Shaquille O’Neal คืออดีตนักบาส NBA ชื่อดังที่หลังจากรีไทร์แล้วเขาก็ผันตัวไปเป็นผู้ประกอบการและผู้จัดรายการทีวี ที่ ณ ปี 2020 เขามีทรัพย์สินอยู่ที่ $400 ล้านเหรียญฯ หรือราว ๆ กว่า 12,000 ล้านบาท ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของการเงินแก่เด็กรุ่นใหม่
โดยเริ่มต้นจากพิธีกรในรายการข่าวถามเขาว่า “Shaq คุณมีคำแนะนำในการออมเงินอย่างไรบ้างสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มต้นเก็บตังค์”
โดย Shaq เริ่มต้นจากการขอกระดาษเปล่าจากพิธีกรแผ่นนึง แล้วเริ่มต้นอธิบายการออมเงินในสไตล์ของเขา โดยเขาสมมติให้กระดาษ A4 ที่ถืออยู่นี้สมมติว่าเป็นแบงค์ $100 แล้วทันใดนั้นเขาก็เริ่มฉีกกระดาษโดยเขาฉีกกระดาษออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน นั่นก็หมายถึง แบ่งเงินออกเป็นสองส่วน ส่วนละ $50 แล้วให้ทำการเก็บเงินครึ่งหนึ่งนั้นในบัญชีเงินออมทันทีที่ได้เงินมา และห้ามแตะเงินก้อนนี้โดยเด็ดขาด
และตอนนี้คุณก็จะเหลือเงินอีกครึ่งหนึ่งหรือ $50 ซึ่งจากการที่ Shaq ได้พบปะพูดคุยกับเหล่าบรรดาคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินมาอย่างมากมาย เขาพบว่าคนเหล่านี้จะทำการเก็บเงินอีกครึ่งหนึ่งทันที นั่นก็คือเอา $50 มาแบ่งเป็นสองส่วนก็คือส่วนละ $25 โดยเอาเงินก้อนนี้ส่วนหนึ่งไปลงทุนเพื่อให้เงินมันงอกเงย และอีกเช่นเดียวกัน ห้ามแตะเงินก้อนนี้โดยเด็ดขาด ปล่อยให้เงินทำงานของมันไป
มาถึงตอนนี้คุณก็เหลือเงินส่วนสุดท้ายก็คือ $25 หรือจะคิดเป็นสัดส่วน 25% ของรายได้ทั้งหมดที่คุณหามาได้ จงใช้สิ่งนี้เพื่อปรนเปรอความสุขของคุณอย่างเต็มที่อย่าให้เหลือ ไม่ว่าจะเป็น ซื้อบ้านใหม่, ซื้อรถใหม่, ซื้อประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือจะเอาไปท่องเที่ยวรอบโลก ก็จงใช้เงินในส่วนนี้ใช้จ่ายเท่านั้น ห้ามไปดึงเงินจากส่วนอื่น ๆ มาใช้เด็ดขาด
เพราะส่วนที่คุณเก็บไว้ก่อนหน้านี้นั้นมันเป็นเงินสำหรับการลงทุนเพื่อเอาไว้ใช้ยามหลังเกษียณอายุ เพราะหลังจากที่คุณหยุดทำงาน คุณจะไม่มีรายได้จากการทำงานอีกต่อไป ยกเว้นคุณจะมีทรัพย์สินที่สามารถสร้างเงินแบบ Passive Income ได้มากพอ หรือไม่ก็ได้เงินบำนาญจากการเป็นข้าราชการ(ที่น้อยมากเพราะจะได้แค่ครึ่งเดียวจากเงินเดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ แถมยังโดนฤทธิ์ของเงินเฟ้อที่ทำให้อำนาจการซื้อน้อยลงในทุก ๆ ปีอีกด้วย)
หลายคน พอฟังมาถึงตรงนี้ ก็จะเกิดคำถามที่ขัดแย้งกับคำสอนของ Shaq ทันทีเลยก็คือ อย่าว่าแต่ออม 75% 50% หรือ 10% เลย ทุกวันนี้เงินเดือนยังไม่พอกินพอใช้เลยด้วยซ้ำ จะเอาที่ไหนไปออม?
ซึ่งถ้าหากคุณตั้งต้นด้วยคำถามแบบนี้ คุณก็จะไม่คิดค้นหาวิธีการออมแน่ ๆ ทางที่ดีอาจเปลี่ยนคำถามใหม่เป็น แล้วฉันจะต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้สามารถมีเงินที่มากพอเพื่อที่จะใช้จ่ายในทุก ๆ วัน แถมยังมีเงินเหลือเก็บเหลือลงทุนเกินครึ่งได้ด้วย?
และเมื่อมีคำถามที่ดี คำตอบที่ดีก็จะค่อย ๆ ตามมา เช่น เราจะต้องหารายได้เพิ่มให้มากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าทุกวันนี้รายได้จากช่องทางเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป ยิ่งในช่วงวิกฤตแบบนี้ ยิ่งต้องเร่งหารายได้ทางที่ 2 3 4 มาเสริม เพื่อที่ว่า หากรายได้ช่องทางใดช่องทางหนึ่งหายไป เราจะยังคงดำเนินชีวิตต่อไปโดยไม่สะดุด หรือถ้าสะดุดล้มอย่างน้อยก็ล้มลงบนฟูกที่ไม่เจ็บตัวมากนัก
Resources