Blue O'Clock

สตูดิโอผลิตและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านการลงทุน ธุรกิจ จิตวิทยาและการพัฒนาตนเอง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

How to

3 เทคนิคอ่านหนังสือให้ได้สัปดาห์ละเล่ม by Jim Kwik

หลายคนมักบ่นว่า ไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือ แต่ผลสำรวจกลับบอกว่า ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาในการอ่านอีเมล อ่านบทความบนเว็บไซต์ อ่านเนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย หรือดูหรือฟังข้อมูลต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ เฉลี่ยวันละ 4 ชั่วโมง

ซึ่งทำให้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเหลือเวลาในการไปอ่านหนังสือให้ได้อย่างเก่งเดือนละ 1 เล่ม หรือปีละ 12 เล่ม นี่ก็ถือว่าหืดขึ้นคอแล้ว แต่เชื่อหรือไม่ว่า คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นั้น พวกเขามักอ่านหนังสือเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 เล่ม หรือเดือนละ 4 เล่ม หรือปีละ 48 เล่ม นั่นเท่ากับว่า พอวันเวลาผ่านไป 1 ปี แค่เทียบกับตัวเราก่อนหน้าหน้านี้ เราจะสามารถอ่านหนังสือได้มากขึ้นถึง 4 เท่า หรือตัวเราจะเก่งเพิ่มขึ้นได้ถึง 4 เท่า โดยใช้เทคนิค 3R ที่ Jim Kwik ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง ที่เขาใช้เวลากว่า 30 ปี เพื่อพัฒนาเทคนิคการใช้พลังจากสมองให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด และได้นำมาใช้เพื่อให้สามารถอ่านหนังสือได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

1 – READ อ่าน

แน่นอนว่าหากคุณอยากอ่านได้มากขึ้น คุณก็ต้องเริ่มด้วยการอ่านซะก่อน ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นคำตอบแบบกำปั้นทุบดินไปสักหน่อย แต่นั่นก็คือเรื่องจริง เพราะต้องยอมรับว่าผู้นำส่วนใหญ่มักเป็นผู้อ่านที่ดี ดังคำกล่าวที่ว่า Readers are Leaders และการที่จะมีเวลาอ่านหนังสือได้นั้น คือการหาเวลาให้มันโดยการลงในตารางเวลาในปฏิทินของเราเลยว่า เราจะอ่านเมื่อไหร่ ตอนไหน

2 – RELATE เกี่ยวข้อง

โดยจากสถิติสำหรับคนธรรมดา ๆ ทั่ว ๆ ไป ใครก็ตามถ้าหากอ่านหนังสือเฉลี่ยแค่เพียง 20 นาทีต่อวัน คน ๆ นั้นก็จะสามารถอ่านหนังสือจบเล่มได้โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าอยากอ่านให้จบภายใน 1 สัปดาห์ ให้คุณปรับเวลาอ่านเป็นเฉลี่ยวันละ 45 นาทีขึ้นไป ก็จะสามารถอ่านหนังสือเล่มนั้นจบได้ภายใน 1 สัปดาห์ได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องอ่านเร็วขึ้น อ่านด้วยความเร็วปกตินี่แหละ

ต่อมาให้คุณหาเพื่อน หาแก๊งค์ เพื่อ challenge เพื่อท้าแข่งกันอ่านหนังสือให้จบสัปดาห์ละเล่ม หากลุ่มเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือที่คุณอ่าน เพราะโดยปกติแล้ว เวลาที่เราจะเล่าเนื้อหาในหนังสือให้ใครสักคนฟังนั้น หัวสมองของคนเราจะเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นอย่างไม่เชื่อก็คือ จู่ ๆ สมองของเราก็จะประมวลผลตัวหนังสือเป็นข้อความสั้น ๆ ง่าย ๆ ที่สามารถอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ออกมาในภาษาที่ตัวเราและเพื่อนเรานั้นเข้าใจได้ง่ายที่สุด ซึ่งมันคือการใช้ประโยคหรือคำที่ Relate หรือเกี่ยวข้องกับตัวเรา เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรา

โดยกระบวนการที่เกิดขึ้นก็คือ ข้อมูลการอ่านเข้าสู่ eyes หรือตาของเรา โดยเนื้อหาจะเข้าไปประมวลผลใน mind หรือจิตใจของเรา แล้วออกมาเป็นคำพูดผ่าน mouth หรือปากของเรา ด้วยความเข้าใจในข้อมูลที่ได้อ่านมา

3 W(R)ITE เขียน

เนื่องจากหนังสือนั้น มีหลายหน้ามาก และการที่เราอ่านไป ไฮท์ไลท์ข้อความที่สำคัญแต่ละหน้า แต่พอจะค้นหาข้อความสำคัญดังกล่าว ก็จะต้องมาเสียเวลานั่งหาอีกว่า มันอยู่หน้าที่เท่าไหร่ ดังนั้น Jim Kwik เขาจึงแนะนำว่า ให้ลองนำคำที่เป็น Keyword หรือกุญแจสำคัญในแต่ละหน้า นำมาเขียนรวมกันไว้ที่หน้าเดียวกันทั้งหมด ซึ่งมันจะทำให้เราเห็นภาพด้วยการเชื่อมโยงแต่ละ Keyword เข้าด้วยกัน จนได้ใจความที่สำคัญ ๆ ของหนังสือเล่มนั้น

Resources