หากคุณมีโอกาสได้นั่งคุยกับ Mark Cuban มหาเศรษฐีพันล้าน นักธุรกิจไอทีชื่อดังจากรายการ Shark Tank และเจ้าทีม NBA อย่าง Dallas Mavericks ที่ ณ ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 4.1 พันล้านเหรียญฯ หรือราว ๆ 1.27 แสนล้านบาท สัก 10 นาที แล้วเริ่มต้นด้วยคำถามว่า “Mark คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่า อะไรคือเหตุผลอันดับ 1 ที่คนส่วนใหญ่ล้มเหลวในการทำธุรกิจ?” โดย Mark Cuban ได้ตอบว่า เหตุผลหลักที่พวกเขาล้มเหลวก็คือ ขาดการเรียนรู้และความพยายามในพัฒนาตนเองและธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
เพราะการทำธุรกิจคือการแข่งขัน หากคู่แข่งที่มีอยู่ในท้องตลาดของคุณ ที่นอกจากจะมีทรัพยากรด้านเงินทุนที่มากกว่า บุคคลากรที่มากกว่า มีคอนเนคชั่นมากกว่า รู้จักลูกค้ามากกว่า แล้วถ้าพวกเขายังมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่มากกว่าก็เป็นอันจบเห่ คุณไม่มีอะไรไปสู้เขาได้เลย ดังนั้น หากตอนนี้ทรัพยากรด้านเงินทุน บุคคลากรหรือคอนเนคชั่นคุณยังสู้คู่แข่งไม่ได้ ดังนั้นอาวุธสำคัญที่สุดที่คุณสามารถสร้างขึ้นมาได้โดยใช้พยายามและความขยันของคุณล้วน ๆ นั่นก็คือ “ความรู้” คุณจำเป็นต้องเป็นคนที่มีความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมมากกว่าใคร ๆ ในวงการนี้
หรือแม้กระทั่งต่อให้คุณขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในแวดวงอุตสาหกรรมนั้น ๆ แต่คุณกลับไม่สนใจการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่จะตามมาก็คือ คู่แข่งที่อันดับต่อจากคุณก็พร้อมที่ล้มคุณอยู่ตลอดเวลา โดยการใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญที่เหนือกว่ามาโค่นล้มธุรกิจคุณ ดังนั้น หาก ณ ตอนนี้คุณขึ้นเป็นเบอร์ต้นของอุตสาหกรรม ให้คุณคิดล่วงหน้าไปเลยว่า อะไรคือสิ่งที่จะมาเหนือกว่าธุรกิจของคุณเองในอนาคต แล้วจงสร้างสิ่งนั้นขึ้นมาให้ได้ก่อนที่คู่แข่งของคุณจะสร้างมันเพื่อมาล้มคุณ ดังนั้น จงหาวิธีเอาชนะธุรกิจของคุณเองด้วยตัวคุณเอง ไม่เช่นนั้นแล้วในท้ายที่สุด ก็มีใครสักคนทำเช่นนั้นกับคุณแทน
และหากคุณเลือกที่เส้นทางที่จะเป็นผู้ประกอบการ ต้องการมีธุรกิจส่วนตัวแล้วล่ะก็ ชุดความรู้ที่มีอยู่ในโรงเรียนนั้นอาจไม่ตอบโจทย์และไม่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ
ดังนั้น คุณจำเป็นที่จะต้องขวนขวายหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการทำธุรกิจเพิ่มเติม โดยสิ่งแรกที่คุณต้องรู้ก่อนก็คือ ถ้าจะทำธุรกิจคุณจะต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง เพราะธุรกิจมันก็จะมีภาษาเฉพาะของมันอยู่ เช่น ภาษาบัญชี ภาษางบการเงิน ภาษากฏหมายแรงงาน ภาษาภาษี ภาษานิติบุคคล ภาษาการเงิน ภาษาการตลาด ภาษาการขาย
ซึ่งภาษาเหล่านี้ ล้วนแล้วจำเป็นต่อการทำธุรกิจแทบทั้งสิ้น หากคุณลงทุนในความรู้ให้กับตนเองอย่างหนักในช่วงเริ่มก่อตั้งบริษัท คุณสามารถจัดการงานเหล่านี้ได้ด้วยตัวคุณเองคนเดียวได้ เพราะแน่นอนว่า เมื่อคุณเริ่มต้นทำบริษัทใหม่ ๆ รายได้ก็น้อย กำไรบริษัทก็ไม่ค่อยมี ครั้นจะไปจ้างนักบัญชี นักการตลาด นักขาย เข้ามาในบริษัทคุณนั้นเป็นจะกลายเป็นภาระที่หนักมาก เพราะมันจะทำให้คุณแทบไม่เหลือกระแสเงินสดหมุนภายในบริษัท และหากกระแสเงินสดติดลบภายในบริษัทแล้ว นั่นก็เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่หลายต่อหลายบริษัทมักจะปิดกิจการไปอย่างรวดเร็วภายในปีแรก ๆ ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นก่อร่างสร้างตัวคุณจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด แล้วหลังจากธุรกิจขยายตัวก็ค่อย ๆ เพิ่มทีมงานที่มีประสิทธิภาพเข้ามา
