Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to

ฮาวทูรวย How To Get Rich by Naval Ravikant EP.2 ตอน รวยได้เพราะโชคช่วยจริงหรือ?

จาก EPISODE 1 ทาง Naval ได้อธิบายไปแล้วว่า ความหมายของคำว่ามั่งคั่งร่ำรวยนั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร โดยในคอนเท้นต์นี้ Naval จะมาวิเคราะห์ให้ฟังว่า การที่บางคนบอกว่าการที่ใครจะรวยขึ้นมาได้นั้น จะต้องเป็นคนที่ดวงดี โชคดี โชคช่วย ถึงจะรวยได้ มันจริงหรือไม่อย่างไร?

โดย Naval บอกว่า การที่ใครสักคนทำเงินได้นั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชค แต่มันเป็นการสร้างลักษณะของคน ๆ นั้นให้สามารถดึงดูดเงินเข้ามาหาตนเองได้

โดย Naval บอกว่า ถ้าหากวันรุ่งขึ้นเขาตื่นมาแล้วพบว่าตนเองนั้นสูญสิ้นทรัพย์สินเงินทองทุกอย่างที่เคยมีไปทั้งหมด แล้วหากเขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศใดสักประเทศหนึ่ง แต่ขอเป็นประเทศที่สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ เขามั่นใจมากว่า ภายในเวลา 5 ปี เขาจะสามารถกลับมามั่งคั่งร่ำรวยได้อีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงว่า ตัวของเขาได้มี Skillsets หรือทักษะที่จำเป็นในการก้าวขึ้นเป็นคนมั่งคั่งร่ำรวยติดตัวอยู่ และเขาจะเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าใครก็สามารถฝึกษะที่จำเป็นต่อการเป็นคนที่มั่งคั่งร่ำรวยได้ทั้งนั้น

โดยเขาได้มีโอกาสได้อ่านบทความ blog post ที่เขียนโดย Marc Andreessen มหาเศรษฐีอันดับที่ 1,833 ของโลก ที่มีทรัพย์สินกว่า 1.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 46,000 ล้านบาท ได้เขียนเอาไว้ตั้งแต่ปี 2007 หลังจากที่เขาตกผลึกจากการอ่านหนังสือ Chase, Chance, and Creativity: The Lucky Art of Novelty ที่เขียนโดย Dr. James Austin

โดยเขาได้เขียนบทความที่ชื่อว่า Luck and the Entrepreneur: The four kinds of luck ความโชคดีกับเหล่าบรรดาผู้ประกอบการ : ความโชคดีทั้ง 4 ประเภท ซึ่งจริง ๆ ในหนังสือจะใช้คำว่า Chance ที่แปลว่า ‘โอกาส’ มีดังต่อไปนี้

  • Chance I: Blind Luck
  • Chance II: Motion
  • Chance III: Recognizing Good Fortune
  • Chance IV: Directed Motion

Chance I: Blind Luck

คือความโชคดีที่มาแบบงง ๆ มันมักจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ หาที่มาที่ไปไม่ได้ จู่ ๆ มันนึกจะมาก็มา โดยที่เราไม่ต้องพยายามทำอะไรเพิ่มเติมเลย ซึ่งโชคแบบนี้เขาเปรียบเปรยมันเหมือนกับการถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ ตัวเราแค่บังเอิญ ไปอยู่ถูกที่ ถูกเวลา ก็เท่านั้นเอง คุณแค่บังเอิญไปซื้อลอตเตอรี่ใบนี้ ที่นี้ เลขนี้ แล้วรางวัลก็ดันออกเหมือนกับเลขที่คุณซื้อเอาไว้ก็เท่านั้นเอง

Chance II: Motion

โชคที่เกิดจากการกระทำอะไรบางอย่าง ซึ่งโชคมันอาจจะเข้าหาหรือไม่เข้าหาคุณก็ได้ ทางที่ดีคุณไม่ควรที่จะคาดหวังใด ๆ ไม่ควรคิดเยอะ ไม่ต้องวิเคราะห์ ให้โชคดีมีโอกาสวิ่งเข้าหา เมื่อคุณลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง ถ้ามุมมองในคนทำธุรกิจ อาจจะเกิดโชคดีจากการที่คุณเลือกเข้ามาในตลาดที่กำลังฮอตฮิต กำลังบูม ณ ขณะนั้น ซึ่งถ้าหากคุณลงมือทำอย่างขยันขันแข็ง ในเส้นทางนั้น คุณอาจจะพบกับอะไรบางอย่าง ที่คุณอาจจะอุทานออกมาว่า “เรานี่โชคดีเหมือนกันแฮะ ที่ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดนี้” แต่โชคดีที่ว่านั้นจะไม่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย หากคุณไม่ได้ลงมือทำอะไรสักอย่างเลย

