Site icon Blue O'Clock

จงเรียนรู้จากความล้มเหลว | 4 บทเรียนล้ำค่าจากมหาเศรษฐี 4 คน

เรียนรู้จากความล้มเหลว

ความล้มเหลว หลายคนมองในด้านลบว่ามันเป็นสิ่งที่แย่ มันเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่ในขณะที่คนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น พวกเขาล้วนแล้วแต่ผ่านความล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกคนต่างก็ยอมรับว่าความล้มเหลวคือส่วนหนึ่งของเส้นทางไปสู่ความสำเร็จ และนี่คือบทเรียนที่พวกเขาได้เรียนจากความล้มเหลว

บทเรียนความล้มเหลวจาก Sylvester Stallone

Sylvester Stallone ซุปเปอร์สตาร์ที่โด่งดังจากซีรี่ย์ภาพยนตร์เรื่อง Rambo และ Rocky ราชากำปั้น ทุบสังเวียน ที่ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียงนั้น เขายากจนมาก่อน ไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือกับเขาสักเครื่อง แถมยังเคยเป็นคนเร่ร่อนข้างถนน จนกระทั่งเขามีโอกาสได้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Rocky ขึ้นมา พร้อมกับมีข้อเสนอว่า หากใครต้องการบทภาพยนตร์นี้ จะต้องยอมให้เขาเล่นเป็นพระเอกของเรื่องนี้ด้วย โดยในตอนแรกสุดเขาได้รับข้อเสนอจากทางค่ายหนังเพื่อขอซื้อบทภาพยนตร์จากเขาในราคากว่า $125,000 ดอลล่าร์ แต่เขาก็ไม่ยอมขายเพราะค่ายหนังไม่ยอมให้เขาแสดงเป็นพระเอก ซึ่งทางค่ายหนังก็ยังไม่เลิกตื้อ เพิ่มข้อเสนอขอซื้อบทภาพยนตร์ในราคา $250,000 ก็แล้ว $350,000 ก็แล้ว จนกระทั่งยื่นข้อเสนอสุดท้ายที่หาก Sylvester Stallone อยากแสดงเป็นพระเอกด้วยแล้วล่ะก็ ทางค่ายหนังจะจ่ายค่าบทให้เขาแค่เพียง $35,000 หรือโดนกดราคาจากเดิมถึง 10 เท่า แต่ทาง Sylvester Stallone ก็รีบตอบตกลงทันที

และกว่าจะได้บทภาพยนตร์เรื่อง Rocky มานั้น เขายอมรับว่า เขาเขียนบทมาเป็นร้อย ๆ เรื่องที่กว่าจะได้ไอเดียในการเขียนเรื่อง Rocky ซึ่งตอนแรกสุดมันเขียนไม่ได้เรื่องเลย แต่เขาก็อาศัยว่าเขียนทุกที่ทุกวันจนบทมันดีขึ้นเรื่อย ๆ

ซึ่งสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ก็คือ ไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือทำ มันจะต้องอาศัยความผิดพลาดความล้มเหลวมานับไม่ถ้วน และเมื่อเผชิญกับความผิดพลาดความล้มเหลว ก็จะต้องไม่จมปลักอยู่กับมัน แต่จงเรียนรู้จากมัน แล้วนำไปปรับใช้กับปัจจุบันและอนาคตให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

และจากพยายามของเขานั้น ก็ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่อง Rocky สามารถคว้ารางวัลออสการ์ไปได้ถึง 3 รางวัลด้วยกันนั่นก็คือ

แถมตัวของเขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขา Best Actor ในปีนั้นอีกด้วย ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาที่ไม่ได้เลือกแค่เพียงตัวเงินจากการขายบทภาพยนตร์ แต่เขามองเห็นลู่ทางในการสร้างชื่อจากบทที่เขาเขียนว่ามันมีมูลค่ามหาศาลมากกว่าเงินก้อนนั้นเยอะ

นั่นจึงทำให้ชื่อเสียงของ Sylvester Stallone ดังเป็นพลุแตกกันเลยทีเดียว ซึ่ง Sylvester Stallone ได้บอกเอาไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะล้มเหลวสักกี่ร้อยครั้งก็ตามที ขอเพียงสำเร็จแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว

โดยในปี 2021 นี้ เขามีทรัพยืสินรวมอยู่ที่ $400 ล้านดอลล่าร์ หรือราว ๆ 1,200 ล้านบาท

บทเรียนความล้มเหลวจาก Larry Page

Larry Page คือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Google เขาได้แชร์เส้นทางการไปสู่ความสำเร็จ โดยเขาได้เล่าว่า มีคลาสเรียนอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้จากอาจารย์ในการที่จะเป็นผู้นำที่ดีได้นั้นจะต้องไม่กลัวในเผชิญหน้ากับความล้มเหลว ในทางตรงกันข้ามทางอาจารย์ให้เราตั้งเป้าหมายที่จะล้มเหลวให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และล้มเหลวให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นคือวิธีที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

บทเรียนต่อมาก็คือ การที่อาจารย์ได้ตั้งสโลแกนในห้องเรียนว่า “Healthy disregard for the impossible.” ที่แปลได้ประมาณว่า จงเพิกเฉยในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โดยให้เราลองเขียนลงกระดาษในเรื่องที่คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เราคิดว่าเราสามารถทำให้มันสำเร็จได้ ซึ่งตัวของเขาเองก็ได้ลองทำในหลายสิ่งหลายอย่าง จนเกือบจะไม่ได้เปิดบริษัทซะด้วยซ้ำ เพราะมันมีความล้มเหลวมากกว่าสิ่งที่ทำได้สำเร็จ แต่ความล้มเหลวนั้นก็ไม่ได้เป็นตัวฉุดรั้งให้ Google ตกต่ำลง เพราะพวกเรามองว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะล้มเหลว เพราะจะสังเกตได้ว่า Google ได้ทดลองโปรเจคเยอะแยะมากมาย และก็มีหลายโครงการที่ได้ปิดตัวลงไป แต่ในบรรดาสิ่งที่ได้ลองทำนั้น อันที่มันเวิร์คไม่กี่อย่างมันก็ทำให้ Google เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ นั่นก็เป็นเพราะ ได้ลองทำในหลายสิ่งหลายอย่างมาก ๆ และบางอย่างก็ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงที่สูงกว่าปกติ แต่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยนั่นแหละ มันจะก่อให้เกิดโปรเจคที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ออกมาได้อยู่เสมอ และหากคุณได้ลองลงมือทำมันมากพอ ในท้ายที่สุดคุณก็จะได้ผลลัพธ์ที่ตอบแทนกลับคืนมาอย่างงดงาม

โดยในปี 2021 นี้ เขามีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ $110.6 พันล้านดอลล่าร์ฯ หรือราว ๆ 3.6 ล้านล้านบาท เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 8 ของโลก

บทเรียนความล้มเหลวจาก Brian Tracy

Brian Tracy นักขาย, นักพูดและนักเขียน Bestsellers ได้แชร์ประสบการณ์ในการทดลองในการทำในสิ่งใหม่ ๆ ไอเดียใหม่ ๆ ว่าตัวเขาได้เรียนรู้ว่า ไม่มีอะไรที่ลองทำเป็นครั้งแรกแล้วประสบความสำเร็จในทันทีเลย ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่พอลองทำแล้วล้มเหลวสักครั้งสองครั้งก็เลิกล้มความตั้งใจนั้นไปแล้ว

