Site icon Blue O'Clock

4 วิธีการหาเงินในยุคออนไลน์ให้ได้มากขึ้น by Gary Vaynerchuk เจ้าพ่อโซเชียลมีเดียพันล้าน

Gary Vaynerchuk

Gary Vaynerchuk ทายาทเจ้าของร้านขายไวน์ ที่ใช้โซเชียลมีเดียปั้นยอดขายให้ธุรกิจของครอบครัวก้าวกระโดดจาก 3 ล้านเหรียญฯ ต่อปี ไปสู่ 60 ล้านเหรียญฯ ต่อปี หรือจากประมาณ 90 ล้านบาทต่อปี ไปสู่ 1,800 ล้านบาทต่อปี โดยใช้เวลาเพียง 5 ปี เท่านั้น

โดยปัจจุบัน Gary เปิดบริษัทตัวเองที่ชื่อว่า VaynerMedia ที่เป็นบริษัทเอเจนซี่รับทำการตลาดออนไลน์ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ โดยในปี 2020 นี้ โซเชียลมีเดียของ Gary มีผู้ติดตามหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น

ซึ่งรวมทุกช่องทางแล้วมีผู้ติดตามมากกว่า 20.9 ล้านคนเลยทีเดียว

โดยในโพสต์นี้ Gary จะมาแชร์ 4 วิธีการที่จะทำให้เงินในกระเป๋าของคุณเพิ่มขึ้นได้โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียแบบฟรี ๆ แต่มีพลังอย่างมหาศาล

วิธีที่ 1 Flip Stuff – ควานหาของ

Gary เล่าว่า คุณรู้หรือไม่ โอกาสทำเงินมีอยู่ต่อหน้าทุกคนอยู่แล้ว แต่หลายคนเลือกที่จะไม่ทำมันนั่นก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่ร้านค้าปลีกตามห้างสรรพสินค้า มีการลดราคากระหน่ำซัมเมอร์เซล จะมีผู้คนอยู่กลุ่มหนึ่งที่จะคอยไปควานหาสินค้าเหล่านี้เพื่อซื้อและนำมาถ่ายรูปแล้วโพสต์ขายบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะขายทาง Facebook, eBay หรือถ้าเป็นบ้านเราก็เว็บไซต์อย่าง Lazada ไม่ก็ Shopee ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้ สามารถทำเงินได้หลายแสนหลายล้านบาทต่อปี โดยใช้เวลาประมาณ 9-10 ชั่วโมงในแต่ละวัน ในการหาของ ถ่ายรูป โพสต์ แพคของ ส่งของ

แต่ในขณะที่หลาย ๆ คนที่กำลังเป็นหนี้หลายแสนหลายล้าน เอาแต่บ่นโอดครวญว่า ฉันจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่ารถ ค่าบ้าน ค่าบัตรเครดิต ซึ่ง Gary แนะนำว่า ให้คุณหยุดบ่น แล้วเริ่มต้นจากการควานหาของลดราคาตามห้างสรรพสินค้า แล้วของหัดถ่ายรูป โพสต์ขายบนโลกออนไลน์ดูซะ อย่ามัวเอาแต่กลัวว่าคนอื่นจะมองว่าหน้าที่การงานก็ดี มาโพสต์ขายของทำไม ซึ่งหารู้ไม่ว่า อาชีพค้าขายนี่แหละ คือหนึ่งในอาชีพที่ทำเงินได้มากที่สุดในบรรดาทุกอาชีพเลยก็ว่าได้

วิธีที่ 2 – Go all in on social media – ทุ่มหมดหน้าตักบนโลกโซเชียลมีเดีย

Gary เล่าให้ฟังว่า ย้อนกลับไปเมื่อประมาณยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนที่เขาช่วยทำการตลาดออนไลน์ให้กับร้านไวน์ของพ่อ ที่ ณ ตอนนั้นมีช่องทางขายหน้าร้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเมื่อก่อนอย่างมากก็มีแค่ทำการตลาดบน Google ด้วยการทำ SEO หรือการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับแรก ๆ บนผลการค้นหาของ Google แล้วเขาก็ยังทำ email marketing ขายของผ่านอีเมล ที่ ณ ตอนนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดีย

ต่อมาพอ Youtube เปิดให้บริการเขาก็ทำ Content Maketing ด้วยการทำวีดีโอรายการ Wine Library TV ที่รีวิวไวน์ต่าง ๆ ซึ่งเขาก็ทำวีดีโอรายการนี้มากกว่า 1,000 ตอน ซึ่งถ้าหากโพสต์วีดีโอเฉลี่ยวันละ 1 วีดีโอ โดยไม่ขาดเลยสักวัน จะต้องใช้เวลาทำเกือบ 3 ปีเต็มเลยทีเดียว และนี่ถือว่าเป็นจุดแข็งของ Gary เลยก็ว่าได้ ในเรื่องของความถึก อึด ทน และความมีวินัย ในการโพสต์คลิปวีดีโออย่างสม่ำเสมอ แต่นั่นมันก็ส่งผลให้ธุรกิจไวน์ของครอบครัวเขาเติบโตอย่างรวดเร็ด้วเช่นเดียวกัน

ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อ 10-20 ปีก่อนนั้น ใครต่อใครก็มองว่าเขาบ้า มานั่งพูดรีวิวไวน์หน้ากล้องแล้วก็อัพโหลดวีดีโอลงบน Youtube