หรือหากเปรียบให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สมมติว่าคุณเป็นนักกีฬาเบสบอล มันคงจะดีกว่าหากคุณได้ลงเล่นในสนามที่มีโอกาสหวดลูก แน่นอนว่าคุณมีโอกาสหวดลูกโดนมากกว่าการที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวสำรองเป็นแน่แท้ และเช่นกันเมื่อคุณมีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง การหวดไม้มากขึ้น ก็มีโอกาสที่จะตีลูกถูกมากกว่าที่คุณเอาแต่ยืนถือไม้ไว้เฉย ๆ แน่ ๆ ส่วนจะตีได้โฮมรันหรือไม่นั้น มันก็ขึ้นอยู่กับความโชคดีของคุณ แต่ลูกตีโฮมรันไม่เกิดขึ้นแน่ ๆ หากคุณไม่คิดที่จะหวดไม้เลยสักครั้งเดียว

Chance III: Recognizing Good Fortune

ความโชคดีประเภทนี้ ตัวมันจะเผยตัวเองออกมาให้เห็นเลย คุณก็เห็น คนอื่นก็เห็น แต่จะเห็นในมุมมองที่แตกต่างกันออกไปตามองค์ความรู้, ประสบการณ์และทักษะเฉพาะตัว ดังคำกล่าวที่ว่า “จงเตรียมตัวคุณเองให้พร้อมรับเมื่อโอกาสมาถึง” ซึ่งแม้ว่าหลายคนจะเห็นโอกาสนั้น แต่กลับคว้าเอาไว้ไม่ได้ ล้มเหลวไม่มีชิ้นดี และแย่หน่อยที่หลายคนกลับมองไม่เห็นโอกาสนั้นซะด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น ยุคการมาของอินเตอร์เน็ตใหม่ ๆ ที่หลายคนก็ไม่เห็นว่าอินเตอร์เน็ตนั้นมันจะมีประโยชน์อะไร และบางคนก็เล็งเห็นแล้วว่าอินเตอร์เน็ตนั้นมีประโยชน์ แต่กลับไม่รู้ว่าจะใช้มันให้เกิดประโยชน์ยังไง และเช่นกัน หลายคนใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตแต่กลับล้มเหลว ไม่ปังอย่างที่คิด ในขณะที่ Google, Facebook, Amazon นั้นกลับนำการมาของโลกอินเตอร์เน็ตไปสร้างบริษัทที่ยิ่งใหญ่ได้

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ต่อให้เห็นว่ามีโอกาส มีโชคลาภลอยมา ก็ใช่ว่าทุกคนจะคว้ามันเอาไว้ได้ เพราะมันมีไว้สำหรับคนที่มองเห็นโอกาสและคว้ามันเอาไว้ได้เท่านั้น

Chance IV: Directed motion

รูปแบบสุดท้ายของดวงดีก็คือ มันเกิดจากที่เราเคลื่อนไหวโดยตรง ซึ่งจะแตกต่างจากดวงในแบบที่ 2 ที่อันนั้นมันเกิดจากการเดาสุ่ม คาดการณ์ไม่ได้ แต่ในขณะที่การเคลื่อนไหวแบบนี้ เป็นการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยยะ เคลื่อนไหวอย่างมีทิศทาง คุณเคลื่อนไหวไปตามลางสังหรณ์ เคลื่อนไหวไปตามสัญชาตญาณ แล้วโชคดีนั้นก็จะปรากฎขึ้นต่อหน้าคุณ

ดังนั้นความโชคดีในแบบที่ 3 และ 4 นั้น จะช่วยให้คุณพบกับความโชคดีที่ไม่เหมือนใคร เพราะมันเกิดจากตัวคุณล้วน ๆ และเป็นความโชคดีที่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ ความรู้ วิสัยทัศน์ มุมมอง สัญชาตญาณ และบุคคลิกนิสัยส่วนบุคคล