โดยเขาได้เรียนรู้เมื่อตอนได้ไอเดียเทคนิคในการนำเสนอขายสินค้า เป็นไอเดียใหม่ ๆ ที่เขาหวังว่ามันจะช่วยเพิ่มยอดขายและทำให้เขาประสบความสำเร็จในเส้นทางการเป็นนักขายได้ เขาจึงลองนำไอเดียเหล่านั้นไปทดลองใช้ในทันทีแต่แล้วเขาก็พบว่ามันไม่เวิร์ค ไม่ว่าจะเป็นการลองนัดหมายกับลูกค้าเพื่อนำเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือวิธีการตอบข้อแย้งเมื่อลูกค้าปฏิเสธที่จะซื้อสินค้าหรือวิธีการปิดการขายด้วยเทคนิคใหม่ ๆ ซึ่งพอลองไปได้สักครั้งสองครั้งแล้วมันไม่ได้ผลเขาก็มักจะนอยส์อยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่เขายังไม่ถอดใจ เขาจึงลองให้มั่นใจว่าเทคนิคนี้มันจะใช้ไม่ได้ผลจริง ๆ หรือไม่ โดยเขาตั้งกฎกับตนเองเอาไว้เลยว่า ทุกครั้งที่เขาได้ไอเดียในลองเทคนิคใหม่ ๆ เขาจะลองใช้มันอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าห้าหรือสิบครั้งซะก่อน แล้วค่อยตัดสินว่ามันไม่ได้ผลจริง ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าพอเขาลองไปสักห้าถึงสิบครั้ง มันกลับใช้ได้ผล และนั่นก็ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา ที่เขาไม่ยอมถอดใจไปตั้งแต่ครั้งแรกที่ล้มเหลว เขาจึงได้บทเรียนในครั้งนั้นว่า เมื่อเราได้ไอเดียใหม่และเป้าหมายใหม่ จงอย่ารีบถอดใจในครั้งหรือสองครั้งแรก แต่ให้ลองทำสักสิบครั้งซะก่อน แล้วลองไอเดียใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะหากเราต้องการผลลัพธ์ใหม่ ๆ เราก็จะต้องลงมือทำในเรื่องใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยลองทำมาก่อนด้วย และนั่นมันก็ทำให้เขาเริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณอยู่เสมอ

โดยในปี 2021 เขามีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ $15 ล้านดอลล่าร์ หรือราว ๆ 490 ล้านบาท

บทเรียนความล้มเหลวจาก Ray Dalio

Ray Dalio คือเจ้าของ Bridgewater Associates ที่เป็น Hedge Fund หรือกองทุนบริหารความเสี่ยงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเขาได้แชร์ว่า ความล้มเหลวคือหนึ่งในกระบวนการการเรียนรู้ในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ คุณจะกลัวความล้มเหลวมันไปทำไม คุณกลัวว่าล้มเหลวแล้วจะทำให้คุณดูน่าอับอายหรือดูน่าเวทนาหรือยังไงกัน มันเป็นเรื่องแค่นั้นเองหรือที่คุณกลัวว่าจะล้มเหลว

ก่อนอื่นเลยคุณจะต้องแยกแยะระหว่างความล้มเหลวกับกระบวนการการเรียนรู้เสียก่อน โดยความล้มเหลวมันคือการล้มแล้วไม่ลุก หรือพูดง่าย ๆ ก็คือคุณหยุดทำ เลิกทำมันไปแล้ว แต่หากคุณล้มแล้วลุก แล้วเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตเพื่อนำไปปรับปรุง ปรับใช้ในอนาคตให้มันดียิ่งขึ้น นั่นไม่นับว่าเป็นความล้มเหลว เพราะมันคือกระบวนการการเรียนรู้เพื่อเดินต่อไปข้างหน้าอย่างถูกวิธี

ดังนั้นกระบวนการการก้าวไปสู่ความสำเร็จ มันคือ การล้ม ล้มแล้วลุก เรียนรู้ และก้าวไปข้างหน้า และลงมือทำอย่างต่อเนื่อง เพราะหากคุณไม่ทำเช่นนั้นไปตลอด ในท้ายที่สุดคุณก็จะเป็นคนตกยุคล้าหลัง ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะเจอกับความผิดพลาด เพราะคุณกำลังเดินไปในเส้นทางใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครไปมาก่อน มันไม่แปลกเลยที่คุณจะพบเจอกับอุปสรรค โดยหน้าที่ของคุณก็แค่ผ่านอุปสรรคใหม่ ๆ เหล่านั้นมันไปให้ได้ก็เท่านั้นเอง

โดยในปี 2021 เขามีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ $20.3 พันล้านดอลล่าร์ฯ หรือราว ๆ 6.6 แสนล้านบาท เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 88 ของโลก

Resources

Exit mobile version