หากวัดจากราคาสูงสุดล่าสุดที่ผ่านมาที่ราคาของ Bitcoin เคยพุ่งสูงกว่า $69,000 ต่อ 1 BTC เมื่อช่วงเดือน พ.ย. 2021 แต่พอมาต้นปี 2022 ในเดือน ม.ค. นี้ ราคาของ Bitcoin กลับร่วงหล่นกว่า -50% มาอยู่ที่ราคาเพียง $34,000 ต่อ 1 BTC นั้น เกิดขึ้นเพราะเหตุใด
โดยในคอนเท้นต์นี้เป็นการสัมภาษณ์ของ Michael Saylor ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท Microstrategy บริษัทมหาชนที่มี Bitcoin มากที่สุด ณ ขณะนี้ที่ราว ๆ 12X,XXX BTC โดยเป็นการสัมภาษณ์จากรายการ Bloomberg Studio 1.0
โดย Michael Saylor บอกว่า การที่ราคาขึ้น ๆ ลง ๆ ของ Bitcoin นั้นมีปัจจัยอยู่หลายอย่าง แต่อย่างแรกที่เขามองก็คือ การที่ทาง Regulator หรือผู้ออกกฎนั้นยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องการออกกฎการควบคุมในตลาด cryptocurrency ว่าตกลงแล้วจะจัดประเภทของเหรียญต่าง ๆ ให้เป็นหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์กันแน่
ส่วนอย่างต่อมาก็คือเกิดจากการที่ตลาด crypto มีการเล่น Leverage คือการที่ผู้คนอาศัย Exchange หรือกระดานเทรดคริปโทฯ ในการเทรดซื้อ ๆ ขาย ๆ ที่เกินกำลังเงินในกระเป๋าของตนเอง ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีและต้องการเทรด Bitcoin 5 ล้านบาท แต่คุณอยากเทรดในวงเงิน 100 ล้านบาท Exchange สามารถให้คุณใช้ Leverage ได้ 20 เท่า นั่นแสดงว่าคุณสามารถยืมเงิน Exchange มาเทรดได้ และถ้าหากคุณเทรดได้กำไรสัก 10% คุณก็จะได้กำไร 10 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่คุณมีต้นทุนแค่ 5 ล้านบาท แต่ได้กำไรเทียบเท่ากับการมีเงินเทรด 100 ล้านบาท
แต่ในทางตรงกันข้ามหากคุณเทรดขาดทุนเพียงแค่ 5% คุณก็จะสูญเสียเงินไป 5 ล้านบาท หรือนั่นก็คือคุณจะสูญเสียเงินทั้งหมดในกระเป๋าไปทันที ซึ่งในตลาด crypto มีการแกว่งของราคาในแต่ละวันที่สูงมาก เพราะในกระดานเทรด Exchange ต่าง ๆ มันถูกออกแบบมาให้สามารถทำกำไรได้ทั้ง short และ long หรือสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง แถมยังเป็นตลาดที่เปิดให้มีการเทรดตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลกอีกต่างหาก แถมกระดานเทรดบางเจ้ายังใช้ Leverage ได้มากกว่า 20 เท่าซะด้วยซ้ำ ซึ่งพอราคากระชากขึ้น กระชากลงคุณก็จะสังเกตข่าวที่ออกตามมาว่า มีนักเทรดสาย long หรือมีนักเทรดสาย short โดนล้างพอร์ทเป็นมูลค่าหลายหมื่นหลายแสนดอลล่าร์อยู่บ่อย ๆ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ตลาด crypto มีความผันผวนที่สูง
ส่วนมุมมองในระยะสั้นภายในปีนี้ ทาง Michael Saylor มองว่า นี่เป็นโอกาสอันดีที่ทางสถาบันการเงินต่าง ๆ จะเข้าซื้อ Bitcoin เพราะตอนนี้ก็เหมือนกับคุณได้ซื้อ Bitcoin ในราคา SALE ที่ราคาลดจากราคาสูงสุดถึง 50% ในขณะที่มหาเศรษฐีอย่าง Bill Miller ที่มีทรัพย์สินมากกว่า $500 ล้านดอลล่าร์ฯ หรือกว่า 16,000 ล้านบาท ได้ออกมาประกาศว่าเขาได้เข้าซื้อ Bitcoin เข้าไปในพอร์ทการลงทุนที่คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 50% ของพอร์ทการลงทุนทั้งหมด ในขณะที่การแนะนำสำหรับรายย่อยและมือใหม่นั้น เขาบอกว่าให้ลองเริ่มต้นที่ 1% ก่อน เพราะมันเป็นทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงที่สูงมาก