ดังนั้น คนเรา สามารถกำหนดโชคตะชาด้วยตัวของเราเองได้ โดยที่ไม่ต้องรอ สามารถวิ่งเข้าหาโชคได้เองเลย

โดย Naval ได้ยกตัวอย่างว่า สมมติว่าคุณเป็นนักดำน้ำที่เก่งมาก ๆ และสามารถดำน้ำได้ลึกชนิดที่เรียกได้ว่าไม่มีใครกล้าดำน้ำลึกขนาดนี้มาก่อน จนกระทั่งคุณก็ดำไปพบกับเรือโจรสลัดที่มีสมบัติเต็มลำนอนนิ่งอยู่ใต้พื้นน้ำนั้น นั่นคือคุณใช้ความสามารถ คุณใช้ความพยายาม คุณใช้พลังจากที่คุณมีอยู่ เพื่อเดินไปหาโชคนั้นด้วยตัวคุณเอง ทั้ง ๆ ที่เรือสมบัติลำนั้นมันก็อยู่ของมันตรงนั้นอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่เคยมีใครกล้าดำน้ำลึกในบริเวณนั้นมาก่อน

ในขณะที่บางคนก็โชคช่วยแบบงง ๆ ที่จู่ ๆ ก็มีสมบัติลอยมาบนชายหาดแล้วก็มีคนมาเห็นเข้า นั่นคือโชคแบบ Blind Luck คือนึกจะมาก็มา แต่ควบคุมโชคชะตาเองไม่ได้ ในขณะที่คนที่เจอสมบัติโดยบังเอิญ ก็เข้ามาถามคุณว่าหากคุณช่วยเขาลากกล่องสมบัตินั้นขึ้นมาจากชายฝั่งและช่วยเขาปกป้องและเก็บรักษา เขาจะแบ่งสมบัติให้คุณครึ่งหนึ่ง ซึ่งนั่นคือโชควิ่งเข้าหาคุณ และหากคุณรับโอกาสนั้นไว้ก็มีสิทธิได้รับโชคดี แต่หากคุณไม่คว้ามันไว้โชคนั้นก็หลุดลอยไป ดังนั้นจะเห็นได้ว่า โชคดีมาได้ในหลากหลายรูปแบบ แบบทั้งฟลุ๊ค หรือแบบมีคนนำโชคดีมาเสิร์ฟถึงที่ หรือแบบทั้งใช้แรงกายแรงใจเพื่อพุ่งเข้าหาโชคด้วยตัวคุณเอง

ซึ่งหลายคนก็ยังแคลงใจอยู่ว่า ที่ Naval รวยได้ ก็เพราะเขาเจอแต่โชคดี เป็นคนดวงดีอยู่แล้วต่างหากล่ะ ในขณะที่คนอื่น ๆ ไม่มีดวงด้านนี้เอาซะเลย

ซึ่งทาง Naval ก็ตอบว่า นั่นไม่ใช่เรื่องจริงเลย เพราะเขาโชคร้ายตั้งแต่เกิดมาด้วยซ้ำ ตั้งแต่เกิดมาเป็นคนอินเดียที่ยากจนขนแค้น แถมพออพยพมาอยู่ที่อเมริกา ที่เหมือนจะตั้งตัวได้ แต่ก็ดันพับกับโชคร้ายอยู่สองสามครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ขาดทุนในตลาดหุ้นจนเกือบหมดตัว, พอหันมาทำธุรกิจก็โดนพาร์ทเนอร์หรือหุ้นส่วนบริษัทโกงเงินไปอีก

ดังนั้นในเมื่อเขาเจอแต่โชคร้าย และโชคดีก็ไม่ค่อยเดินมาหาเขาเลย เขาจึงต้องเดินเข้าหาโชคดีด้วยตัวของเขาเอง

แล้วก็จบกันไปกับ Episode ที่ 2 ที่ว่าด้วยเรื่องของรวยได้เพราะโชคช่วย รวยได้เพราะดวงดีนั้นคือเรื่องจริงหรือไม่

แล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไปนะครับ

Resources