แต่ในปัจจุบันโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นว่าในโลกออนไลน์กลับกลายเป็นโลกอันดับหนึ่งของผู้คน ในขณะที่โลกแห่งความเป็นจริงกลับกลายเป็นโลกอันดับที่สองรองลงมา เพราะจะสังเกตได้ว่า ผู้คนใช้เวลาอยู่กับโลกออนไลน์มากกว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ราวกับว่าโลกออนไลน์เป็นดั่งอวัยวะชิ้นที่ 33 ที่ขาดไปไม่ได้ซะแล้ว

ซึ่งกลายเป็นว่าในยุคนี้ หากธุรกิจใดที่ยังมีข้ออ้างที่จะไม่ทำการตลาดออนไลน์นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในวงการธุรกิจไปแล้ว ซึ่ง ณ ตอนนี้ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ร้านอาหาร ร้านขายอุปกรณ์กีฬา ร้านเสื้อผ้า หรือแม้แต่ร้านตัดผมก็ตามแต่ หากคุณไม่มีการทำการตลาดออนไลน์ตามช่องทางต่าง ๆ ธุรกิจคุณเตรียมตัวเจ๊งได้เลย

ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ การโฆษณาแบบดั้งเดิมอย่างในหนังสือพิมพ์หรือส่งจดหมายนั้น เป็นวิธีที่สิ้นเปลืองอย่างมากเมื่อเทียบกับการจ่ายเงินเพื่อลงโฆษณาบนโลกออนไลน์อย่าง Facebook, IG, Google หรือ Youtube เพราะมันสามารถวัดผลได้แบบ Real TIme และสามารถเริ่มต้นด้วยเงินเพียงหลักสิบหลักร้อยด้วยซ้ำไป

ในขณะที่การทำ Content Marketing หรือการทำการตลาดด้วยเนื้อหา ให้เข้าถึงผู้คนนั้น คุณสามารถเริ่มต้นได้ทันที แถมยังฟรีอีกด้วย เพราะคุณสามารถเริ่มต้นจากแฟนเพจ Facebook, IG หรือช่อง Youtube ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น เพราะเพียงแค่คุณมีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวคุณก็สามารถทำ Content ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

วิธีที่ 3 – เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับตัวของคุณ Maximize your productivity

หลายคนบ่นถึงหนี้สิน บ่นถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน แถมยังแก้เซ็งด้วยการหาอะไรดื่มให้มึนเมา ตามสโลแกน “จน เครียด กินเหล้า” หรือไม่ก็หาความบันเทิงใส่ตัวหลังจากที่กลับจากที่ทำงาน ซึ่ง Gary บอกว่า หากคุณยอมลำบากก่อนคุณจะสบายทีหลัง ลองใช้เวลาช่วงตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืนของทุก ๆ วัน ในการทำ คอนเท้นต์ออนไลน์ การศึกษาหาความรู้ในการทำการตลาดออนไลน์ หัดหาของมาลองขาย หัดถ่ายภาพ หัดโพสต์ อย่างต่อเนื่องสัก 3-4 ปี ต่อจากนี้อย่างขยันขันแข็ง ชีวิตคุณมันจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในช่วงชีวิตที่เหลือได้เลย เพราะนอกจากจะทำให้หนี้หมดได้เร็วขึ้นแล้ว คุณจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นมาด้วย แถมยังมีเงินเหลือไปต่อยอดได้อีกหลายเรื่อง

มันก็เหมือนกับคนที่ชอบบ่นว่าอ้วน แต่อยากมี six-pack แต่กลับไม่อยากออกกำลังกายนั่นแหละ ในขณะที่คนออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส อย่างละนิดอย่างละหน่อยในทุก ๆ วัน รวมไปถึงการควบคุมการกินอาหารอย่างมีวินัย ต่อเนื่องกันเป็นปี สุดท้ายคนเหล่านี้ก็จะมี six-pack ขึ้นมาเอง ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากการทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เรื่องฉาบฉวยที่จะเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ดังนั้น ให้ลดเวลาในการเสพย์ Netflix ลงหน่อย ลดการสังสรรค์ แล้วมุ่งมานะไปที่การทำออนไลน์วันละนิดอย่างต่อเนื่อง แล้วชีวิตคุณก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

วิธีที่ 4 – เปลี่ยนจากผู้เสพย์มาเป็นผู้ผลิต Produce Digital Content

หากในวันนี้คุณยังไม่แชร์ความคิดตัวเอง แชร์ขั้นตอนในการทำงาน แชร์เส้นทางการเติบโต แชร์ความก้าวหน้าในแต่ละขั้นของชีวิต ของธุรกิจ แชร์เป้าหมายที่คุณต้องการไปให้ถึงให้โลกได้รับรู้ ซึ่งการแชร์เรื่องราวของคุณนั้น สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องยึดมั่นและยึดถือเป็นหัวใจสำคัญเลยก็คือ เรื่องนั้น ๆ มันต้องเป็นประโยชน์กับผู้อื่นไม่ใช่เป็นประโยชน์แก่ตัวของคุณเอง นั่นแสดงว่า คุณไม่เห็นค่าของโลกออนไลน์เลยสักกะนิด

ดังนั้น หากวันนี้ ในมือคุณมีสมาร์ทโฟนอยู่ จงเปลี่ยนจากผู้เสพย์คอนเท้นต์มาเป็นผู้สร้างคอนเท้นต์ซะ จะเริ่มจากโซเชียลมีเดียตัวไหนสักตัวก็ได้ ที่คุณคิดว่าคเหมาะกับคุณ เหมาะกับกลุ่มผู้รับสารของคุณ ไม่ว่าจะเป็น

แต่ขออย่างเดียวให้เริ่มวันนี้ เดี๋ยวนี้เลย

Resources

Exit mobile version