กุญแจสำคัญที่ทำให้ Jack Ma กลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านที่คุณอาจไม่เคยรู้
Jack Ma มหาเศรษฐีชาวจีน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอย่าง Alibaba ที่กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ซึ่งเบื้องหลังแห่งความสำเร็จที่หลายคนอาจไม่ทราบก็คือ กว่าที่เขาจะประสบความสำเร็จระดับโลกได้เฉกเช่นทุกวันนี้นั้น เขาเคยเป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่งที่เกิดในครอบครัวที่ยากจน แต่มีอยู่ทักษะหนึ่งที่ Jack Ma สั่งสมมาตั้งแต่ในวัยเด็ก และผลักดันให้เขาก้าวข้ามอุปสรรคทั้งหมดได้ นั่นก็คือความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
โดย Jack Ma เริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่ในช่วงที่เขาเป็นวัยรุ่นอยู่ ด้วยการที่เขาจะต้องปั่นจักรยานออกจากบ้าน เป็นระยะทางกว่า 27 กิโลเมตร แทบทุกวันเพื่อไปเป็นไกด์นำเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเยือนเมืองหางโจวบ้านเกิดของเขา โดยทำงานแบบฟรี ๆ เพียงเพื่อที่จะแลกกับการได้เรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งนั่นคือโอกาสทองที่ทำให้เขาได้ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาจริง ๆ ทำให้ความพยายามในการฝึกฝนภาษาอังกฤษทุกวันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ทำให้เขาได้ซึมซับวัฒนธรรมฝั่งตะวันตก เรียนรู้สำเนียงและเพิ่มคลังคำศัพท์อย่างมหาศาล
และถึงแม้ Jack Ma เขาจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ติดถึง 2 ครั้ง แต่ในที่สุดเขาก็สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยหางโจวได้สำเร็จ และเลือกศึกษาต่อในสาขาการสอนภาษาอังกฤษ จนได้เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนจบมา ที่ถึงแม้เขาจะได้เงินเดือนเพียงแค่ 100 หยวน หรือประมาณ 500 กว่าบาท แต่เขาก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองและยังคงแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ
และแล้วโอกาสสำคัญก็มาถึง เมื่อในปี 1995 Jack Ma ได้มีโอกาสไปเยือนยังประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในฐานะของล่าม ซึ่งความสามารถด้านภาษาอังกฤษก็ทำให้เขา สามารถเข้าถึงและเรียนรู้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่กำลังเริ่มเฟื่องฟูในยุคนั้นได้อย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่แม้ว่าตัวของเขานั้นไม่เคยใช้งานคอมพิวเตอร์มาก่อนเลยก็ตามที ซึ่งเขามองเห็นโอกาสทางธุรกิจออนไลน์ที่จะเชื่อมประเทศจีนเข้ากับกับตลาดโลกได้ จากนั้นเมื่อเขากลับมายังประเทศจีน ก็ได้ทำการระดมทุนจากเพื่อน ๆ อีก 17 คน เพื่อก่อตั้ง Alibaba ที่แม้พวกเขาเหล่านั้นจะไม่เคยรู้จักอินเทอร์เน็ตมาก่อนเลยก็ตามที แต่พวกเขาก็เชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของ Jack Ma