และในระหว่างที่เรียนรู้กระบวนการเหล่านี้ Mark Cuban ก็พบอีกทักษะหนึ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดในบรรดาวิชาต่าง ๆ ที่มีมาก็คือ “วิชาเรียนรู้วิธีเรียนรู้” ใช่ครับ คุณฟังไม่ผิด ไม่ใช่เป็นการเล่นคำใด ๆ แต่หมายถึงคนเราจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้วิธีเรียนรู้ก่อนที่จะเรียนรู้วิชาใด ๆ ก็ตาม เช่น หากคุณจะเรียนรู้วิธีการขายของออนไลน์ ซึ่งเนื้อหามันมีเยอะมาก ดังนั้นก่อนเริ่มต้นหาความรู้ คุณต้องรู้ก่อนว่า คุณจะต้องทราบก่อนว่า มีหัวข้อใดบ้าง และหัวข้อใดสำคัญมากที่สุดและควรเจาะลึกเนื้อนั้นเป็นอันดับแรก ไม่เช่นนั้นคุณจะเรียนรู้แบบสะเปะสะปะ จนจับใจความไม่ได้ เป็นต้น
และเหตุผลอีกอย่างที่ความรู้เป็นสิ่งสำคัญในโลกยุคปัจจุบันก็เป็นเพราะ โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ความรู้เปลี่ยนไปทุกวัน ซึ่งความรู้เมื่อวานอาจจะใช้ไม่ได้กับวันนี้แล้วก็เป็นได้ และนั่นคือเหตุผลที่คุณควรให้ความสำคัญกับการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
อีกทั้งความหวาดระแวงและความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจคุณนั้น โดยส่วนมากเกิดจากความไม่รู้ แถมบางคนที่เป็นคู่แข่งของธุรกิจคุณรู้มากกว่าคุณ ซึ่งมันจะทำให้คุณตกอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบทางการค้า
คำถามต่อมาก็คือ “Mark Cuban คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่า ถ้าหากเราจะเร่งสปีดในการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องในแวดวงการงานของตนเองให้เร็วยิ่งขึ้น เราสามารถทำอย่างไรได้บ้าง?”
Mark Cuban ได้ตอบว่า มันขึ้นอยู่กับว่า Skill Set หรือทักษะส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องมีติดตัว เพื่อที่จะส่งผลให้บรรจุเป้าหมายในหน้าที่การงานนั้น ๆ ได้ จะต้องมีทักษะใดบ้างที่จำเป็นต้องมีและต้องดีด้วย ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยลิสต์รายการออกมาก่อนว่า จะต้องใช้ทักษะใดบ้าง แล้ว ณ ตอนนี้ คุณให้คะแนนตัวเองจาก 0 เต็ม 10 เท่าไหร่ในแต่ละทักษะ แล้วค้นหาวิธีที่จะพัฒนาทักษะด้านนั้น ๆ ให้เก่งขึ้น แต่อย่ารอให้ทุกอย่างมันเฟอร์เฟ็ค เพราะต้นทุนในการทำให้อะไรสักอย่างมันเฟอร์เฟ็คนั้นก็คือ “เวลา” ที่หมดไปกับการพัฒนา ซึ่งเวลาเป็นสิ่งมีค่าที่ไม่สามารถซื้อกลับคืนมาได้ แต่ให้คุณเรียนรู้ไป ลงมือทำไป พัฒนาไปอยู่ตลอดเวลา
ยกตัวอย่างเช่น หากบริษัทคุณจะสร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นมาสักตัวหนึ่ง ให้คุณสร้างฟังก์ชั่นแบบ MVP ที่ย่อมาจาก Minimum Viable Product ที่หมายถึง สินค้าที่มีฟังก์ชั่นที่เหมาะสมกับลูกค้าและลูกค้าต้องการจริง ๆ ยกตัวอย่างเช่น แอพ Instagram ที่ ณ ปัจจุบันนี้ มีหลากหลายฟังก์ชั่น หลากหลายลูกเล่นมาก ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายรูป แก้ไขรูป ระบุตำแหน่ง วีดีโอ ฟิลเตอร์ แถมล่าสุดที่ Facebook ซื้อกิจการไปก็สามารถลงโฆษณาได้ด้วย ซึ่งแต่เดิมทีตอนที่เปิดตัว Instagram นั้นมีเพียงแค่ ถ่ายรูป แก้ไขรูป แล้วก็ติด tag สถานที่ เท่านั้นเอง ซึ่งเท่านั้นก็เพียงพอที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้ามาสมัครแอพทันทีกว่า 25,000 คนในชั่วข้ามคืน
ซึ่งหาก Instagram มัวแต่พัฒนาฟังก์ชั่นให้มีอย่างครบครันแบบเพอร์เฟ็คแล้วล่ะก็ ตอนนี้ก็อาจจะยังไม่มีแอพให้เราเล่นเลยก็เป็นได้ หรือหากปล่อยช้ากว่านี้ ก็อาจมีใครสักคนที่ทำแอพแบบเดียวกันเติบโตแบบแซงห่างไปแบบไม่เห็นฝุ่นแล้วก็เป็นได้
และหากคุณเริ่มซีเรียสและจริงจังกับการเรียนรู้จากคนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จอย่างสูง วันนี้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลพรีเมี่ยมคอนเท้นต์ได้แล้วบน Blue O’Clock Academy ใน ซีรี่ย์ Top 10 Mentors : 10 สุดยอดบทเรียนจากมหาเศรษฐีรุ่นพี่สอนว่าที่มหาเศรษฐีรุ่นน้องคนต่อไป โดยคุณสามารถลงทะเบียนได้ในราคาพิเศษตามรายละเอียดที่ลิงค์ด้านล่างวีดีโอนี้ได้เลยครับ
Resources