ต่อมา Michael Saylor ได้บอกว่า หากเราลองถอยออกมาดูภาพใหญ่ระดับมหภาคของโลกกันก็จะพบว่า ณ ปัจจุบัน ค่า CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภคนั้น แสดงค่า Inflation หรือค่าเงินเฟ้ออยู่ที่ราว ๆ 7% ซึ่งอันที่จริงสินค้าอุปโภคบริโภคหลายอย่างขึ้นเยอะกว่านั้นมาก ๆ อย่างบ้านเราราคาหมูนี่ก็ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 60% ไปแล้ว ถ้าเทียบจากราคากิโลกรัมละ 150 บาท ไปเป็น 250 บาทต่อกิโลกรัม
แถมค่าเงิน Fiat ต่าง ๆ ของโลกใบนี้ ก็กำลังล่มสลาย ไม่ว่าจะเป็นเงินสกุล lira ในประเทศตุรกี เงิน Peso ในอาร์เจนตินา ที่มูลค่าในตัวมันลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเอาเข้าจริงสกลุเงินต่าง ๆ ทั่วโลกมี Purchasing Power หรืออำนาจในการจับจ่ายใช้สอยที่ลดลงทุกสกุลอยู่แล้ว เพียงแต่สกุลเงินดอลล่าร์นั้นยังคงดูดีสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่าง ๆ อยู่ก็เท่านั้นเอง
ดังนั้นนักลงทุนต่าง ๆ ก็ไม่คิดที่จะเก็บเงินสดเอาไว้ พวกเขาก็มักจะนำเงินไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างหุ้นในตลาด S&P 500 ที่มีอัตราการเติบโตที่ดีกว่า และสามารถรักษาความมั่งคั่งของพวกเขาเอาไว้ได้
แต่หากพูดถึงคนทั่วโลกจำนวนกว่า 75% นั้น ก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนั้นได้ พวกเขาไม่สามารถเข้าซื้อหุ้นในตลาด S&P 500 ได้เนื่องจากเจอกำแพงข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่อยู่นอกประเทศสหรัฐอเมริกา
คำถามก็คือ แล้วถ้าพวกเขาไม่มีที่จะให้เปลี่ยนเงินสดไปเป็นสินทรัพย์อย่างอื่นล่ะ พวกเขามีทางเลือกใดอีกบ้าง ซึ่ง Michael Saylor ก็บอกว่าสิ่งนั้นก็คือ Bitcoin นั่นเอง
คำถามต่อมาก็คือ แล้วราคา Bitcoin ลงมาขนาดนี้ ทาง Michael Saylor ยังจะคงเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอยู่อีกหรือไม่ เขาก็ตอบว่า แน่นอนเขาซื้อเพิ่มตลอด เพราะเขากำลังมีมุมมองในอนาคตว่า โลกกำลังเข้าสู่ยุคของ Bitcoin Standard ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้รับเงินมาในรูปแบบของเงิน Fiat หรือเงินดอลล่าร์นั้น เขาก็จะทำการเปลี่ยนมันไปเป็น Bitcoin ให้หมด
และแน่นอนว่า ผู้คนต่างก็มีควารมคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปเมื่อมองมาที่ Bitcoin ซึ่งหลายคนมองว่า มันคือเกมการเงิน มันคือสิ่งที่ไม่มีมูลค่า มันคืออากาศธาตุ แต่ในขณะที่อีกหลายคนเช่นกันที่มองว่า Bitcoin มันจะมาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้
และสุดท้าย Michael Saylor ก็ได้ทิ้งท้ายด้วยคำแนะนำสั้น ๆ สำหรับมือใหม่หรือใครก็ตามที่อยากเริ่มต้นหรือพึ่งเริ่มต้นเข้าสู่ตลาด crypto
โดยเขาบอกว่าเวลาที่คุณลงทุนอะไรก็ตาม อย่างแรกที่คุณจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือ การศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะลงทุนให้ดี จนคุณมั่นใจว่าคุณมีความรู้ที่มากพอ ดีพอ และในระหว่างที่คุณกำลังศึกษาอยู่นั้น คุณยังไม่ต้องทำอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเมื่อคุณลงทุนในสิ่งที่คุณไม่มีความเข้าใจในสิ่งนั้น มันคือความเสี่ยงอย่างยิ่งในการลงทุน
กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin & Cryptocurrency
อันดับ 1 ของไทย คนส่วนใหญ่นึงถึง Bitkub
อันดับ 1 ของโลก คนส่วนใหญ่นึกถึง Binance
*หมายเหตุ : คอนเท้นต์นี้ไม่ใช่การแนะนำในการลงทุน เป็นการจัดทำเพื่อเป็นกรณีศึกษาจาก Raoul Pal เท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาและตัดสินใจลงทุนด้วยตัวท่านเอง
Resources