และด้วยความสามารถด้านภาษาอังกฤษของ Jack Ma ก็ทำให้เขาสามารถเจรจาต่อรองธุรกิจและระดมทุนจากนักลงทุนและพันธมิตรต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Goldman Sachs, Softbank และ Yahoo ต่างก็ให้การสนับสนุน Alibaba จนเติบโตกลายเป็นยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของโลก
ซึ่งจะเห็นได้ว่า Jack Ma นั้น เขาได้สร้างโอกาสอย่างมหาศาลจากการพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ
และอีกหนึ่งประเด็นที่ Jack Ma เขาพูดถึง ก็คือเทคโนโลยี AI ซึ่งเขามองว่าเจ้าปัญญาประดิษฐ์นั้นมันมีทั้งความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ซึ่งความก้าวหน้าของ AI นั้น มันอาจจะทำให้ตำแหน่งงานหลายตำแหน่งอาจถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ แต่ในขณะเดียวกันเจ้า AI มันก็จะช่วยสร้างโอกาสและงานใหม่ ๆ ที่ใช้คู่กับความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้น ถ้าคุณไม่อยากพลาดโอกาสดี ๆ ในหน้าที่การงานและชีวิต ไม่ว่าตอนนี้คุณจะอายุเท่าไหร่ อยู่วัยไหน สิ่งที่คุณควรเริ่มทำอย่างจริงจังตั้งแต่วินาทีนี้ ก็คือการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการพูด โดยคุณสามารถเริ่มต้นด้วยการฝึกฝนตาม Jack Ma ได้เลย
แต่อย่างไรก็ตาม การฝึกพูดคนเดียวก็มีข้อเสียบางประการ ก็คือ ตัวเรานั้นไม่สามารถฝึกทักษะการพูดและการสื่อสารในเรื่องของภาษา ด้วยการพูดคนเดียวได้ เพราะไม่มีใครคอยแก้ไขเวลาเราพูดอะไรผิด นอกจากนั้นยังไม่สามารถฝึกการสื่อสารในแบบจำลองสถานการณ์จริง ทำให้เราแทบไม่ได้รู้จักและลองใช้คำศัพท์ใหม่ ๆ ทำให้อาจความท้อใจและล้มเลิกไปได้ง่าย ๆ
ดังนั้น วิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทุกคนในยุคปัจจุบัน ก็คือการนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยในการฝึกพูดและสื่อสารภาษาอังกฤษ เพราะการมี AI นั้น มันจะคอยฝึกพูดกับคุณและช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดในระหว่างการฝึกแบบเรียลไทม์ เหมือนกับการพูดคุยกับเจ้าของภาษา ที่เปรียบเสมือนมีโค้ชภาษาอังกฤษส่วนตัว แถมคุณยังสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และในปัจจุบันก็มีแอปพลิเคชันล้ำหน้าที่มีการผสานรวมเข้ากับเทคโนโลยี AI อัจฉริยะในการฝึกพูดภาษาอังกฤษ นั่นก็คือ ELSA Speak
และสำหรับใครที่ต้องการเริ่มต้นฝึกพูดภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน ทาง Blue O’Clock ขอแนะนำให้ลองสมัครแพ็คเกจ ELSA Pro ดูเลย เพราะมันจะมาพร้อมกับระบบ AI ที่สร้างเส้นทางการเรียนรู้ส่วนบุคคล และคอยแนะการออกเสียง น้ำเสียง การเน้นเสียง และแนะนำบทเรียนให้ในทุก ๆ วัน เรียกได้ว่าเหมือนเรามีโค้ชส่วนตัวคอยดูแลการฝึกฝนการออกเสียงภาษาอังกฤษอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว
ที่สำคัญก็คือเจ้า AI ของ ELSA มันเจ๋งตรงที่ว่า มันสามารถวิเคราะห์ข้อผิดพลาดในการออกเสียงได้อย่างแม่นยำลงลึกถึงระดับพยางค์เลยทีเดียว แถมยังชี้ให้เห็นชัดเจนผ่านบนหน้าจอด้วยกัน 3 สี คือ
- สีเขียว แสดงว่าถูกต้อง
- สีส้ม แสดงว่าเกือบถูก
- ส่วนสีแดง แปลว่าผิด
ซึ่งเจ้า AI ก็จะมาอธิบายเพิ่มเติมว่าคำนั้น ๆ ควรจะออกเสียงยังไงให้ถูกต้องเมื่อ click ในส่วนสีแดงหรือสีส้ม
ทีนี้เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ผมจะขอสาธิตการใช้งาน ELSA Pro ให้ดูสักหน่อยนะครับ
ก่อนอื่นเรามาเลือกหัวข้อหรือ Topic ที่เราสนใจกันก่อน อย่างผมนี่ขอหยิบหัวข้อ Work and career > Business มาลองเรียนดู เราก็แค่แตะเข้าไป ระบบก็จะพาเราไปที่หน้าบทเรียนที่มีคำศัพท์และประโยคต่าง ๆ ให้ฝึกฝนกันแบบจุใจ
ลองเลือกคำนี้มาออกเสียงดูนะครับ ผมจะตั้งใจออกเสียงผิดให้ฟังก่อน
เห็นไหมครับ? ทันทีที่ออกเสียงผิด คำที่ผิดก็จะกลายเป็นสีแดง และเมื่อเราแตะเข้าไปดูรายละเอียด แอปก็จะมีทั้งคำอธิบายและรูปภาพเกี่ยวกับวิธีการออกเสียงที่ถูกต้องให้เราดู เท่านี้ก็จะพอจับทางได้แล้วว่าเราต้องแก้ไขตรงไหน
โดยเราสามารถออกเสียงประโยคซ้ำ ๆ จนกว่าจะพอใจกับผลลัพธ์ ซึ่งระบบจะวัดความถูกต้องและความคล่องแคล่วให้ด้วย เรียกได้ว่าเราสามารถเห็นพัฒนาการของตัวเราเองได้แบบชัดเจนเลย
ดังนั้นแค่เราใช้แพ็คเกจ ELSA Pro มาฝึกซ้อมเป็นประจำ จะทำให้ภาษาอังกฤษของเราพัฒนาแบบพุ่งแรงแซงโค้งไปเลย เพราะมันเหมือนกับเป็นการจ้างครูสอนภาษาอังกฤษมาคอยติวแบบตัวต่อตัวกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การฝึกบทเรียนพื้นฐานก็ยังคงไม่เพียงพอต่อการสื่อสารในชีวิตจริงและนำมาปรับใช้เพื่อช่วยเหลืองานของเราได้ เพราะเราจำเป็นต้องฝึกการพูดโต้ตอบกันไปมา ที่หากเราต้องการฝึกพูดอย่างครอบคลุมจากระดับเบสิคไปถึงขั้นแอดวานซ์เลย
ซึ่งทาง ELSA ก็มีแพ็คเกจแบบ Premium ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ ELSA AI ที่เปิดโอกาสให้เราได้เล่นบทบาทสมมติแบบ role-play ที่เป็นการจำลองสถานการณ์ การสนทนากับ AI ได้แบบเรียลไทม์ เสมือนเราได้คุยกับเจ้าของภาษาแบบตัวเป็น ๆ ที่ไม่ต้องกลัวหรือเขินอายอีกต่อไป เพราะเราสามารถฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่กับเจ้าปัญญาประดิษฐ์
โดยความเจ๋งของเจ้า ELSA AI ก็คือ เราสามารถเลือกสถานการณ์ที่อยากฝึกได้ด้วยตัวเอง หรือสร้างเองก็ได้เช่นกัน
ส่วนใครที่กังวลว่าจะคุยกับ AI ไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องห่วง เพราะระบบจะช่วยแนะนำประโยคและสำนวนให้เราใช้ตอบได้อย่างเหมาะสมแม้ในยามที่เรา ติดขัด
และเมื่อเราสนทนากับ AI จบลง ระบบก็จะสรุปผลการประเมินออกมาอย่างละเอียด ตั้งแต่การออกเสียง, การใช้คำศัพท์ ไปจนถึงไวยากรณ์ต่าง ๆ เรียกได้ว่าจะได้เห็นข้อบกพร่องของตัวเองแบบเจาะลึกไปเลย
ทีนี้ เดี๋ยวผมจะลองสาธิตดูหน่อยครับว่าการสนทนากับ ELSA AI นั้นจะเป็นเป็นยังไง
