงพอในแวดวงเศรษฐศาสตร์ทั่วไป ผู้กำหนดนโยบายหลายคนมักละเลยวงจรนี้เพราะมองเห็นแต่ “วัฏจักรหนี้ระยะสั้น” (Short-term Debt Cycle) ที่คุ้นเคยกันดีเท่านั้น
ดังนั้น Ray เขาจึงตัดสินใจทำการศึกษาวงจรหนี้ขนาดใหญ่ด้วยตนเอง โดยอาศัยประสบการณ์กว่า 50 ปีในฐานะนักลงทุนมหภาคที่ผ่านวิกฤตหนี้มาหลายรอบ และการวิจัยวิกฤตหนี้ครั้งใหญ่กว่า 100 ปีย้อนหลังอย่างละเอียด (และอย่างผิวเผินย้อนหลังไปอีก 500 ปี)
และจากผลการศึกษาของ Ray เขาก็พบว่าวัฏจักรหนี้ขนาดใหญ่นั้น ได้เกิดขึ้นซ้ำ แล้วซ้ำเล่า ในประวัติศาสตร์โลกที่ผ่านมา และนำไปสู่ “ฟองสบู่หนี้และการล่มสลายของประเทศ” ทุกครั้ง ไม่รูปแบบใดก็รูปแบบหนึ่ง
Ray เขาได้ยกตัวอย่างว่า จากปี ค.ศ.1700 มีสกุลเงิน ประมาณ 750 สกุล แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่ถึง 20% เท่านั้น และสกุลเงินที่เหลืออยู่เหล่านั้นก็ถูกลดค่า(เสื่อมค่าลง) อย่างรุนแรงมาหลายครั้งตามกลไกของวัฏจักรหนี้ขนาดใหญ่
Ray เขาตั้งข้อสังเกตว่าวัฏจักรนี้เคยถูกกล่าวถึงในคัมภีร์ไบเบิลในรูปแบบของ กฎปี Jubilee (Jubilee Year) ซึ่งเป็นการล้างหนี้ทั้งหมดทุก ๆ 50 ปี เพื่อคืนความยุติธรรมและความสมดุลให้กับสังคม แนวคิดนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เป็นหนี้ให้สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ โดยไม่ให้เกิดการสะสมหนี้จนเกินไป เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมให้กลับมามีความเท่าเทียมมากขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
นอกจากนั้น ในทางประวัติศาสตร์จีน แนวคิดคล้ายคลึงนี้ก็ปรากฏให้เห็นในช่วงการผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ (Dynastic Cycle) เมื่อราชวงศ์หนึ่งเริ่มอ่อนแอจากการบริหารที่ผิดพลาดหรือเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ เช่น หนี้สะสมที่ไม่สามารถจัดการได้ ก็จะมีการลุกฮือขึ้นของกลุ่มต่าง ๆ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจเป็นราชวงศ์ใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประวัติศาสตร์ของจีนหลายพันปีที่ผ่านมา
Ray มองว่าปรากฏการณ์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของกฎปี Jubilee หรือการผลัดเปลี่ยนราชวงศ์จีน เป็นตัวอย่างของวัฏจักรที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ตลอดประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก เป็นปรากฏการณ์สากลที่ “ไร้กาลเวลา” ที่ทุกประเทศควรทำความเข้าใจ
นอกจากนี้ Ray ยังอธิบายว่าการเกิดและการล่มสลายทางการเงินนี้ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่กำหนดวัฏจักรใหญ่ของประเทศ แต่สัมพันธ์กับอีก 4 ปัจจัยหลัก ซึ่งได้แก่
- วัฏจักรการเมืองภายใน (เช่น การเปลี่ยนขั้วอำนาจซ้าย-ขวา)
- วัฏจักรระเบียบโลกและความขัดแย้งระหว่างประเทศ
- เหตุภัยธรรมชาติ/โรคระบาด
- และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ทั้งห้าปัจจัยนี้สอดประสานกันและต้องพิจารณาร่วมกันในการวิเคราะห์การขึ้นลงของชาติมหาอำนาจโลก
(ซึ่งเขาได้ขยายในหนังสือ Principles for Dealing with the Changing World Order)
ส่วนในหนังสือ How Countries Go Broke นี้ เขาจะมุ่งเน้นที่แรงขับทางเศรษฐกิจการเงิน (หนี้/เงิน) เป็นหลัก พร้อมกับเชื่อมโยงผลกระทบจากปัจจัยอื่น ๆ ในบริบทที่จำเป็น
Resources