จะเห็นได้ว่าเราสามารถสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติ และได้รับ Feedback ในทุกประเด็นจริง ๆ ต่อให้ฝึกคนเดียวก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย
และสำหรับแพ็คเกจ ELSA Premium นอกจากฟีเจอร์ ELSA AI แล้ว ยังมีฟีเจอร์อีกอันที่น่าสนใจมากก็คือเจ้า ELSA Speech Analyzer ที่เป็นเว็บแอป สำหรับฝึกการพูดภาษาอังกฤษได้แบบฟรีสไตล์ไปเลย คุณแค่เพียงบันทึกเสียงของตัวเองที่กำลังพูดหรือนำเสนออะไรก็ได้ลงไป แล้วระบบจะประเมินทักษะการพูดของคุณแบบจัดเต็ม พร้อมกับให้คะแนนและคำแนะนำในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น
แถมเจ้า ELSA Speech Analyzer นี้ยังสามารถคาดการณ์คะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอย่าง IELTS, TOEIC, TOEFL, PTE หรือ CEFR ให้ด้วย
เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่กำลังติวสอบภาษาอังกฤษตัวจริงเลย ซึ่งไม่ว่าคุณจะต้องเตรียมตัวเพื่อการสัมภาษณ์งาน การประชุม หรือการสอบวัดระดับ ก็สามารถใช้เจ้า ELSA Speech Analyzer ฝึกซ้อมได้หมดเลย
จะเห็นได้ว่าแพ็คเกจ ELSA Premium นี้ เป็น All-in-One แพ็คเกจสำหรับคนที่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษแบบครบวงจร
สุดท้ายนี้ ทาง Blue O’Clock อยากจะบอกเลยครับว่า ELSA Premium คือตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับใครก็ตามที่ตั้งใจจะพัฒนาภาษาอังกฤษให้โปรขึ้นอีกระดับ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ ELSA AI ที่ให้คุณได้ฝึกสนทนากับเจ้าของภาษา หรือจะเป็น ELSA Speech Analyzer ที่ช่วยวิเคราะห์จุดบกพร่องและช่วยให้คุณพูดอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
แล้วที่พิเศษสุด ๆ ไปกว่านั้น สมาชิก ELSA Premium จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงหลักสูตรใบรับรอง (𝗖𝗲𝗿𝘁𝗶𝗳𝗶𝗰𝗮𝘁𝗲 𝗖𝗼𝘂𝗿𝘀𝗲) และใบรับรองจาก ELSA, Oxford, IELTS, Harper Collins หรือ PTE แบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย เรียกได้ว่าจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว แต่ได้ประโยชน์คุ้มไปยาว ๆ เลย
โดยผมเชื่อมั่นว่า ELSA Premium จะเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ต้องการไขว่คว้าโอกาสใหม่ ๆ ในโลกยุคไร้พรมแดนด้วยภาษาอังกฤษ ที่ไม่ว่าคุณฝันอยากที่จะทำงานกับบริษัทข้ามชาติ หรืออยากศึกษาต่อที่ต่างประเทศ
การลงทุนกับ ELSA Premium ก็เหมือนเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่สดใสของคุณเอง เพราะประตูแห่งความสำเร็จในยุคนี้ก็ต้องยอมรับว่ามันล้วนเปิดออกด้วยกุญแจดอกสำคัญ นั่นก็คือภาษาอังกฤษนั่นเอง
และสำหรับใครที่ยังลังเล ผมมีข่าวดีมาบอก เพียงคุณใช้โค้ด BLUE ในการอัปเกรดเป็นแพ็คเกจ ELSA Pro หรือสมัคร ELSA Premium ในวันนี้ คุณก็จะได้รับส่วนลดสุดพิเศษไปเลย
โดยคุณสามารถดูรายละเอียดที่ลิงค์นี้ https://bit.ly/elsa-blueoclock เพื่อปลดล็อคศักยภาพในการพูดภาษาอังกฤษกับ ELSA ได้เลยครับ